ผัวโหดง้อเมียไม่คืนดี บุกแทงร่างจมกองเลือดเจ็บสาหัส
เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2566 เกิดเหตุการณ์ที่นายเจี้ยววา อายุ 32 ปี บุกเข้าไปแทงภรรยา คือ น.ส.วรนุช อายุ 27 ปี เนื่องจากฝ่ายหญิงไม่ยอมกลับไปคืนดีด้วย โดยเหตุเกิดที่บ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ม. 4 การเคหะนครชัยศรี ซอยที่ 1 ถนนเพชรเกษม ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดระหว่างที่นายเจี้ยววาบุกเข้าไป แต่ น.ส.วรนุชไม่ยอมกลับ จากนั้นนายเจี้ยววาก็ชักมีดที่พกมาแทง มีผู้หญิงอีกคนพยายามเข้าไปช่วยห้าม แต่นายเจี้ยววาก็ทำท่าเงื้อมีดจะฟัน หลังจากนั้นภาพจากวงจรปิดก็ได้ยินแต่เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ ทราบภายหลังว่า น.ส.วรนุช ถูกแทงบริเวณหน้าอก 3 แผล แขนสองข้างมีบาดแผลฉกรรจ์ บาดเจ็บสาหัส
พลเมืองดีได้รีบผู้บาดเจ็บซ้อนรถมอเตอร์ไซค์เพื่อนำส่งโรงพยาบาล แต่ไปได้เพียง 500 เมตร ผู้บาดเจ็บได้หล่นจากท้ายรถ กระทั่งมีรถกู้ชีพจากโรงพยาบาลนครชัยศรีมารับตัวส่งโรงพยาบาล รักษาตัวในไอซียู
สอบถามนายทองดี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเห็นผู้ก่อเหตุเดินเข้าไปภายในบ้านหลังดังกล่าวได้ประมาณ 2 - 3 นาที จากนั้นได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมเห็นผู้บาดเจ็บวิ่งออกมา มีชายถือมีดปลายแหลมวิ่งตามมาหน้าบ้าน แล้วใช้ดมีแทงผู้บาดเจ็บหลายครั้ง จนผู้บาดเจ็บได้วิ่งหนีขอขึ้นรถมอเตอร์ไซค์พลเมืองดีที่ผ่านมาหนีออกจากที่เกิดเหตุ ส่วนชายที่ก่อเหตุได้วิ่งกลับออกไปปากซอยด้านถนนเพชรเกษมหายไป
สำหรับผู้ก่อเหตุ คือ นายเจี้ยววา เป็นชาวม้ง คบหากับฝ่ายหญิงมาหลายปี และมีลูกด้วยกัน อยู่ที่พะเยา แต่มาขายอาหารตามสั่งอยู่ที่สุโขทัย ระยะหลังมีปากเสียงทะเลาะกัน จนเมื่อ 5 วันที่แล้ว ฝ่ายหญิงจึงได้ขับรถกระบะพาลูกสาววัย 6 เดือนหนีมาอยู่กับญาติที่บ้านหลังเกิดเหตุ จนมาวันนี้ฝ่ายชายได้ขี่รถจักรยานยนต์จากจังหวัดสุโขทัยตามมาง้อขอคืนดีภรรยา แต่ไม่สำเร็จมีปากเสียงทะเลาะกัน จนเกิดเหตุดังกล่าว
ด้านนายกิตติพงษ์ อายุ 22 ปี หลานของผู้บาดเจ็บ บอกกับทีมข่าวว่า ผู้ก่อเหตุรายนี้มีนิสัยโหดร้าย อารมณ์ร้อน และชอบตบตีน้าสาวของตนเองเป็นประจำ กระทั่งก่อนเกิดเหตุได้ขู่จะฆ่าน้าสาว น้าสาวจึงกลัว แล้วหนีมาอยู่กับยายที่ จ.นครปฐม กระทั่งตามมาก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ต่อมา ช่วงหัวค่ำ ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้วที่แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. พร้อมอาวุธมีดสีน้ำตาลยาว 10 นิ้ว จึงควบคุมตัวมาที่ สภ.นครชัยศรี เพื่อสอบสวนดำเนินคดี