พ่อบินตรงจากอังกฤษ บุกด่าฆาตกรฆ่าลูก ค้นป่าหา "ปิงปอง" ไอ้เหี้ยมไม่ปริปาก
10 พ.ค. 2566 เช้านี้ พล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผบก.ภ.จว.ลำปาง ได้เดินทางมาที่ สภ.แม่ทะ ร่วมสอบสวนนายชัยวัฒน์ หรือวัฒน์ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาฆ่านายเบญ อายุ 17 ปี ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ด้วยตัวเอง ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถเตรียมไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ขณะที่ บรรดาญาติพี่น้องและพ่อแม่ของนายเบญได้ส่งเสียงตะโกนด่าทอผู้ต้องหาตลอดเวลา จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถ ทางด้านผู้เป็นพ่อของผู้ตายที่เดินทางมาจากอังกฤษ ทันทีที่ได้เห็นหน้าของผู้ต้องหาที่ฆ่าลูกชาย ได้แสดงสีหน้าและอารมณ์ที่โกรธแค้น พร้อมตะโกนต่อว่าผู้ต้องหาเป็นภาษาอังกฤษ ในความหมายว่า “ไอ้สัตว์นรก” เขาอายุยังน้อยทำไมถึงทำกันได้ลงคอ จากนั้นเพียงไม่นานก็มีบรรดาญาติพี่น้องของผู้ตายเดินทางมาสบทบอีกเป็นจำนวนมาก จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ปลอดภัย
จากนั้นคุมตัวนายชัยวัฒน์ ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จุดแรกคือจุดที่ผู้ต้องหาให้การว่าเป็นจุดนัดพบกับเบญ โดยผู้ต้องหาได้นำรถของผู้ตายขึ้นไว้บนรถกระบะ ซึ่งเป็นรถของพ่อผู้ก่อเหตุ โดยให้นายเบญนั่งหน้ารถมากับตน
จนมาถึงจุดที่สอง ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาบอกว่าเป็นจุดที่นายเบญซ่อนของเอาไว้ จึงให้นายเบญไปค้นหาแต่ไม่เจอ จนโมโหและได้ลงมือก่อเหตุฆ่านายเบญ โดยอ้างว่าใช้ท่อนไม้แถวนั้นกระทุ้งไปที่หน้าของนายเบนจนถึงแก่ความตาย และทิ้งศพไว้ยังจุดนี้
ด้านญาติพี่น้องและครอบครัวของนายเบญที่ได้มาเฝ้าติดตามการทำแผนต่างโกรธแค้น ตะโกนด่าทอผู้ก่อเหตุและพยายามจะเข้าไปรุมทำร้ายจนชุลมุนขึ้นหลายครั้ง
ญาติได้ตะโกนบอกตำรวจอยู่ตลอดว่า “คุณตำรวจไม่ต้องหา จุดนี้ยังไงก็หาตัวปิงปองไม่เจอ ถ้าตายก็ต้องเจอตัวแล้ว” ด้านนางอ้อยใจ ผู้เป็นแม่ ได้ส่งเสียงตะโกนบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าผู้ต้องหาไม่ได้ใช้ไม้ แต่ใช้เสียมที่ฆ่าลูกชายของตน “มึงเอาเสียมที่ฆ่าลูกกูไปทิ้งไว้ที่ไหน” โดยตำรวจเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ชุลมุนจึงไม่อนุญาตให้สื่อและญาติเข้าไปในพื้นที่จุดเกิดเหตุ
ผู้ต้องหาได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หลังจากที่ลงมือฆ่านายเบญที่จุดนี้แล้ว จึงได้นำท่อนไม้ที่ใช้เป็นอาวุธไปโยนทิ้งเพื่อทำลายหลักฐานยังจุดที่สาม ซึ่งเป็นบริเวณริมทางของถนนสายแม่ทะ-สบปราบ ซึ่งอยู่ห่างจากกันไปเพียงไม่กี่สิบเมตร
หลังจากนั้นได้ขับรถมุ่งหน้าตรงไปยังบ้านของนายโค อายุ 88 ปี ซึ่งเป็นตาทวดของผู้ก่อเหตุ เพื่อนำรถของผู้ตายไปฝากไว้ ซึ่งจุดนี้ทีมข่าวได้พบกับนายโค เจ้าของบ้านเล่าว่า ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่า หลังจากที่นายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหา เดินทางมาถึงบ้านได้ตะโกนบอกกับตนว่า จะนำรถมาฝากไว้ ซึ่งขณะนั้นตนยังอยู่ภายในบ้านไม่ได้ออกมาเจอหน้านายชัยวัฒน์ แต่ก็ได้สังเกตเห็นว่าหลานมาเพียงคนเดียว และยังขอเข้ามาล้างมือในบ้าน และก่อนที่นายชัยวัฒน์จะขับรถออกไปจึงตะโกนถามไปว่าจะไปที่ไหน ผู้ต้องหาตะโกนตอบกลับมาว่า “จะออกไปหาบ้านเช่าให้เมียน้อย” จากนั้นไม่นานก็ได้ขับรถออกไป โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าที่ลงมือก่อเหตุลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
นอกจากนี้ ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.แม่ทะ และ ตชด.เชียงใหม่ จำนวนเกือบ 50 นาย พร้อมสุนัขตำรวจ 2 นาย ระดมค้นหาน้องปิงปอง วัย 16 ปี ในรัศมี 3 กม. จากจุดที่สัญญาณโทรศัพท์มือถือหายไป แต่ก็ยังไม่พบตัว
ตำรวจจึงได้สืบข้อมูลจากโซเชียลอีกทางหนึ่ง ทั้งการตรวจสอบข้อมูลจากเฟซบุ๊ก กู้ข้อมูลแชตที่ถูกลบ ตรวจสอบแชตของเพื่อนปิงปอง และตรวจสอบเบอร์โทรเข้าออก และข้อมูลสนทนาของนายชัยวัฒน์
ทีมข่าวช่อง 8 ไปพบนายสุพจน์ และนางสุธาสินี พ่อและแม่ของน้องปิงปอง ซึ่งเดินทางมาจากไต้หวันเพื่อหาลูกสาว หลังหายตัวไป 4 วันแล้ว
นางสุธาสินี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ในวันคืนวันที่ 6 พ.ค. ก่อนที่ลูกสาวจะซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ออกไปกับนายเบญ ยังได้คุยโทรศัพท์อยู่เลย ลูกสาวได้พูดถึงเรื่องทำฟัน และขอเงินทำฟัน 2,500 บาทเพียงเรื่องเดียว ไม่ได้พูดถึงบุคคลใดหรือเรื่องใดๆ ให้ฟังอีกเลย
จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าลูกสาวหายตัวไป รู้สึกตกใจมาก จึงรีบเดินทางกลับมาไทยพร้อมกับสามี หวังว่าลูกสาวยังมีชีวิตและกลับมาอย่างปลอดภัย ยืนยันไม่เคยเห็นหรือรู้จักกับนายชัยวัฒน์ เพราะลูกสาวไม่เคยเอ่ยถึงคนๆ นี้ให้ฟังเลย