ลากศพปิงปองทิ้งป่าห่างศพเบญ 3 โล ไอ้เหี้ยมทุบหัวฝังดินปัดไม่ได้ฆ่า - แม่สาปแช่งลงนรก

จากกรณี นายชัยวัฒน์ หรือวัฒน์ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาฆ่าโหด นายเบญ อายุ 17 ปี หนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษ ชาวอ.สบปราบ จ.ลำปาง ไปฝากขังต่อศาลจังหวัดลำปาง พร้อมทั้งเร่งระดมกำลังค้นหา "น้องปิงปอง" อายุ 16 ปี ซึ่งหายตัวไปพร้อมกับนายเบน โดยนายชัยวัฒน์ ไม่ยอมปริปากบอกว่านำตัวน้องปิงปอง อยู่ที่ไหน

เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง ปฏิบัติการปูพรมค้นหาตัวน้องปิงปอง เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเช้า บริเวณป่าละเหมาะริมถนนหมายเลข 1 พหลโยธิน เกาะคา-สบปราบ หลังได้รับเบาะแสหลักฐานสำคัญบางอย่าง

กระทั่งเมื่อเวลา 10.30 น. เมื่อชาวบ้านที่ร่วมตระเวน ได้กลิ่นเหม็นลอยโชยมา จากด้านในของป่าละเมาะซึ่งอยู่ห่างจากริมถนนหมาย 1 แม่ทะ-สบปราบ เดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 30 เมตร โดยพบว่ามีหลุมลักษณะถูกปกคลุมไปด้วยดินและหินก้อนใหญ่ทับถมกัน สังเกตมีกิ่งไม้ที่หักอยู่ จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศพฐ.และกู้ภัยให้รีบลงพื้นที่

กระทั่งเวลา 12.15 น. ร้อยเวรพนักงานสอบสวน ศพฐ. และแพทย์นิติเวช ลงพื้นที่ตรวจสอบ ยืนยันว่าเป็นศพจริง จึงให้จนท.หน่วยกู้ภัยลำปางลงมือขุดหลุมดังกล่าว ในขณะขุดสังเกตพบว่ามีชั้นดินและหินขนาดใหญ่ทับถมสลับกันไป และเมื่อขุดลงไปที่ความลึกประมาณ 1 ฟุต ก็ได้พบกับศพ ก่อนจะขุดร่างขึ้นมาได้เมื่อเวลา 12.30 น.

โดยเบื้องต้น ที่พบศพของน้องปิงปอง ถูกฝังใต้ดินลึก 30 เซนติเมตร สภาพนอนหงาย ใส่เสื้อยืดแขนสั้น สวมกางเกงขาสั้น แขนทั้ง 2 ข้างมีกำไลลูกปัด และพบว่าที่ท้ายทอยมีบาดแผลด้วย

เบื้องต้นจากการขุดพบวันนี้ ยืนยันว่าเป็นศพของน้องปิงปองจริง โดยลักษณะของเสื้อผ้า รอยสักบริเวณหลัง และเจาะจมูกขวา ตรงกับที่นายจรูญ ผู้เป็นตาบอก ซึ่งคุณตาเป็นตัวแทนของพ่อแม่ไปดูศพ เนื่องจากแม่พ่อยังทำใจไม่ได้

โดยสิ่งที่ญาติยืนยันว่าศพที่พบคือน้องปิงปอง คือ เหล็กดัดฟัน , สีผม , ห่วงจมูกด้านขวา , เครื่องประดับ , รอยสัก , การแต่งกาย ซึ่งคุณตาเป็นคนยืนยัน เนื่องจากก่อนที่จะหายตัวไป นายเบนได้พาน้องปิงปองมาหา และมาขอยืมเสียมหรือจอบ อ้างว่าจะเอาไปงัดรถที่ติดหล่ม ก่อนจะหายตัวไป

โดยตำรวจมีการสันนิษฐานว่า นายชัยวัฒน์ใช้ไม้ทุบทำร้าย พบบาดแผลที่ท้ายทอย ซึ่งนายชัยวัฒน์เป็นคนที่ฆ่านายเบน น้องปิงปองก็หายไป ซึ่งตำรวจกำลังขยายผลอยู่ว่า ถ้าทำร้ายน้องปิงปองจริงๆ นายชัยวัฒน์ก่อเหตุคนเดียวหรือไม่

พล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผบก.ภ.จว.ลำปาง ระบุว่า เตรียมให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่นายชัยวัฒน์ ถึงแม้ว่าวันนี้นายชัยวัฒน์จะให้การปฏิเสธ รวมทั้งให้ตรวจสอบว่าน้องปิงปองถูกขืนใจด้วยหรือไม่ ซึ่งต้องให้แพทย์นิติเวชตรวจสอบยืนยัน

และเมื่อไล่ย้อนคำให้การนายชัยวัฒน์ อ้างว่านัดเจอนายเบญ เพื่อมาส่งยากัน ก่อนจะเอามอเตอร์ไซค์ขึ้นรถกระบะ ก่อนที่จะฆ่าน้องเบนทิ้งเอาไม้ทุบ โดยพบว่าจุดที่พบศพนายเบญ กับ จุดที่พบศพน้องปิงปอง ห้างกันประมาณ 3 กิโลเมตร ตำรวจกำลังโยงไปในเรื่องการเคลื่อนย้ายศพ โดยอ้างว่านำร่างขึ้นรถกระบะซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลว่าร่างของน้องปิงปองเคลื่อนย้ายมาอย่างไร

ซึ่งจากแนวทางการสอบสวน เบื้องต้นนายชัยวัฒน์ผู้ต้องหา ยืนยันไม่ได้ฆ่าน้องปิงปอง และไม่ได้ลงมือคนเดียว ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ 100% แต่จากการสืบสวนพบว่า สืบค้นจากข้อมูลทางโทรศัพท์พบว่าสัญญาณโทรศัพท์ของนายชัยวัฒน์ ไปอยู่ตรงบริเวณดังกล่าว 15 นาที ก่อนจะเค้นสอบ และนำไปสู่การค้นหาน้องปิงปองจนพบร่างในวันนี้

เมื่อไล่ย้อนไปเมื่อช่วงค่ำ วันที่ 6 พ.ค. นายเบญขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปพร้อมน้องปิงปอง ต่อมาพบศพของนายเบญ ในวันที่ 7 พ.ค.แต่น้องปิงปองสูญหาย

ถัดมาเพียง 1 วัน ตำรวจจับตัวนายชัยวัฒน์ได้ รับสารภาพว่าฆ่านายเบญ แต่ไม่เปิดปากเรื่องของน้องปิงปอง จากนั้นระดมกำลังค้นหาน้องปิงปอง และในวันที่ 13พ.ค.พบศพน้องปิงปอง

ทีมข่าวได้ชาวบ้านผู้พบศพกลุ่มแรกๆ บอกกับทีมข่าวว่า ตนไม่ได้เป็นญาติกับผู้ตาย แต่เป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน วันนี้ที่มาช่วยค้นหาน้อง เพราะรู้สึกสงสารเห็นใจพ่อแม่และญาติพี่น้องของน้องปิงปอง ตนและทีมเจ้าหน้าที่ จากหลายฝ่ายเริ่มออกค้นหามาตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ตั้งแต่แปดโมงเช้า เดินแนวระนาบในป่ามาเรื่อยๆ จนมาถึงจุดพบศพตรงนี้รู้สึกเหมือนกลิ่นเน่าโชยมาเป็นระยะ จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้พูดคุยกับพ่อและแม่ของน้องปิงปอง เปิดใจทั้งน้ำตาไม่มีวันให้อภัยคนร้ายอย่างเด็ดขาด ไม่คิดฝันว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับลูกสาวของตน ยอมรับยังทำใจไม่ได้ อยากจะสาปแช่งคนร้าย ให้ได้พบเจอประสบการณ์เลวร้ายเหมือนกับที่ตนและครอบครัวต้องพบเจอ

ด้านนายสุพจน์ ผู้เป็นพ่อ ขอบคุณทุกๆคน เจ้าหน้าที่ พี่น้องชาวบ้านที่ช่วยกันออกตามหาลูกสาวของตน อยากขอบคุณประชาชนที่ติดตามข่าวและร่วมส่งกำลังใจ รวมถึงอยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีจนสามารถนำพาไปพบกับลูกสาวของตน ถึงแม้วันนี้ลูกสาวจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม แต่ตนก็ต้องพยายามทำใจให้ได้ เพราะยังมีคนข้างหลังที่ยังต้องดูแล รวมทั้งอยากบอกถึงคนร้ายว่าจิตใจทำด้วยอะไร ถึงทำร้ายเด็กอายุคราวลูกได้ลงคอ และขอสาปแช่งให้ชีวิตได้พบเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ที่ได้ทำไว้กับครอบครัวของตน วันนี้ยังไม่พร้อมให้อภัย ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

โดยในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่และญาติของผู้สูญหายเดินทางมาถึงนายสุพจน์ และนางสุธาสินี พ่อและแม่ของน้องปิงปอง ได้จุดธูปจำนวน 9 ดอก ถวายข้าวตอก ดอกไม้หมากพลู บอกกล่าวแก่เจ้าป่าเจ้าเขา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยเปิดหูเปิดตา นำพาลูกสาวของตนกลับบ้านอย่างปลอดภัย และสุดท้ายเจอน้องปิงปองแต่เสียชีวิตแล้ว