แฉอีก!อดีตพระคมสุดเหี้ยมสั่งฆ่าหมาวัด แม่พระหมอปัดลูกรู้เห็น
ภายหลังเกิดเหตุฉาวสะเทือนวงการสงฆ์ "อดีตพระอาจารย์คม" พร้อมพวก ร่วมกันยักยอกเงินวัดป่าธรรมคีรี ซึ่งตอนแรกยอดเงินประมาณ 180 ล้าน แต่ต่อมารับสารภาพว่า เริ่มยักยอกเงินตั้งแต่ปี 63 และยอมบอกจุดที่ซ่อนทองคำและเงินสด ที่มีการฝังดินบนเขาหลังวัด ทำให้ทรัพย์สินที่ตรวจพบ มีมูลค่าเกือบ 300 ล้านบาท โดยตัวของผู้ต้องหาถูกส่งเข้าเรือนจำไปแล้ว
โดยในแนวทางการสอบสวนเบื้องต้น อดีตพระอาจารย์คม รับสารภาพว่าเสพเมถุนด้วย
ล่าสุด ทีมข่าวช่อง8 ลงพื้นที่จ.ขอนแก่น โดยได้สอบพูดคุย กับแม่ของอดีตพระหมอ หรือ นายวุฒิมา อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี ซึ่งตกเป็น 1 ในผู้ต้องหา ที่ถูกจับกุมพร้อมกับอดีตพระคม
โดยแม่ของอดีตพระหมอ เปิดเผยว่า มีลูก 4 คน โดยนายวุฒิมา หรือ อดีตพระหมอ เป็นคนสุดท้อง พอเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในปี 2540 นายวุฒิมา หรือ อดีตพระหมอ ได้บวชอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับบิดาที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จากนั้นก็บวชมาโดยตลอด ซึ่งช่วงที่บวชช่วงแรกอยู่ที่วัดในหมู่บ้านได้ประมาณ 2 พรรษา ก่อนจะมีไปศึกษาธรรม หรือบวชเรียนต่อที่วัดในอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนจบปริญญาตรี ซึ่งช่วงที่บวชเรียนศึกษาธรรมอยู่ที่วัดที่อำเภอวังน้อย ได้รู้จักกับนายคม หรือ พระคม ที่มาเรียนที่เดียวกัน ก่อนจะสนิทสนมกัน และเมื่อปี 2555 ได้ชักชวนกันมาอยู่ที่วัดป่าธรรมคีรีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และพระหมอก็ไม่ค่อยได้กลับมาบ้าน
แม่ของอดีตพระหมอ บอกว่า ช่วงที่ลูกชายอยู่ที่วัดป่าธรรมคีรี ตนเองเคยได้ไปปฏิบัติธรรมบ่อย ส่วนใหญ่ลูกชายก็ส่งคนมารับ ล่าสุดที่ไปปฏิบัติธรรมเมื่อช่วงเข้าพรรษาปีที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เข้าไปพูดคุยกับลูกชายมากเท่าไหร่หนัก เจอหน้าก็มีถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันตามปกติ แต่ไม่ได้คุยกันนาน เพราะลูกชายยุ่งกับการสร้างศาลา สร้างนั่นสร้างนี่
ทั้งนี้ แม่ของอดีตพระหมอ บอกอีกว่า พอเห็นข่าวยอมรับว่าตกใจ จนจะเป็นลม ไม่เชื่อว่าลูกจะยักยอกเงินวัดจริง แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น เนื่องจากลูกชายมีอำนาจในการเบิกถอนเงิน ทุกวันนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับ มา 3 วันแล้ว เพราะไม่อยากเชื่อว่าลูกชายจะมีพฤติกรรมยักยอกเงินวัด ตั้งแต่ลูกชายบวชจนเป็นเจ้าอาวาสวัด เป็นเวลา 27 ปี ให้เงินแม่แค่ครั้งเดียว จำนวน 10,000 บาท เพื่อให้ไปชื้อผ้าไหมมาถวาย ช่วงที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดแค่ครั้งเดียว ยืนยันลูกบริสุทธิ์ ไม่มีส่วนในการยักยอกเงินวัด โดยส่วนตัวเชื่อว่าลูกจะทำแบบนี้
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้ไปสอบถาม ด้านนายสุรศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ตำบลปอแดง อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น เผิดเผยว่า ตั้งแต่ที่อดีตพระหมอบวชเรียนมา จนกระทั่งได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัด อดีตพระหมอได้ชวนญาติโยม ญาติพี่น้องทำกฐินไปถวายวัดป่าธรรมคีรี แค่ไม่กี่ครั้ง และแต่ละครั้งได้เงินไม่กี่พันบาท มากสุดประมาณ 10,000 บาท
ส่วนที่ว่าอดีตพระหมอจะยักยอกเงินไปทำอะไร ตนเองไม่ทราบ แต่ไม่ได้นำเอามาให้ทางครอบครัวแน่นอน เพราะแม่และพี่สาว ยังลำบาก ทำงานทำการ
และที่อดีตพระหมอหรือนายวุฒิมาจะยักยอกเงินวัดมาใช้ส่วนตัว ตนเองยิ่งไม่เชื่อ เพราะทุกครั้งที่อดีตพระหมอกลับมาเยี่ยมบ้าน ก็ใช้ชีวิตสมถะ ไม่หรูหรา ถ้ายักยอกเงินมาใช้ส่วนตัวจริง ที่บ้านต้องสุขสบายกว่านี้
ส่วนเรื่องที่ว่าจะถูกหลอกใช้ไหม ตนเองไม่ขอออกความคิดเห็น ไม่อยากปรักปรำใคร เพราะไม่ได้อยู่ใกล้ชิด แต่ถ้าจะให้ยืนยันตั้งแต่ที่รู้จักนายวุฒิมาหรืออดีตพระหมอมาตั้งแต่เด็ก ก่อนจะย้ายไปเรียนที่ในอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวุฒิมาหรืออดีตพระหมอ เป็นคนดี เป็นคนใจบุญ ชอบทำบุญ ชอบชวนญาติพี่น้องไปทำบุญ ถวายกฐินตามวัดต่าง ๆ
ตอนนี้เป็นห่วงสภาพจิตใจนางเบา และไม่คิดว่านายวุฒิมาจะยักยอกเงินวัดมาใช้ส่วนตัว
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้สอบถามข้อมูลกับนายโชค โดยเปิดใจกับทีมข่าวช่อง8ว่า เป็นคนพาอดีตพระคมมาที่วัดป่าธรรมคีรี สมัยก่อนตอนที่บวชแตกต่างจากตอนนี้ เดิมทีมีแต่กระท่อมไม้ แต่สาเหตุที่ต้องตัดสินใจแตกหักกับอดีตพระคม เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว เนื่องจากช่วงหลังๆ เตือนอะไรอดีตพระคมไม่ยอมฟัง โดยกล่าวหาว่าโกงเงินวัดไป 20,000 บาท ทั้งที่ผมไม่ได้ทำ ซึ่งก่อนหน้านั้น เคยไปตักเตือนเรื่องพาคนมามั่วสุมในกุฏิ ซึ่งไม่เหมาะสม มีทั้งชายและหญิง
นอกจากนี้ นายโชค ยังกล่าวอ้างว่า อดีตพระคมชอบทุบตีพระ และสั่งให้เอาหมาแมวออกไปนอกวัด
ส่วนทรัพย์สิน เท่าที่รู้มาตอนแรกอดีตพระคมไม่มีเงิน ตอนนั้นมีหลักล้าน ไม่ได้มีมากขนาดนี้ แต่หลังๆ ไม่ได้เข้าไป ไม่ได้ติดต่อ จึงทำให้ไม่ทราบ