5 วันค้นหา "ปิงปอง" ไร้วี่แววแต่ร่างทรงแย้มพิกัด พ่อมีหวังลูกปลอดภัย

วันที่ 12 พ.ค. 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กู้ภัยแม่ทะ รวมกว่า 50 คน เดินทางไปตรวจสอบบริเวณบ่อทิ้งขยะ ใกล้กับสุสานบ้านท่าแหน ด้านหลังโรงพยาบาลแม่ทะ ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้กลิ่นคล้ายศพ



บริเวณโดยรอบเป็นที่ทิ้งขยะ เป็นพื้นที่บ้านของนายชัยวัฒน์ หรือวัฒน์ อายุ 44 ปี โดยเนื้อที่บ่อทิ้งขยะประมาณ 50 ไร่ กำลังเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังกันค้นหา ตามกลิ่นที่เหม็น โดยก่อนการค้นหา ได้จุดธูปจำนวน 9 ดอก เงิน 15 บาท บุหรี่อีก 1 มวน เพื่อบอกกล่าวขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่เจ้าทาง ในการค้นหาร่างของน้องปิงปอง ที่หายตัวปริศนาอย่างไร้ร่องรอย

จากการตรวจค้นบ่อขยะทุกตารางนิ้ว เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ยังไม่พบร่างของน้องปิงปอง หรือนางสาวสุรพิชญา คำสา อายุ 16 ปี ซึ่งจากการตรวจสอบเป็นกลิ่นเหม็นบริเวณดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นซากสัตว์ เช่น สุนัข หรือไก่ ที่ชาวบ้านนำมาทิ้งบริเวณบ่อขยะดังกล่าว แต่ด้วยพื้นที่ดังกล่าวพบว่าเพิ่งมีการนำดินมาถมใหม่เป็นแนวยาว เพื่อความกระจ่างในวันจันทร์ที่ 15 พ.ค. นี้ จะนำรถแบ็กโฮมาขุดดินค้นหาโดยรอบอีกครั้ง

ขณะที่ เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง พร้อมชาวบ้านซึ่งเป็นญาติของน้องปิงปอง ได้ลงพื้นที่บริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ตามคำบอกของร่างทรงว่าน้องปิงปองยังมีชีวิตอยู่ ใกล้แหล่งน้ำ บริเวณคอกวัว โดยทันทีที่ชุด นปพ.เดินทางมาถึงพื้นที่ ได้ทำพิธีจุดธูป หมากกำปูใบ เพื่อบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าป่า เจ้าเขา ขอให้พบเจอน้องปิงปองโดยเร็ว โดยมีญาติพี่น้องของน้องปิงปองที่เดินทางมาในพื้นที่ ร่วมออกตามหาน้องปิงปอง โดยระหว่างทางญาติได้เปล่งเสียงตะโกนเรียกชื่อของหลานเป็นระยะ ผลการค้นหาในวันนี้ยังไม่พบเจอตัวน้องปิงปองแต่อย่างใด

การตามหามีทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ เจ้าหน้าที่มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยค้นหา ทั้ง Qr Code สำหรับการแจ้งเบาะแส มีการบินโดรนสำรวจตามจุดต้องสงสัยต่างๆ แต่ก็ยังไม่พบตัว

ขณะเดียวกัน ญาติพี่น้องส่วนหนึ่งที่บ้านก็ได้จัดเตรียมทำพิธีกรรมตามความเชื่อเก่าแก่ของทางเหนือ เรียกว่า “ตานก๋องหลั๋ว ก๋องทราย” ที่มีความเชื่อว่า เป็นการถวายทานให้แก่เจ้าที่เจ้าทางในบ้าน ให้ช่วยปกปักรักษา ดูแลคุ้มครองลูกหลานให้ปลอดภัย และจะต้องจัดทำสะตวง เพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมทางล้านนา ใช้ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายหรือเคราะห์ร้ายต่างๆ ให้พ้นทุกข์โศก การเซ่นสังเวยภูติผีวิญญาณร้ายต่างๆ จากนั้นทำการปัก "ตุงชัย" หรือธงชัย โดยเปลี่ยนจากตุงเป็นเสื้อของผู้ที่มีเคราะห์ จากนั้นนำไปปักไว้ที่หน้าบ้านพร้อมสวยดอกไม้ (กรวยดอกไม้ธูปเทียน) เอาฤกษ์เอาชัย โบกจิตดลใจให้น้องปิงปองกลับมา

โดยนายสุพจน์ พ่อน้องปิงปอง เล่าให้ฟังว่า วันนี้ตนได้นำเสื้อตัวโปรดของปิงปองมาปักแขวนเป็นตุงเพื่อเรียกลูกสาวอยู่ที่หน้าบ้าน เพื่อปัดเป่าวิญญาณและสิ่งชั่วร้ายที่ปิดหูปิดตา จนลูกของตนกลับบ้านไม่ได้ พิธีนี้ทางครูบาที่ตนนับถือได้แนะนำมา และบอกให้ตนลองทำดู ตอนนี้ตนและแม่ของน้องปิงปองรู้สึกสบายใจขึ้นบ้างแล้ว หลังจากได้ทราบว่าลูกของตนยังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้จะไม่มีอะไรมายืนยันได้ก็ตาม รู้สึกอยากขอบคุณญาติพี่น้องที่มาอยู่เป็นเพื่อน และมาช่วยออกตามหาน้อง และช่วยกันจัดเตรียมและทำพิธีต่างๆ ซึ่งวันนี้หลังจากที่ตนได้เดินทางลงพื้นที่ไปช่วยตำรวจตามหาลูกสาวก็รู้สึกสบายใจขึ้น และรู้สึกว่ายังมีความหวังที่จะได้เจอตัวน้องปิงปอง

ด้านเพื่อนๆ ของนายวรเมธ ตาวตา หรือเบญ อายุ 17 ปี ผู้เสียชีวิต ได้โพสต์คลิปประกอบเพลง ขณะที่น้องเบนขี่รถจักรยานยนต์วิบากขึ้นเขา ความยาว 4 นาที ลงใน TikTok และเขียนข้อความว่า "RIP น้องเบน ฝรั่งน้อย หลังจากนี้ใครจะเข้าป่าเป็นเพื่อน" มีคนเข้าไปดู และแสดงความคิดเห็น เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก



ขณะที่ นางอ้อยใจ แม่ของน้องเบญ ได้ทำพิธีตามความเชื่อ คือ เชิญวิญญาณของน้องเบญเข้าร่างทรง แสดงท่าทางบอกแม่ว่าเขาเจ็บมาก เอาน้ำให้ดื่ม ก็ดื่มได้ไม่มาก เพราะว่าเจ็บคอ แม่ถามว่าทำไมไม่สู้เพราะลูกก็ตัวใญ่ ได้รับคำตอบว่าสู้ไม่ได้เพราะคนที่ทำร้ายลูกมาด้วยกัน 3 คน ช่วยกันจับตัว หลังจากนั้นก็เกิดอาการวูบไปเลย จึงเชื่อได้ว่าต้องมีคนร้ายหลายคน แต่หากสู้กันตัวต่อตัวคงจะเอาตัวรอด เพราะลูกเป็นคนที่คล่องตัวสามารถวิ่งหนีได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้ใส่รองเท้า ประกอบกับข้อมูลจากชาวบ้านพบเห็นว่า ช่วงวันที่6 พ.ค. มีชายอีก 2 คน ได้นั่งรถยนต์มาพร้อมกับนายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหา จึงทำให้เชื่อว่า ต้องมีคนที่ร่วมมือช่วยกันทำร้ายฆ่าลูกชาย จากผลการตรวจชันสูตรศพของหมอพบว่า ถูกทำร้ายใบหน้าและศีรษะ ส่วนร่างกายไม่มีร่องรอยบาดแผลเลย ซึ่งโหดร้ายมาก เป็นการวางแผนที่จะฆ่าปิดปากลูกชาย ทำร้ายจุดสำคัญ จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตัวน้องปิงปองเท่านั้นที่จะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมากกว่าทุกคน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวน้องปิงปองให้ได้

ทีมข่าวช่อง 8 มีโอกาสได้พบกับแยม แฟนของผู้ตาย เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเป็นแฟนกับเบญคบกันได้เกือบปีแล้ว ส่วนปิงปองเป็นเพื่อนกับตนมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ ม.1 แล้ว จนห่างกันไปเมื่อ 4-5 เดือนมานี้เอง เนื่องจากปิงปองย้ายไปอยู่ในเมือง เพิ่งกลับมาช่วงสงกรานต์นี้เอง ในคืนวันเกิดเหตุเบญไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังเลย รวมทั้งปิงปองก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง จึงไม่ทราบว่าสาเหตุ

ส่วนนายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหา ตนเพิ่งรู้จักจากการบอกเล่าของเบญว่า นายชัยวัฒน์เป็นพี่ที่แข่งรถด้วยกัน แต่ตนไม่ได้สนิทสนมและไม่เคยคุยด้วย ทราบแต่เพียงว่าเป็นคนที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับตนเท่านั้น ไม่คิดว่าคนๆ นี้จะมาฆ่าเบญ ตอนนี้สิ่งที่ตนยังคาใจอยู่คือ ไม่เชื่อว่านายไชยวัฒน์จะลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว คิดว่าน่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุอีกหลายคน และเชื่อว่าปิงปองยังไม่ตาย อยากจะบอกผ่านสื่อไปบอกกับปิงปองว่า หากยังมีชีวิตอยู่ให้ออกมาจากตรงนั้น ออกมาพูดความจริง ทุกคนที่บ้านเป็นห่วงอยู่ตอนนี้

ปิงปอง อยู่ใกล้แหล่งน้ำ!