"บิ๊กตู่" อ้อนชาวปากพนัง ขอโอกาสเชื่อใจอีกครั้ง เลือกนั่งนายกฯ บอกเป็นทหารมา 40 ปี บรรยากาศมันต่างกัน อยากเป็นนักการเมืองแล้ว ขออย่าทะเลาะกันประเทศบอบช้ำมามากแล้ว ชี้ เด็กรุ่นใหม่คิดเร็ว ต้องค่อยๆสอน หากใครไม่ชอบ แก้ไขได้ด้วยการเลือกตั้ง ในวันที่ 14
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค และแกนนำพรรค ลงพื้นที่หาเสียงนครศรีธรรมราช ด้วยรถยนต์ Toyota Alphard ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน ฆ 3478 กรุงเทพมหานคร
จุดแรกพลเอกประยุทธ์ เดินทางมาที่โรงเรียนบ้านปากพนัง เพื่อขึ้นเวทีปราศรัยย่อย ซึ่งมีประชาชนรอให้การต้อนรับกว่า 5000 คน โดยกล่าวว่า คนใต้รักแท้ รักจริง ดังนั้น ต้องรักผู้สมัคร อย่าลำเอียง ถ้าเลือกเขตแล้ว ต้องเลือกพรรคด้วยเลือก 2 เบอร์ เพื่อให้ได้ ส.ส.มากที่สุด จะได้เป็น ครม. ที่แข็งแรง ทำงานให้รวดเร็วขึ้น ที่ผ่านมาเราเป็นการทำงานร่วมกันหลายพรรค คุยกันรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง สิ่งสำคัญจะต้องไม่ทะเลาะกับใคร เราเคยบอบช้ำมาแล้วใช่หรือไม่ จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ต้องพูดจากันที่ดี มีคนหลายช่วงวัย นี่คือครอบครัวหรือเปล่าครอบครัวคนไทยใช่หรือไม่ พ่อแม่ต้องฟังลูก และลูกต้องฟังพ่อแม่ ต้องผลัดกันไป วันนี้โลกมันเปลี่ยน ต้องปรับตัวให้ทัน เราต้องเคารพผู้ใหญ่ และท่านก็เป็นผู้ใหญ่ ก่อนที่จะยกมือไหว้ประชาชน
ขณะเดียวกัน พลเอกประยุทธ์ ยังระบุอีกว่า ผมเป็นทหารมา 40 กว่าปี วันนี้ต้องการเป็นนักการเมือง บรรยากาศต่างกัน ทุกอย่าง แต่เป็นทหารพูดแบบนี้ไม่ได้หรอก ต้องพูดอีกแบบหนึ่ง เพื่อให้ทหารเขามั่นคง และเข้มแข็งพูดกับประชาชนก็อีกแบบหนึ่ง แต่ผมรู้สึกว่าชอบแบบนี้มากกว่า
ขอให้เชื่อมั่นในพรรครวมไทยสร้างชาติ เราเป็นคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ซื่อสัตย์ สุจริตและดูแลพวกเราทุกคน ด้วยความเป็นธรรม เราพยายามทำทุกอย่างให้ และหากมี ส.ส.มากกว่า เราก็จะสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้
"ขอให้เชื่อใจผมอีกครั้งหนึ่ง ท่านเชื่อใจผมมาแล้วครั้งหนึ่ง ผมเป็นทหารอยู่ในราชการทหารเกือบ 40 ปี ผ่านมาทุกระดับตั้งแต่เล็กจนโต ถึงผู้บัญชาการกองทัพบก วันนี้จำเป็นต้องเข้ามาดูแลบ้านเมืองผมได้ทำ ถ้าการเมืองดีอยู่แล้วผมก็คงไม่ต้องเข้ามา นั่นคือปัญหาที่ผมอยากจะพูดไว้ว่าผมเข้ามาทำไม ผมเข้ามาเพื่ออำนาจหรือ ผมมีอำนาจแต่ผมมีงานที่ต้องรับผิดชอบเยอะมาก นี่คือสิ่งที่ผมต้องรับผิดชอบมากกว่าสิ่งที่ผมเป็นทหาร เพราะเราคือคนไทยมีทั้งหมด 70 ล้านคน"
ระหว่างนั้น มีชาวบ้านตะโกนขึ้นมาว่า ที่ผ่านมามีแต่ข่าวโจมตีลุงตู่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้แก้ตัวให้ลุงตู่ด้วย เราไม่ใช่คนแบบที่เขาว่า ลูกหลานอายุยังน้อย ความคิดเขาเร็วกว่าเรา เราต้องค่อยๆสอน อย่าขัดแย้งกัน มันจะไม่มีความสุขในครอบครัว สิ่งที่เรามองคือต้องทำเพื่อชาติ ชาติของเรามีความเป็นอยู่มาอย่างยาวนาน เราทำเพื่อทุกคน ทำเพื่อเราอยู่แล้ว
และช่วงหนึ่ง ได้มีเด็กหญิงวัยประมาณ 5 ขวบได้ขึ้นเวทีมามอบพวงมาลัยดาวเรืองให้กับพลเอกประยุทธ์ ทำให้พลเอกประยุทธ์ถึงกลับต้องหยุดการปราศรัย และลงไปอุ้มเด็กผู้หญิงรายดังกล่าว พร้อมกับกล่าวว่า ลูกใครนี่ วันนี้ไม่ได้อะไรก็ได้ลูกกลับไปอีกคนนึง และหอมแก้มเด็กหญิง และเซ็นลายเซ็นให้ บอกไม่เคยเจอที่ไหน แต่ตนมาเจอที่ปากพนัง FC ตัวน้อย และได้มีเด็กชายวัยประมาณ 7 ขวบ ขึ้นเวทีมาเพื่อร้องเพลงลุงตู่อยู่ไหนพร้อมดึงเด็กมากอด และกล่าวคำว่าขอบคุณ
พร้อมกล่าวว่า 3-4 วันหาเสียงมาโดยตลอดไม่ได้คุยกับภรรยา แต่เพื่อชาติสำคัญกว่า ภรรยารักกันอยู่แล้ว ครอบครัวสำคัญสุดใช่หรือไม่ อย่าทะเลาะกัน ค่อยๆคุยกัน เด็กเขาคิดเร็วคิดแรง ก่อนจะร้องเพลงว่า "ชาติใดไร้รักสมัครสมาน
จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล แม้ชาติย่อยยับอับจน
บุคคลจะสุขอยู่อย่างไร" นี่เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ ผมจำได้ผมจำได้หลายเพลง เกี่ยวกับเพลงรักชาติผมเชื่อมั่นทุกคนรักชาติ รักชาติแล้วอย่าลืมรักนนทิวรรธน์ ลุงตู่มีคนเดียวที่นิสัยน่ารักมันคนละบทบาท อาจจะหงุดหงิดมากหน่อย เพราะภาระมันเยอะต้องขอโทษด้วยก็แล้วกัน หากใครไม่ชอบ ทั้งหมดจะแก้ไขได้ด้วยการเลือกตั้งในวันที่ 14 เวลา 8.00 น ถึง 17.00 น แล้วอย่าทำผิดกฎหมายในคูหาเลือกตั้ง ไม่ต้องยกโชว์ใคร