ญาติร้องให้ตรวจสอบชายวัย 44 ปี เสียชีวิตจากภาวะเลือดออกที่แกนสมอง แต่ปรากฏว่าตรวจสอบสภาพศพน้ำลายฟูมปาก-เล็บดำ พบแฟนสาวคนตายรู้จักกับแอม หวั่นเป็นเหยื่ออีกราย
ทีมข่าวได้รับข้อมูลว่า มีการตายใหม่ที่ญาติสงสัยว่าเกี่ยวกับแอมหรือไม่ คือ นายเกี่ย อายุ 44 ปี เสียชีวิตวันที่ 13 มกราคม 2561 แต่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นการตายด้วยโรคประจำตัว
โดยมีกล้องวงจรปิดบันทึกนาทีเกิดเหตุ ภายในคอนโดแห่งหนึ่งย่านอ่อนนุช ถ.สุขุมวิท กรุงเทพฯ ช่วงบ่ายของวันที่ 13 มกราคม 2561 จะเห็นนายเกี่ยใส่เสื้อสีขาวเดินออกมาจากประตูห้องพัก ซึ่งเจ้าตัวมีท่าทีอ่อนแรงเดินเซ ยืนไม่ไหว แต่พยายามเคาะประตูห้องพักของเพื่อนบ้านที่อยู่ตรงข้าม แต่เพื่อนบ้านไม่ยอมเปิด จึงเดินกลับเข้าห้องพัก
ปรากฏว่าเข้าห้องได้สักพักก็ออกมาใหม่ และพยายามเคาะประตูห้องเพื่อนบ้านหลายครั้ง ต่อมาไม่สามารถประคองตัวเองยืนได้ และล้มลงกับพื้น มีท่าทีทุรนทุรายและชักเกร็งก่อนแน่นิ่ง จนกระทั่งทางนิติคอนโด และรปภ.เห็นเหตุการณ์ จึงรีบแจ้งกู้ภัยให้เร่งนำตัวนายเกี่ยส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
แพทย์ที่ชันสูตรระบุว่า เสียชีวิตจากภาวะเลือดออกที่แกนสมอง ซึ่งทางทีมข่าวช่อง8 ได้รับแจ้งข้อมูลบางส่วนจากทางครอบครัวผู้เสียชีวิตว่า ยังคงติดใจสภาพศพของนายเกี่ย เนื่องจากศพมีน้ำลายฟูมปากและบริเวณเล็บมือเป็นสีดำ ทางญาติได้ตรวจสอบห้องพักภายในคอนโดของนายเกี่ย พบว่าบริเวณโต๊ะทำงานของนายเกี่ย มีแคปซูลสมุนไพรหลายเม็ดกระจายวางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งไม่ทราบว่านายเกี่ยได้กินเข้าไปหรือไม่ โดยญาติไม่ได้ถ่ายรูปแคปซูลสมุนไพรไว้เพราะตอนแรกคิดว่านายเกี่ยกินยาฆ่าตัวตาย ต่อมาเห็นข่าวจับกุมตัวแอม จึงสงสัยว่าลักษณะการเสียชีวิตของนายเกี่ยไปคล้ายกับเหยื่อแอม จึงร้องเรียนไปทางนายรพีเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้สิ้นสงสัย
ทีมข่าวช่อง 8 ได้ไปพูดคุยกับครอบครัวของนายเกี่ย โดยนายต้อง (นามสมมติ) อาของนายเกี่ย อายุ 75 ปี เล่าว่า ก่อนที่ตนจะร้องเรียนกับนายรพีเพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงของการเสียชีวิตหลานชาย โดยได้พูดคุยกับพี่สาวของคนตาย ให้ข้อมูลกับตนว่าพบข้อพิรุธอาจจะไม่ได้เสียชีวิตเพราะภาวะเลือดออกในสมองอย่างเดียว เพราะเล็บดำและน้ำลายฟูมปาก คล้ายถูกวางยาหรือกินบางอย่างเข้าไป แต่ตอนนั้นไม่ได้ส่งศพตรวจชันสูตรอย่างละเอียด เพื่อตรวจว่าเลือดมีความผิดปกติหรือไม่ แต่ทางครอบครัวได้เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อไว้
ตนจึงแจ้งข้อมูลไปยังนายรพี แต่เบื้องต้นนายระพีบอกว่า การตายของหลานชายตนอาจไม่เกี่ยวข้องกับคดีแอม ในส่วนนี้ทางครอบครัวยืนยันจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อ โดยการนำตัวอย่างเนื้อเยื่อศพหลานชายไปตรวจสอบเองเพื่อให้สิ้นข้อสงสัยว่าในร่างกายหลายชายได้รับสารอันตรายก่อนเสียชีวิตหรือไม่ หากพบมีสารพิษจริง ก็ต้องแจ้งความหาคนทำต่อไป
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนางน้อง (นามสมมติ) อายุ 50 ปี พี่สาวนายเกี่ย เล่าว่า ช่วงเดือนตุลาคม 2560 น้องชายระบายความอัดอั้นตันใจให้ฟังว่า แม่ของแฟนสาวไปเล่นแชร์กับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ไม่บอกว่าเป็นใคร โดยมีหนี้แชร์ต้องจ่าย ทำให้ตนต้องออกเงินที่เช่าซื้อคอนโดกับแฟนสาวเพียงลำพังในช่วงนั้น เพราะแฟนสาวต้องเคลียร์หนี้ของแม่ โดยมีแชตไลน์ที่น้องชายทะเลาะกับแฟนสาว โดยแฟนสาวขอให้น้องชายเคลียร์เรื่องคอนโด จากนั้นต่างคนต่างไป แต่น้องชายพยายามบอกว่าช่วยกันแก้ปัญหานะ
ต่อมา น้องชายเสียชีวิตลงช่วงมกราคม 2561 ทำให้ตนต้องเดินทางไปทำธุรกรรมคอนโดกับแฟนสาวน้องชายและแม่ของแฟนสาว โดยนัดทำธุรกรรมการเงินช่วงเดือนมีนาคม ปรากฏว่าวันนั้นทางแม่ของแฟนสาวน้องชายได้พาคนนอกมาด้วย 2 คน อ้างว่าเป็นเพื่อน คือ สองสามีภรรยาซึ่งรูปร่างลักษณะคล้ายแอมกับสามีที่เป็นตำรวจ แต่ตนไม่ได้สอบถามรายละเอียดกับแม่ของแฟนสาวน้องชาย ว่ารู้จักกันและสนิทสนมกับสองคนที่มาด้วยตั้งแต่ตอนไหน
ตนจึงคาใจในการเสียชีวิตของน้องชายว่าจะเกี่ยวข้องกับคดีแอมหรือไม่ แต่ถ้าไม่เกี่ยวข้องก็อยากให้ตรวจตัวอย่างเนื้อเยื่อของน้องชายอีกครั้งเพื่อให้สิ้นสงสัย
ขณะที่ทีมข่าวพยายามติดต่อสอบถามกับอดีตแฟนสาวของนายเกี่ยทางโทรศัพท์เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ปรากฎว่าอีกฝ่ายไม่รับสาย