ญาติเหยื่อ "แอม" ร่วมอาลัยก้อยครั้งสุดท้าย ลูกใจสลายส่งแม่ขึ้นสวรรค์

วันที่ 10 พ.ค. 2566 บรรยากาศงานฌาปนกิจของ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย อายุ 32 ปี ที่เสียชีวิตหลังแอมชวนไปทำบุญปล่อยปลาที่ท่าน้ำ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ทางครอบครัวของอ้อยจัดงานที่วัดสิงห์ไพบูลย์ประชาสรรค์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งญาติได้ปริ้นต์ข้อความจดหมายที่น้องข้าวหอม อายุ 10 ปีลูกสาวของก้อย เขียนความในใจถึงฆาตกร ติดไว้อยู่ภายในศาลาเมรุในวัด คนที่มาร่วมงานต่างอ่านข้อความอย่างโศกเศร้าเสียใจ โดยข้อความระบุว่า

“ฆ่าแม่หนูทำไม แม่หนูไปทำอะไรให้ ทำไมถึงมาฆ่าแม่ หนูถ้าย้อนไปได้หนูขอให้แอมเป็นแทนแม่หนูได้ไหม ถ้าฆ่าคนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัวหนูหนูไม่ว่านะ แต่มาฆ่าแม่ที่หนูรักมาก หนูเสียใจมากนะ สิ่งที่ทำกับแม่หนูแม่หนูกำลังมีความสุข มาฆ่าแม่หนูทำไมแล้วชีวิตนี้หนูจะอยู่กับใคร ชีวิตนี้หนูไม่มีแม่หนูหนูไม่มีความสุขเลย ตอนที่แม่ของหนูมีความสุขมากๆ แต่ตอนนี้หนูไม่มีแม่ชีวิตเศร้ามาก ทำไมหนูไม่เหมือนครอบครัวคนอื่นเลย หนูรักแม่มากหนูขาดแม่ไม่ได้ ทุกคืนหนูต้องหอมแม่ทุกคืน ถ้าหนูรู้ว่าแม่หนูจะจากไป หนูขอจับมือแม่นานนานได้ไหม ทำไมคนชั่วต้องมาฆ่าแม่หนูด้วย”

ช่วง 09.00 น. ครอบครัวของก้อยพร้อมหน้ากัน เพื่อร่วมประกอบพิธีเคลื่อนร่างก้อยจากบนศาลาวัดมายังบริเวณหน้าเมรุ เพื่อประกอบพิธีประชุมในช่วง14.00 น. โดยลูกสาวของก้อยใส่ชุดกระโปรงสีขาว และถือรูปของแม่ตลอดพิธีวันนี้ โดยมีท่าทีเงียบขรึม และจ้องมองโลงศพของแม่ตลอดที่ทำพิธี ซึ่งมีนางสาวนิภาวรรณ หรือส้ม อายุ 35 ปี พี่สาวของก้อย ยืนอยู่ข้างๆ คอยปลอบใจขณะทำพิธี

บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า ญาติ เพื่อนก้อย และชาวบ้านตั้งแถวไว้อาลัยขณะทำพิธีเคลื่อนย้ายร่างก้อยมาบริเวณหน้าเมรุ ครอบครัวของก้อยยังได้ทำข้าวต้มเครื่องเมนูของโปรดก้อยแจกจ่ายคนในงานเป็นทาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับก้อย เพราะที่ผ่านมาก้อยชอบทำบุญและช่วยเหลือคนมาโดยตลอด

นอกจากนี้ ยังมีครอบครัวของเหยื่อแอม 5 ครอบครัว มาร่วมงานด้วย คือ 1.ครอบครัวของนางจันทรรัตน์ หรือจุ๋ม เสียชีวิตที่บ้านพักในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 2.ครอบครัวของนางมณฑาทิพย์ หรือทราย อายุ 37 ปี ชาวกำแพงเพชร ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2558 ภายในคอนโดฯ ย่านทองหล่อ กรุงเทพฯ 3.ครอบครัวของ น.ส.ผุสดี หรือครูอ๊อด อดีตข้าราชการครู วัย 39 ปี ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 พ.ย.2565 ในบ้าน ต.บำลูกบัว อ.ดอนตูม จ.นครปฐม 4.ครอบครัวของนางสาวกะณิกา หรือเอ๊ะ อายุ 44 ปี เสียชีวิต 12 ก.ย. 2565 ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณวงเวียน โพธาราม จ.ราชบุรี และ 5.ครอบครัวของ ร.ต.อ.(หญิง) ภิญญดา หรือผู้กองนุ้ย อายุ 46 ปี รอง สว.ธร.สภ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2561

โดยก่อนพิธีประชุมเพลิง นางปุ้ย อายุ 54 ปี พี่สาวอดีตสามีก้อย เดินทางมาถึง และได้เคาะโลงบอกก้อยว่าให้ไปสู่สุคติ โดยไม่ต้องเป็นห่วงหลานเพราะจากนี้ทุกคนจะดูแลหลาน

ต่อมาพี่สาวอดีตสามีก้อยก็มานั่งคุยและปลอบใจน้องข้าวหอม พร้อมสอนว่าอย่าไปโพสต์เฟซบุ๊กด่าทอฆาตกร เพราะหอมเป็นเด็กต้องมีจิตใจเมตตา ไม่อยากปลูกฝังโกรธแค้นแต่เด็ก รวมทั้งหยิบสร้อยท้าวเวสสุวรรณที่น้องข้าวหอมสวมใส่อยู่ออกมาดู โดยก้อยได้มอบให้น้องหอมก่อนเสียชีวิต ย้ำกับน้องข้าวหอมให้ใส่สร้อยเส้นนี้ติดตัวตลอดเพราะถือเป็นของขวัญแม่ชิ้นสุดท้าย

จากนั้นเวลา 13.30 น. เริ่มพิธีฌาปนกิจศพของก้อย โดยหลานก้อยเล่นดนตรีจำนวน 3 เพลง คือ เพลงอยู่ตรงนี้ ของพงษ์สิทธิ์ คำภีร์ เพลงฉันจะมีเธออยู่ ของสิงโต นำโชค และเพลงทำได้เพียง ของวง 25 hours ระหว่างที่ร้องเพลงปรากฏว่า น้องข้าวหอมก็ร้องไห้อย่างหนัก ส่วนแม่ของก้อยก็ร้องไห้เช่นกัน แม้ทุกคนจะรู้ว่าก้อยจากไปจะเกือบ 1 เดือน แต่ก็ยังสะเทือนใจและไม่มีใครทำใจได้กับเหตุการณ์นี้

ต่อมานายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานญาติผู้เสียชีวิตในคดีแอมไซยาไนด์ พร้อมด้วยกลุ่มเพื่อนน้องก้อย “กลุ่มสะเทือนกาญจน์” กล่าวคำไว้อาลัยกับก้อยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ยืนยัน “ทุกคนจะคอยดูแลครอบครัวก้อย และทุกคนจะจดจำเสียงหัวเราะของก้อย วันนี้ตนและเพื่อนของก้อยจะเรียกร้องความยุติธรรม ความจริงให้กับก้อย หลับให้สบายนะจากนี้ขอให้ไปดี และขอให้ก้อยไปเป็นนางฟ้าที่มีแต่เสียงหัวเราะอยู่บนสวรรค์” ระหว่างที่กล่าวคำไว้อาลัย เพื่อนก้อยละครในงานก็ต่างกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่และซับน้ำตาเป็นระยะ

ถึงช่วงสำคัญที่ญาติได้พาน้องข้าวหอมมาอ่านข้อความในจดหมายที่น้องเขียนไว้ แต่ปรากฏว่า พอน้องหอมมายืนอยู่หน้าโลงศพกลับนิ่งเงียบและน้ำตาซึมพูดไม่ออก จึงให้นางลัดดา เสงี่ยมไพศาล ผอ.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวังสิงห์ อ่านข้อความในจดหมายแทน

จากนั้นจึงทำพิธีวางดอกไม้จันทน์ โดยมีการเปิดฝาโลง แล้วครอบครัวได้หย่อนจดหมายของน้องข้าวหอมลงในโลงศพ รวมถึงของรักของหวงของก้อยทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า และรองเท้าใส่ลงไปในโลงศพให้กับก้อยด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้าซึ่งญาติของก้อยตามเคาะโลงศพเพื่อบอกก้อยครั้งสุดท้าย ซึ่งทุกคนต่างร้องไห้และกอดกัน ก่อนที่กู้ภัยจะปิดฝาโลง

ด้านหลานสาวของก้อยยังทำใจไม่ได้ และตะโกนด่าทอฆาตกรว่า “ฆ่าพี่ทำไม” ซ้ำหลายครั้ง ขณะที่แม่ของก้อย ไม่อยากให้แอมได้รับโทษประหารชีวิต แต่อยากให้ถูกจำคุกตลอดชีวิตเพื่อชดใช้กรรมที่ทำไว้

ขณะเดียวกันนายไพบูลย์ พ่อของครูอ๊อด หนึ่งในเหยื่อแอม บอกว่า เชื่อว่าทางตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดกับแอมได้แน่นอน ซึ่งตนเองอยากให้นางสาวแอมได้รับโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต จะได้ไม่ออกมาสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นได้อีก