ลุงศักดิ์โจทก์เก่าพี่ศรี ชี้ดวงถูกตบหน 2 หน้ากากยักษ์พาหนุมานมาถวายแหวน
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. เวลา 11.15 น. เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่อ กกต. ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ตรวจสอบเงินดิจิทัล พรรคเพื่อไทย แต่บังเอิญนายทศพล ธนานนท์โสภณกุล อายุ 67 ปี อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งมาทำธุระที่ศูนย์ราชการฯ ได้มาเจอนายศรีสุวรรณให้สัมภาษณ์ ทำให้หยุดฟังและอัดคลิปให้สัมภาษณ์จนจบ
เมื่อนายศรีสุวรรณสัมภาษณ์เสร็จแล้วกำลังเดินทางกลับ ขณะนั้นสื่อมวลชนกำลังจะสัมภาษณ์นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่ไปร้องเรียนเรื่องนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้น ITV ปรากฏว่า นายทศพลได้เดินเข้าไปทำร้ายร่างกายนายศรีสุวรรณ จนปากแตก และตะโกนด่าทอเสียงดังด้วยอารมณ์โมโหว่า “ไอ้…ร้องตะพึดตะพือเลย ไอ้…เป็นประชาธิปไตยร้องตะพึดตะพือ ไอ้…ไปร้องสิ ค่าไฟฟ้าขึ้นราคา” และพยายามเดินเข้าไปหานายศรีสุวรรณ แต่ผู้ติดตามนายศรีสุวรรณได้ห้ามไว้
ทำให้นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า “เป็นสิทธิของประชาชนอยู่แล้ว คุณเป็นใคร มาชกผมอย่างนี้” นายทศพล ตอบว่า “แล้วมึงเสียหายหรือยังไง เป็นผู้เสียหายหรือไม่ ไอ้… กูเป็นประชาชน ไอ้… ร้องทุกพรรคเลย”
นายศรีสุวรรณ จึงถามกลับว่า “คุณมาทำร้ายผมทำไม” นายทศพล ตอบโต้ว่า “ทำไม ร้องมั่วเลย” นายศรีสุวรรณ จึงตอบกลับว่า “มันเป็นสิทธิของผมอยู่แล้ว แล้วคุณมีสิทธิอะไรมาชกผม”
นายทศพล จึงบอกว่า “ทำไม” และพยายามวิ่งเข้าหานายศรีสุวรรณอีกครั้ง สื่อมวลชนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อให้แยกทั้งสองคนออกจากกัน
นายทศพล ตะโกนเป็นระยะว่า “ดีแต่ร้องพรรคก้าวไกลอย่างนี้ พรรคเพื่อไทยอย่างนี้ ร้องแม่งมั่วเลย” นายศรีสุวรรณจึงตอบว่า “เดี๋ยวไปเจอกันในศาล”
จากนั้นนายศรีสุวรรณ ได้เปิดหน้ากากให้ผู้สื่อข่าวดู พบว่า มีแผลเลือดออกที่ริมฝีปากล่าง พร้อมกล่าวว่าจะไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง พอออกจากวงสัมภาษณ์ เขาก็มาชกทันที ตนไม่เคยเจอนายทศพลมาก่อน ซึ่งระหว่างนั้นนายทศพลก็พยามตะโกนด่าทอ รปภ.จึงได้เข้ามาแยก
ขณะที่นายทศพล กล่าวว่า ตนไม่พอใจ นายศรีสุวรรณ ร้องพรรคเพื่อไทยบ้าง ก้าวไกลบ้าง ร้องไม่เข้าเรื่อง ควรปล่อยให้เขาไปเลือกตั้ง จะผิดหรือถูกเป็นเรื่องของ กกต. ร้องแม่งมั่วเลย
เมื่อถามว่าทำไมถึงเลือกใช้ความรุนแรง นายทศพล กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วย ร้องอย่างนี้
เมื่อถามว่าตั้งใจมาดักรอนายศรีสุวรรณหรือไม่ นายทศพล กล่าวว่า ตนไม่ได้ตั้งใจมารอ มาทำธุระแล้วเห็นพอดี แต่เห็นมานานแล้ว มาร้องไม่เข้าเรื่อง ส่วนเรื่องที่ตนไม่พอใจในที่สุด คือ ตอนนี้เป็นประชาธิปไตย กำลังหาเสียงเลือกตั้งกันอยู่ อย่าไปขวางทาง มันไม่ถูกต้อง
เมื่อถามว่า นายศรีสุวรรณจะดำเนินคดี นายทศพล กล่าวว่า “ก็แจ้งความไปสิ แต่ศรีสุวรรณไปร้องนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เขาผิดอะไร”
เมื่อถามว่าได้ต่อยจริงหรือไม่ นายทศพล กล่าวว่า ตนตบไปทีเดียว ก็เห็นอยู่แล้ว ตนอยากจะรู้ว่ารับจ้างมาหรือไม่ ส่วนความผิดก็ว่าไปตามกฏหมาย คนแบบนี้ไม่อยู่ในสังคมประชาธิปไตย ขัดขวางทุกสิ่งทุกอย่าง ตนไม่ชอบ
ด้านนายเรืองไกร เมื่อเห็นเหตุการณ์ก็ได้เข้าไปสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายศรีสุวรรณ ก็ได้เปิดหน้ากากอนามัยเพื่อเปิดแผลให้นายเรืองไกรดู ซึ่งต่างก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน พร้อมเปิดเผยว่า ตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันจะเดินหน้าร้องเรียนต่อ เพราะมองว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตย
จากนั้นนายศรีสุวรรณ ได้เข้าแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง เอาผิดในข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ โดยจะไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล พร้อมนำหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อ คาดว่าจะสามารถส่งฟ้องศาลได้ภายหลัง 1-2 สัปดาห์ โดยพิจารณาเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 1 ล้านบาท
สำหรับการทำร้ายนายศรีสุวรรณ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกเกิดขึ้นกลางวงสัมภาษณ์ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ห่างจากครั้งนี้ประมาณครึ่งปี โดยครั้งนั้นถูกนายวีรวิชญ์ หรือลุงศักดิ์ อายุ 62 ปี ต่อย ขณะไปยื่นร้องให้เอาผิดโน้ส อุดม แต้พานิช จากการแสดงเดี่ยว 13 ที่พูดล้อเลียนพาดพิงรัฐบาล พร้อมเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 1 ล้านบาท ซึ่งคู่กรณียังไลฟ์สดเปิดรับบริจาคอีกด้วย
ทีมข่าววิดีโอคอลพูดคุยกับลุงศักดิ์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองทำงานอยู่บ้าน ก็มีคนส่งมาให้ดูว่านายศรีสุวรรณถูกต่อย ส่วนตัวไม่ชอบเรื่องความรุนแรง ตนเองเห็นกรณีครั้งนี้ของคุณทศพลซึ่งเป็นถึงอาจารย์ อายุมากกว่าตน มีวุฒิภาวะมากกว่าตน เชื่อว่ามีความรู้สึกเดียวกับตนเอง แต่ตนยืนยันว่าความรุนแรงเป็นสิ่งไม่ดี ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว แต่มองในคนที่หัวอกเดียวกัน มองว่าอาจจะหาทางออกไม่ได้ เราก็ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร
ตนเองอยากบอกนายศรีสุวรรณผ่านช่อง 8 ว่า เงินสักแดงเดียว สลึงเดียวตนเองก็ไม่ให้ และก็คงไม่ยอมขอโทษ ไม่มีเงินจะจ่าย 1 ล้านบาทแน่นอน
รวมทั้งอยากฝากถึงนายศรีสุวรรณว่า เวลาไปไหนใส่หน้ากากยักษ์ไป มันทำให้ปลุกหนุมานไปหา และให้ระวังหนุมานถวายแหวน