ระทึก! ไฟไหม้โรงงานสกรีนผ้า ย่านบางขุนเทียน คาดไฟฟ้าลัดวงจร บาดเจ็บ 1 ราย
วันที่ 17 พฤษภาคม 2566 พ.ต.ท.เธียรภัทร กล้าใจ สวป สน ท่าข้าม ได้รับแจ้งเหตุ เพลิงไหม้ โกดัง ริมคลองสีบาท ภายในซอยพระรามที่ 2 ซอย 50 แขวงบางขุนเทียน เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยรถดับเพลิงจาก สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยเพลิงไหม้ จากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังแห่งหนึ่ง ใกล้เคียงกับวัดกำแพง ซอยพระรามที่ 2 ซอย 50 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน
ทีมข่าวได้ลงพื้นที่พบว่า ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารโกดังไม้ชั้นเดียว สภาพเพลิงไหม้ทั้งอาคารได้รับความเสียหาย โครงสร้างอาคารไม่ถล่มลงมา ในบริเวณเดียวกันมีอาคารห้องพักคนงานอยู่ด้านในสุดได้รับความเสียหายทั้งหมด ติดกับโกดังเป็นบ้านพักเจ้าของโรงงาน สูง 2 ชั้นโครงสร้างไม้ ได้รับความเสียหายครึ่งหลัง นอกจากนี้อาคารพาณิชย์ที่อยู่ติดกับโกดัง ได้รับความเสียหายจากคราบเขม่าไฟ แต่เพลิงไม่ลุกไหม้ถึงอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถฉีดน้ำสกัดเพลิงไว้ได้หมดแล้ว โดยไม่มีผู้ติดค้างในอาคารและไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีเพียงผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่บริเวณแขนซ้าย 1 ราย คือ น.ส.สุทธิรา อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงาน โดยได้รับบาดเจ็บเนื่องจากหกล้มระหว่างช่วยดับไฟ
น.ส.สุทธิรา ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า อาคารที่เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ เป็นโกดังโรงงานเหล็กที่อยู่ด้านหน้าและโรงงานสกรีนผ้าที่อยู่ด้านหลัง โดยส่วนต้นเพลิงนั้น คือบริเวณบ้านพักคนงานที่อยู่บริเวณด้านหลังแล้วลามมาจนถึงส่วนโรงงานสกรีนผ้า เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ เพราะทำตัวไม่ถูกและตนเองยังอยู่ในอาการที่ตระหนกตกใจอยู่ เบื้องต้นเอกสารสำคัญและโทรศัพท์มือถือของตนได้เสียหายไปกับเพลิงไหม้ครั้งนี้
โดยเหตุการณ์เพลิงไหม้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 6 โมงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว เป็นเวลาที่คนงานทำกิจวัตรส่วนตัวและทำความสะอาดโรงงานเพื่อเตรียมทำงานในช่วงสาย ส่วนตนอยู่ในบ้านกับสามีและลูกอีก 2 คน ตอนนั้นคนงานได้มาแจ้งกับตนว่าเกิดเพลิงไหม้แล้ว พอออกมาจากบ้านก็เห็นว่าไฟกำลังลุกไหม้ จึงให้สามีนำลูกไปอยู่ที่บ้านญาติก่อน ส่วนตนก็รีบนำถังดับเพลิงมาช่วยดับไฟแต่เกิดสะดุดล้มเป็นแผลที่บริเวณแขนซ้าย จึงเรียกให้รถดับเพลิงมาช่วยดับไฟ คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คนงานมาบ่นกับตนว่า มีปัญหาเรื่องสายชาร์จโทรศัพท์ จึงไปซื้อสายชาร์จโทรศัพท์ที่ขายตามท้องตลาดนำมาใช้ จึงเชื่อว่า เหตุน่าจะเกิดจากสายชาร์จโทรศัพท์ที่เสื่อมคุณภาพของคนงาน จนทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร
ด้านพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ระบุกับทีมข่าวว่า เหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากเหตุไฟฟ้าลัดวงจร แต่ต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมทั้งต้องสอบปากคำคนงาน เจ้าของโรงงานและพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดของเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป