เพื่อนรักแฉ! แอมขอทำประกันพรีเมียมให้แด้ก่อนตาย เปิดแชตหลุดผลาญเงินแสน

นางสาวใหม่ (นามสมมติ) เพื่อนสมัยมัธยมของแอม ไซยาไนด์ เข้าพบพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดี เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำกรมธรรม์ประกันชีวิตของนายสุทธิศักดิ์ พูนขวัญ หรือแด้ สามีแอมที่เสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2566 โดยให้ข้อมูลว่า ตัวเองเป็นตัวแทนบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา แอมได้ติดต่อมาหาตัวเอง บอกว่าต้องการทำประกันชีวิตให้กับนายแด้ ผู้เป็นสามี เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ เคยผ่าตัดริดสีดวงมาก่อน จึงอยากทำประกันสุขภาพไว้ แต่หลังจากนั้นแอมก็บอกว่าต้องการทำประกันทุนชีวิตด้วย ซึ่งประกันฉบับนี้หากผู้ทำกรมธรรม์เสียชีวิตก็จะได้รับเงินประกันเป็นก้อน จำนวน 7 ล้านบาท

โดยมีเงื่อนไขการรับผลประโยชน์ ระบุให้ลูกสาวแอม ที่แอมอ้างว่าเป็นบุตรบุญธรรมของนายแด้ เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ทั้งหมด แต่ต่อมาก็ปรับเปลี่ยนภายหลังให้แอมเป็นผู้รับผลประโยชน์เอง สำหรับการทำ 2 ฉบับนี้ แอมจะต้องจ่ายค่าเบี้ย รวมประมาณ 100,000 บาทต่อปี ซึ่งขณะนั้นแอมยืนยันว่าไม่มีปัญหาเรื่องเงินในการส่งเบี้ยประกันรายปี

แต่ปรากฏว่า หลังจากนั้นก็เงียบหายไป ตัวเองพยายามติดต่อสอบถามเรื่องการจ่ายเบี้ยประกันและทำเอกสารให้ครบถ้วน ระหว่างนั้นแอมบอกว่ามีปัญหาทะเลาะกับนายแด้ และขอไม่ให้ติดต่อพูดคุยเรื่องการทำประกันกับนายแด้ด้วย

จนกระทั่งช่วงเดือนมีนาคม ตัวเองได้ติดต่อไปพูดคุยเรื่องการทำประกันอีกครั้ง จึงรู้ว่านายแด้เสียชีวิตแล้ว ดังนั้นการทำประกันชีวิตฉบับนี้ถือว่าเป็นโมฆะไป เพราะยังไม่ได้มีการชำระเงิน และต่อมาเห็นข่าวว่าแอมก่อเหตุใช้ไซยาไนด์ฆ่าคนตายนับสิบราย จึงตัดสินใจออกมาเปิดเผยเรื่องนี้เพราะเห็นว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น

นางสาวใหม่ ยังนำคลิปหลักฐานที่แอมเคยพูดคุยในเรื่องการขอทำประกัน และแชตการพูดคุยระหว่างแอมกับแด้ที่มีปัญหาและด่าทอกัน ก่อนที่แด้จะเสียชีวิต โดยข้อความในแชตทำให้ทราบว่า แอมนำเงินของแด้ไปใช้หนี้หมด 3 แสนภายใน 2 วัน จากนั้นแด้ก็ได้เตือนสติในการใช้ชีวิต ให้สำนึก และบอกว่าอย่าสร้างหนี้อีกเลย แต่แอมไม่พอใจ และต้อว่า "ขอให้มึงตายๆ ไปเลย เกลียดมึง"

ขณะที่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พบเงินหมุนเวียนในบัญชีของแอมสูงถึง 78 ล้านบาท โดยตอนนี้ทราบข้อมูลรายละเอียดของเงินเข้าแล้วในช่วงปี 2563-2565 แต่ในส่วนของเงินออกไปอยู่ที่ไหนหรือใคร ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งขอเวลา 2 วันถึงจะได้ข้อมูลครบในทุกประเด็น ทั้งเส้นทางการเงินและข้อมูลในบัญชี ส่วนในขณะนี้จากการตรวจสอบยอดเงินทั้งหมดพบว่าเงินออกจากบัญชีไปทั้งหมดแล้ว แต่จะเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันออนไลน์หรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบ

ส่วน “รองอ๊อฟ” อดีตสามี จะรู้เรื่องเงินในส่วนนี้หรือไม่นั้น จากการสอบถาม เจ้าตัวยอมรับว่ารู้เรื่องเงินตั้งแต่แรก แต่ไม่รู้ว่าเป็นเงินอะไร และรู้เรื่องเงินที่แอมเอามาใช้หนี้ให้ตัวเอง 4 ล้านบาทด้วย ส่วนจะมีความเชื่อมโยงว่ามีส่วนร่วมรู้เห็นการตายของใครหรือไม่ อยู่ระหว่างสืบสวน รวมถึงการซื้อประกันก็ต้องตรวจสอบก่อน

นอกจากนี้ แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีแอมไซยาไนด์ ซึ่งพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้เชิญตัวเองมาเพื่อขอคำปรึกษาในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการชันสูตรศพ

โดยแพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ เปิดเผยว่า ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะช่วยเหลือคดีนี้ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะยังไม่เห็นผลการชันสูตรแต่ละศพของแพทย์นิติเวช มองว่าการดูภาพถ่ายศพเพียงอย่างเดียวไม่สามารถตอบคำถามหรือชี้ชัดได้ว่าเสียชีวิตจากสารพิษไซยาไนด์หรือไม่ แต่ต้องมีการผ่าพิสูจน์เพื่อดูสีของเลือดเท่านั้น จึงจะระบุได้อย่างชัดเจน เนื่องจากศพผู้เสียชีวิตจากสารไซยาไนด์ เลือดจะมีสีเข้มกว่าปกติ หรือมีสีสดกว่าปกติ

ส่วนกรณีศพผู้เสียชีวิตจากสารพิษจะมีลักษณะสีเล็บและสีปากคล้ำกว่าปกติ แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ ก็บอกว่า ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีองค์ประกอบเรื่องระยะเวลาในการเสียชีวิต อีกทั้งสีผิวของคนไทยค่อนข้างคล้ำจึงดูได้ยาก

ทั้งนี้ ยอมรับว่า ที่ผ่านมาตัวเองไม่เคยมีประสบการณ์วินิจฉัยสาเหตุการเสียชีวิตจากไซยาไนด์ที่ดูจากภาพถ่ายมาก่อน แต่ยอมรับว่า เคยผ่าพิสูจน์ผู้เสียชีวิตจากสารไซยาไนด์ ในวันนี้จึงต้องการมาให้ความเห็นเรื่องภาพรวมและต้องการมีส่วนร่วมแก้ไขเรื่องการผ่าชันสูตรศพทั้งระบบ ให้เมื่อมีผู้เสียชีวิตผิดปกติจะต้องมีการผ่าชันสูตรศพทุกราย รวมถึงต้องมีการเก็บรายละเอียดถ่ายภาพองค์ประกอบร่างกายศพ สีเลือด และต้องบันทึกภาพระหว่างการชันสูตรเก็บไว้ทุกขั้นตอน เพื่อรองรับการตรวจค้นข้อมูลย้อนหลังในอนาคต ในกรณีที่มีคดีลักษณะนี้เกิดขึ้น หรือนำไปเทียบเคียงกับคดีอื่นๆ ที่มีปัญหา

ส่วนประเด็นเรื่องโซเดียมไทโอซัลเฟต หรือสารต้านไซยาไนด์ เชื่อว่าผู้ใช้งานจะต้องมีคนแนะนำการใช้ ซึ่งในอดีตคนทั่วไปจะใช้สารพิษเหล่านี้เป็นไปได้ยาก เนื่องจากมีการคุมเข้มทั้งการนำเข้าและการใช้งาน แต่หลังจากที่มีการซื้อขายผ่านออนไลน์ก็ยอมรับว่าควบคุมได้ยาก