พิพากษา"ปอ-โรเบิร์ต" วันนี้ !! "แม๊" ยิ้มรับหากผลตัดสินรอลงอาญา ก็เชื่อว่าเป็นเรื่องดีของจำเลยทั้ง 2 เพราะดูแลตนเองมาด้วยดีตลอดมา
10 พ.ค. 66 ที่ศาลอาญาจังหวัดนนทบุรี เป็นวันพิพากษาในคดีการเสียชีวิตของ นางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ดาราสาว ที่พลัดตกเรือเสียชีวิต ในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา
ศาลมีการนัดนายตนุภัทร หรือ ปอ เลิศทวีวิทย์ และนายไพบูลย์ หรือ โรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์ จำเลยที่ 1 และ 2 ในคดี มาทำการฟังคำพิพากษาหลังจากที่ทั้งสองคน ให้การรับสารภาพในชั้นตรวจสอบพยานหลักฐานเมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา
เวลา 08:39 น. ที่ผ่านมานายไพบูลย์ หรือ โรเบิร์ต ได้เดินทางมาถึงโดยรถยนต์ส่วนตัวโดยเมื่อเจอกับสื่อมวลชนที่เฝ้ารอสังเกตการณ์อยู่บริเวณหน้าศาลสื่อมวลได้มีการสอบถามว่าในวันนี้ มีความคิดว่าศาลจะลงโทษหนักเบาอย่างไร นายโรเบิร์ต ไม่ได้ตอบคำถามใดใดกับสื่อมวลชนเพียงแต่ขออนุญาตในการเดินทางขึ้นไปสู่ห้องพิจารณาคดี
ต่อมา เวลา 08.50 น. นายตนุภัทร หรือ ปอ ได้เดินทางมาถึงบริเวณศาลโดยมีสีหน้าท่าทางสบายใจโดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามในประเด็นเดิมเช่นเดียวกับที่สอบถามทาง นายไพบูลย์ หรือ โรเบิร์ต ซึ่งนายตนุภัทร ได้ตอบคำถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ตนเองเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม 100 เปอร์เซ็นต์ ก่อนจะขอตัวเดินขึ้นสู่ห้องพิจารณาคดี
เวลา 08.52 น. นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดา แตงโม พร้อม นาย ชัยวัฒน์ โลมากุล ที่ปรึกษากฎหมาย ได้เดินทางมาถึงยังศาลโดยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนด้วยสีหน้าท่าทางสบายใจ ว่าในวันนี้ส่วนตัวไม่ได้มีการคาดหวังคำพิพากษาในทิศทางใดเพราะเชื่อว่าศาลจะมีดุลพินิจเป็นไปตามข้อเท็จจริง เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความเป็นไปได้ว่าหากศาลมีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำเลยที่หนึ่งและสองแต่ให้มีการรอลงอาญาเนื่องจากทั้งคู่มีการให้การรับสารภาพและมีการชดใช้เยียวยาไปแล้วตัวคุณแม่จะมีความรู้สึกอย่างไร ซึ่งในประเด็นนี้นางภนิดา ได้ตอบคำถามว่า หากศาลมีคำพิพากษาเป็นไปตามนี้ก็ถือเป็นเรื่องดีกับตัวจำเลยทั้งสอง เพราะทั้งสองคนหลังจากเกิดเรื่องได้มีการเข้ามาพูดคุย สำนึกผิดและชดใช้ดูแลตนเองมาโดยตลอด ซึ่งทั้งสองคนยังคงเยียวยาช่วยเหลือตนเองมาจนถึงปัจจุบันอย่างสม่ำเสมอ เพราะมีการจ่ายเงินมห้ตนเองทุกวันที่ 1 ของเดือนเป๊ะเสมอมา
ส่วนคำตัดสินในวันนี้จะส่งผลกระทบไปถึงการพิจารณาคดีของสี่จำเลยที่จะมาถึงในอนาคตหรือไม่ตนเองยังไม่รู้สึกวิตกกังวลแต่อย่างใด ก็ขอให้ว่ากันไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย และหากว่าผลการตัดสินของสี่จำเลยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมีไปในทิศทางเดียวกันกับสองจำเลยที่อาจจะเกิดขึ้นในวันนี้ ตนเองคงคัดค้านอะไรไม่ได้
ขณะที่ นายชัยวัฒน์ ระบุเสริมว่า ในการพิจารณาคดีในวันนี้ตนเองจึงมีการยื่นหนังสือขอยกเลิกสัญญาที่ได้ทำไว้กับ จำเลยทั้งหกเมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมาพี่ขนาดนั้นเป็นการทำสัญญาให้จำเลยทั้งหกร่วมกันชดใช้เยียวยาคุณแม่ ซึ่งในเวลาต่อมามีการชดใช้เงินก้อนแรก เป็นเงินโบนัสก้อนหนึ่งที่ไม่ขอเปิดเผยจำนวนเงิน ก่อนจะมีการชำระเงินอีก จำนวน 9,200,000 บาท ซึ่งทางคุณแม่เข้าใจว่าเป็นเงินที่มาจากจำเลยทั้งหกก่อนที่จะมาทราบจากจำเลยที่หนึ่งและสองว่าเงินจำนวนดังกล่าวที่มีการจ่ายมาเป็นเงินของจำเลยที่หนึ่งและจำเลยที่สองส่วนจำเลยที่เหลือไม่ได้มีการร่วมชดใช้ในเงินก้อนดังกล่าว ซึ่งถือว่าผิดข้อสัญญาที่ ได้มีการตกลงกันไว้ในวันนี้จึงจะมีการยกเลิกสัญญาฉบับเก่าและจัดทำสัญญาฉบับใหม่ซึ่งในสัญญาฉบับนี้จะเป็นสัญญาที่ทำขึ้นกับจำเลยที่หนึ่งและสองเพลงเท่านั้นโดยมีการเพิ่มเติมเงินโบนัสรายปีซึ่งไม่ขอเปิดเผยจำนวนเงินให้กับคุณแม่ไปจนกว่าคุณแม่จะพอใจ ซึ่งจำเลยที่หนึ่งและจำเลยที่สอง ได้รับทราบถึงข้อสัญญาดังกล่าวแล้วและตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยในวันนี้จึงจะเป็นการเซ็นสัญญาต่อหน้าศาล เพื่อบังคับใช้สัญญาฉบับใหม่ส่วนศาลจะมีคำวินิจฉัยในการที่จะเรียกจำเลยที่หนึ่งถึงหกมาไต่สวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับสัญญาฉบับเก่าหรือไม่ ก็ขอให้เป็นดุลพินิจของศาลอีกครั้ง
นอกจากนี้ทางส่วนของคุณแม่ภนิดา ยังได้มีการถอนทนายความที่ ทำคดีนี้ออกไปบางรายเนื่องจากมีความเห็นทางกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินการทางคดีที่ไม่สอดคล้องกัน แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการทางคดีที่เหลือ