"ชูวิทย์ " แจ้งความถูก "กลุ่มเสื้อเสื้อน้ำเงิน" โชว์ปืนข่มขู่ หลังป่วนขบวนรถหาเสียง "ภูมิใจไทย" หาเสียงโค้งสุดท้าย
13 พ.ค. 66 ที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไท นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางเข้าพบพล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 พร้อมด้วย พล.ต.อ.เอกรัตน์ เปาอินทร์ รองผบก.น.1 และ พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท เพื่อให้การ และลงบันทึกประจำวัน หลังจากถูกชายฉกรรจ์ขับขี่รถจักรยานยนต์ขวางข่มขู่ และโชว์อาวุธปืนระหว่างการทำกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านนโยบายกัญชาเสรี ตามขบวนรถแห่หาเสียงของพรรคภูมิใจไทย บริเวณถนนถนนพหลโยธินมุ่งหน้า อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
นายชูวิทย์ อ้างว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้ใช้รถจักรยานยนต์ขวางเส้นทางรถของตนเอง และประชาชนที่สัญจร ตนจึงให้ทีมงานเข้าเจรจากับกลุ่มผู้ก่อเหตุ โดยขอให้แยกย้ายย้ายกันไปเพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ และบริเวณดังกล่าวเป็นถนนสาธารณะใจกลางเมือง แต่กลุ่มชายฉกรรจ์ที่ใส่เสื้อสีน้ำเงินไม่ยอม และถกชายเสื้อขึ้น โดยทีมงานเห็นว่ามีอาวุธปืนพกติดตัวมาด้วย จึงเกิดความตกใจ จึงกลับบอกกับตน จึงให้ทีมงานยกมือไหว้ขอโทษ และบอกว่าเราไม่มีเจตนาที่จะมาทำร้ายมาเพียงรถคันเดียว คุณเป็นพรรคการเมือง ทำไมถึงใช้วิธีการแบบนี้ จึงนำเรื่องมาแจ้งความต่อ สน.พญาไทไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้น นายชูวิทย์ได้เปิดเผยภาพหลักฐานต่อตำรวจ และสื่อมวลชนพร้อมระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของสิทธิเสรีภาพ ซึ่งหากพรรคภูมิใจไทยจะแห่หาเสียงก็ทำไป ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาปิดกั้น เพราะเป็นพื้นที่สาธารณะ การไม่ให้รถผ่าน และการแสดงอาวุธก็หมายความว่า เป็นพรรคที่ใช้อิทธิพล หรือระบบนักเลง และยังตั้งคำถามว่าวิธีการแบบนี้ใช้หรือไม่ จะมาใช้วิธีการนักเลงแบบนี้ในใจกลางกรุงไม่ได้ และตนเองมีพยานที่เห็นเหตุการณ์ 2 คน รวมถึงกล้องวงจรปิดในพื้นที่เกิดเหตุอีกมากมาย รวมถึงภาพจากกล้องของสื่อมวลชน
ด้าน พล.ต.ต.อัฏธพร เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ หากสามารถระบุตัวตนผู้ก่อเหตุได้แล้ว ก็จะออกหมายเรียกมาสอบปากคำ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป