เมียหลวงสะอื้น ไล่ยิงผัวซุกกิ๊กแค่เตือนอย่ามากรัก พร้อมอภัยถ้ากลับตัว

กรณีเหตุระทึกวันเลือกตั้ง เมียหลวงยิงและแทงซ้ำ หลังพบสามีพาเมียน้อยไปเลือกตั้งที่ซอยวัดด่านสำโรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยทางฝ่ายเมียหลวงได้กระโดดขึ้นท้ายรถกระบะแล้วยิงใส่สามีจากกระจกด้านหลัง จนรถเสียหลักชนเสาไฟฟ้า จึงตามลงไปใช้มีดแทงซ้ำไปอีก 2 ครั้ง ขณะที่เมื่อรถหยุด ฝั่งเมียน้อยวิ่งขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างหนีตาย

วันที่ 15 พ.ค. 2566 ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหน่วยเลือกตั้งเมื่อวานนี้ที่นายสมคิด อายุ 63 ปี ผู้บาดเจ็บ มาใช้สิทธิเลือกตั้งแล้วถูกเมียหลวงทำร้ายร่างกาย ทีมข่าวได้ไปสำรวจที่ด้านหน้าโรงเรียนดังกล่าว ซึ่งเป็นจุดที่นางสมร ผู้ก่อเหตุมาซุ่มรอสามีใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยจุดนี้เป็นถนนด้านหน้ารั้วโรงเรียน ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดหลายมุมที่หน่วยเลือกตั้ง พบว่า กล้องตัวที่ 1 เวลา 12.21 น. จับภาพรถกระบะนายสมคิดขับมาที่หน้าโรงเรียน โดยมีสาวเสื้อขาวนั่งมาในรถด้วย

กล้องตัวที่ 2 เวลา 12.22 น. จับภาพนายสมคิด ขับกระบะเข้ามาจอดในโรงเรียน

กล้องตัวที่ 3 (เวลาในกล้องช้ากว่าเวลาจริง 3 ชม.) ในคลิปเวลา 09.30 น.จับภาพนายสมคิด ขับกระบะมาจอดในโรงเรียน ซึ่งเป็นหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นลงจากรถ ทันทีที่นายสมคิดเดินลงจากรถนั้น เวลา 09.32 น. นางสมร ได้เดินมาจากหน้าโรงเรียน แล้วเดินเข้าไปที่รถกระบะ ส่องที่เบาะนั่งข้างคนขับ ซึ่งมีภรรยาน้อยนั่งอยู่ จากนั้นนางสมร ก็ได้เข้าไปพูดคุยกับภรรยาน้อยอยู่หลายนาที แต่ไม่ทีทีท่าที่ภรรยาน้อยจะลงจากรถ

09.34 น. นายสมคิด เดินมาขึ้นรถ เพื่อขับออก นางสมรจึงกระโดดขึ้นท้ายรถกระบะของสามี แล้วหยิบมีดออกมาจากกระเป๋า พร้อมกระหน่ำแทงไปที่กระจกข้างคนขับอยู่ตลอดเวลา จนตำรวจและชาวบ้านที่มาเลือกตั้งวิ่งออกมาดูเหตุการณ์

วันนี้ ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ คุมตัวนางสมร ผู้ก่อเหตุออกจากห้องขังมาสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้ก่อเหตุยังระบายปัญหาความอัดอั้น ความทุกข์ใจเรื่องสามีให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตัวเองคบหาและแต่งงานกับนายสมคิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2525 มีลูกด้วยกัน 2 คน ซึ่งลูกๆ ก็โตหมดแล้ว ที่ผ่านมาก็อยู่ด้วยกัน รักกันดีมาตลอด

กระทั่งปี 2562 ตัวเองมารู้ความจริงกับหัวหน้างานของสามีว่าเขาไปมีภรรยาน้อย เป็นสาวชาวลาว 2 คน และสาวชาวไทยอีกหลายคน แต่สามีจะติดสาวชาวลาว จนสูญเงินไปกว่า 100,000 บาท แล้วยังเสียทั้งสร้อยทองคำ, รถยนต์ 1 คัน แม้กระทั่งบ้าน นายสมคิดก็มาบังคับให้ตัวเองขาย เพื่อจะเอาเงินไปให้ผู้หญิง

ตั้งแต่ปี 2562 นายสมคิดหนีไปอยู่ด้วยกันกับสาวชาวลาวหลายปีไม่ยอมกลับมาบ้าน ปล่อยให้ตัวเองและลูกอีก 2 คน ต้องใช้ชีวิตลำพัง 3 แม่ลูก ตัวเองพยายามโทรหาเพื่อจะขอเคลียร์ปัญหา แต่สามีก็ตัดสายทิ้งหรือบางครั้งก็ปิดเครื่องใส่

กระทั่งวันที่ 14 พฤษภาคม ตัวเองรู้ว่าสามีจะต้องกลับมาเลือกตั้งแน่นอน จึงไปดักซุ่มรอ กระทั่งเห็นสามีมาเลือกตั้งกับสาวชุดขาวชาวลาว จึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

ตัวเองขอยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาจะยิงสามีให้ถึงตาย หวังยิงแค่กระจกหลังรถให้กระจกแตก แล้วสามีจะได้ลงมาเคลียร์ปัญหากับตัวเองเท่านั้น ส่วนสาวเสื้อขาวชาวลาวตัวเองพยายามเคาะกระจกรถให้ออกมาพูดคุย แต่เขาก็ไม่ยอมลงมา ยอมรับว่าตั้งแต่ทราบว่าสามีไปมีเมียน้อย ตัวเองก็ไม่เคยเจอหน้าเมียน้อยของเขาเลย เพิ่งมาเจอหน้าฝ่ายหญิงเมื่อวานนี้

นางสมร กล่าวทิ้งท้ายด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเศร้าว่า ฝากถึงสามีอันเป็นที่รักว่า ตัวเองยังรักสามีเสมอ และพร้อมให้อภัย อยากให้กลับมาอยู่กินด้วยกัน อย่าไปหลงเชื่อถูกผู้หญิงปอกลอกจนหมดตัว

ด้านลูกชายของผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่า พ่อ คือ นายสมคิดเป็นคนใจดี พูดจาดี เจ้าชู้แต่ก็เงียบๆ ไม่ได้บอกอะไร ส่วนแม่ของตนก็เป็นคนอารมณ์ร้อน ตนเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเข้าใจทั้งพ่อแและแม่ ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น

ส่วนอาการบาดเจ็บของนายสมคิด มีแผลฉีกขาดที่ต้นขาขวาเย็บ 6 เข็ม บริเวณคอเย็บ 3 เข็ม รวมถึงมีบาดแผลรอยเฉี่ยวที่แผ่นหลัง และบาดแผลที่ข้อมือซ้ายเย็บ 5 เข็ม โดยนายสมคิดขอให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย

สั่งสอนผัวนอกใจ!