"วราวุธ" คาดพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ 25 เสียง ไม่เห็นด้วยรัฐบาลเสียงข้างน้อย บอกจะจับขั้วพรรคที่ทำให้เกิดการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ – นำนโยบายของพรรคไปขับเคลื่อน - เทินทูนสถาบัน
11 พ.ค. 66 นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม นี้ ว่า ส่วนตัวมีการกำชับผู้สมัครว่าพื้นที่ใดที่น่าเป็นห่วงจะลงไปพบปะประชาชนด้วยตนเอง และในวันพรุ่งนี้จะลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดอำเภอเมืองสุพรรณบุรี เพื่อขอคะแนนและชักชวนให้ประชาชนลงคะแนนให้กับพรรคชาติไทยพัฒนา ส่วนในพื้นที่อื่นๆอย่างกรุงเทพมหานคร ภาคเหนือ ภาคอีสาน ก็เดินหน้าลงพื้นที่เคาะประตู เพราะส่วนตัวมองว่าในวันที่ 14 พฤษภาคมประชาชนจะเกิดการสับสนต่อการลงคะแนนด้วยบัตรสองใบ รวมทั้งเบอร์ผู้สมัครและเบอร์พรรคซึ่งมีจำนวนมาก
ดังนั้นผู้สมัครมีหน้าที่อธิบายทำความเข้าใจให้ประชาชนลงคะแนนได้อย่างถูกต้องไม่เช่นนั้นจะเสียคะแนนทั้งพรรคทั้งคน อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าพรรคจะได้ไม่ต่ำกว่า 25 เสียง ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยนั้นไม่เห็นด้วย เพราะการทำงานในสภาฯ เวลาลงคะแนนเสียงต่างๆ นั้น 250 ส.ว. ไม่สามารถร่วมได้ แต่หากการทำงานจะคอยพึ่งแต่เสียง ส.ว. คงไปไม่รอด เช่น งบประมาณในวาระ 1 และหากไปไม่รอดต้องยุบสภา ทั้งนี้เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากเลือกตั้งอีกครั้งในปีเดียวกัน ซึ่งเสียงบประมาณ และทำให้เกิดการชะลอของประเทศ ดังนั้นรับบาลเสียงข้างน้อยไม่เป้นประโยชน์ต่อการทำงาน
ขณะที่การทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย สามารถเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ แต่ต้องแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด และเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการอย่างโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และต้องชี้แจงได้ทุกประเด็นหากเป็นเช่นนั้นเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ
ส่วนที่ขณะนี้มีการร้องเรียนเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียงหรือไม่นั้น นายวราวุธ ระบุว่า มีการบอกกล่าวเข้ามา แต่หากลงพื้นที่ไปติดตามจริงๆ แล้วจะเห็นว่าเป็นเรื่องยาก เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายและต้องพิจารณาให้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องจริงหรือเป็นการกลั่นแกล้ง เพราะเชื่อว่าในวันที่ 14 พฤษภาคมจะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์กันอย่างล้นหลาม
ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลนั้นนายวราวุธ มองว่า ไม่มีครั้งไหนที่ง่าย เป็นเรื่องที่ลำบากที่จะคาดเดาว่าจะมีการเจรจาระหว่างพรรคใด เช่นเดียวกับคะแนนของแต่ละพรรคหรือ จำนวนส.ส.ที่แต่ละพรรคจะได้ ดังนั้นจึงไม่ควรคาดการณ์ว่าใครจะร่วมรัฐบาลกับใคร หรือใครไม่เอาลุง และการจับมือร่วมกับพรรคใดชาติไทยพัฒนาต้องพิจารณาอีกครั้ง เพราะพรรคไม่ได้จ้องจะเป็นรัฐบาลเพียงอย่างใด ต้องรอหลังวันที่14 พฤษภาคมจะมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนประเด็นที่จะตัดสินใจร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับฝ่ายใดนั้น คือภายใน 100 วัน พรรคชาติไทยพัฒนาอยากให้เกิดการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่สะท้อนเสียงของประชาชน การนำนโยบายของพรรคไปขับเคลื่อนประเทศ และเทิดทูลสถาบัน หากไม่มีประเนเหล่านี้ก็ไม่มีเหตุผลที่จะร่วมรัฐบาล