เปิดกฎเหล็ก 3 ข้อ ส.ว.หนุนพิธาไม่ยากแต่ไม่ง่าย อยากเป็นนายกฯ ต้องรีบเคลียร์

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา ได้กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่าจะต้องผ่าน 3 ด่านด้วยกัน โดยวิดีโอคอลให้สัมภาษณ์ในรายการลุยชนข่าวว่า ทาง ส.ว.ยังไม่ได้คุยกันถึงวันโหวตเลือกนายกฯ จะมีการประชุมวิสามัญวันที่ 23 พ.ค. นี้ อาจจะได้คุยกัน ซึ่งขณะนี้แนวทางของ ส.ว. มีหลากหลาย

ส่วนตัวมีหลัก 3 ประการที่จะโหวตให้กับผู้ที่จะมาเป็นนายกฯ คือ 1.ได้เสียงจาก ส.ส. เกินกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร เพราะว่าจะได้เป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ทำงานต่อเนื่อง ขับเคลื่อนนโยบายได้ 2.มีคุณสมบัติพื้นฐานที่ครบถ้วน ไม่มีลักษณะต้องห้าม ไม่ถูกศาลตัดสิทธิ์ทางการเมือง ถ้ามีเรื่องอยู่ก็อยากให้เคลียร์ให้เรียบร้อย 3.ความสามารถในการขับเคลื่อนนโยบาย

เมื่อถามว่า นายพิธา กำลังถูกยื่นให้ตรวจสอบเรื่องถือหุ้น ITV ถือว่าติดขัดในข้อที่ 2 หรือไม่ นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับนายพิธา หน่วยานอย่าง กกต.ที่รับเรื่อง หากไม่มีอำนาจชี้ขาด ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว ส่งศาลให้ชี้ขาด เราจะได้เลือกได้

ส่วนหลักข้อที่ 3 คือ การขับเคลื่อนนโยบาย ส่วนตัวคิดว่า นายพิธาสามารถขับเคลื่อนได้ มีเพียงบางประเด็นที่ต้องทำให้ชัดเจน

ส่วนเรื่องที่ ส.ส.ส่วนใหญ่ ติดใจก็คือ เรื่องกระทบสถาบันหลักของชาติ ม.112 ส่วนตนเองไม่ติดใจ เหตุเพราะ ม.112 ยังมีกระบวนการ ไม่ใช่เราเลือกนายพิธาแล้ว กฎหมาย ม.112 จะถูกยกเลิกหรือถูกแก้ไขไปทันที ยังต้องผ่านกระบวนการเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาทั้ง 2 สภา

อย่างกรณีที่พรรคก้าวไกลจะมีชุดเข้าไปคุยกับ ส.ว. ถ้าหากเคลียร์เรื่อง ม.112 จน ส.ว. พอเข้าใจได้ รับได้ ก็ถือว่าครบองค์ประกอบสำหรับตัวเอง

ส่วนกรณีถือหุ้น ITV ถ้าในวันโหวต ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้ตัดสิน ก็ต้องถือว่ายกประโยชน์ให้จำเลย ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อน แต่คิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตระหนัก เพราะหากเลือกไปก่อนแล้วมาสอยทีหลังจะส่งผลเสียหายต่อบ้านเมือง เพราะฉะนั้น ตอนนี้มีเวลา หน่วยานที่เกี่ยวข้องควรทำให้ทันเวลา ถ้าไม่ทันเวลา ส่วนตัวคิดว่ามีปัญหาในการเลือกแน่นอน ส.ว.อาจจะงดออกเสียง หรือขอเลื่อนการพิจารณาออกไปได้

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเป็นความคิดเห็นส่วนตัวในการพิจารณา ซึ่งคิดว่าจะทำให้ประชาธิปไตยยั่งยืน และจะสอดคล้องกับระบบที่จะต้องพิจารณาต่อไป หลายๆ เรื่องที่เสียงส่วนใหญ่กำหนดขึ้นมา เราต้องรับฟัง และประชาธิปไตย ต้องให้ประชาชนเรียนรู้จากข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วนตัวคิดว่า คนที่เลือก ส.ส.เข้ามา ต้องติดตามดู ต้องประเมิน ถ้าเข้ามาแล้วไม่สามารถขับเคลื่อนประเทศได้ตามแนวคิด หรือขับเคลื่อนแล้วมีปัญหา มีความเสี่ยง เกิดความวุ่นวาย คราวหน้าก็ไม่ควรเลือกเข้ามาบริหารประเทศอีก เป็นต้น

"ประชาธิปไตยต้องให้เวลา ประชาธิปไตยต้องอดทน ประชาธิปไตยต้องเรียนรู้ร่วมกัน และลงมือปฏิบัติจริง" นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม กล่าวทิ้งท้าย

ขณะที่ นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา ได้ทำจดหมายเปิดผนึกมีเนื้อหาสาระในทำนองสนับสนุนนายพิธา นั่งนายกฯ โดยระบุว่า การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ลุล่วงไปด้วยดี โดยมีประชาชนทุกช่วงวัยไปใช้สิทธิ์ออกเสียงลงคะแนนมากเป็นประวัติการณ์ นับเป็นปรากฏการณ์ที่น่าชื่นใจอย่างยิ่ง ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ บ่งชี้ว่าพรรคก้าวไกล ได้รับคะแนนนิยมมากที่สุด และมีผู้สมัครได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. มากที่สุดเป็นอันดับ 1

ตามครรลองแห่งหลักการตามระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมืองที่มีจำนวน สส. มากที่สุด ย่อมได้สิทธิ์ ในการจัดตั้งรัฐบาล และหัวหน้าพรรค หรือ ผู้มีรายชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีพรรคการเมืองที่มี จำนวน สส. มากที่สุด ย่อมมีความเหมาะสมที่สุดที่จะได้รับการสนับสนุนให้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี

ในฐานะสมาชิกวุฒิสภาคนหนึ่ง ที่เคยมีประสบการณ์ปฏิบัติงานสำคัญ รับใช้ชาติบ้านเมืองมาตลอดช่วงชีวิตของการรับราชการ เคยต้องขมชื่นกับความแตกแยกขัดแย้งในบ้านเมือง ขอถือโอกาสนี้แสดงเจตนารมย์ ภายใต้สิทธิสมาชิกวุฒิสภา ตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 สนับสนุนให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในบัญชีพรรคการเมือง ที่มีจำนวน สส.มากที่สุด ได้ทำหน้าที่ นายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ เพื่อจรรโลงไว้ซึ่งความสมานฉันท์ในบ้านเมือง และธำรงไว้ซึ่งหลักการตามระบอบประชาธิปไตยตลอดจน สอดคล้องกับฉันทามติของมหาชน ที่ไปใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง สส. เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา

เคลียร์ 3 ข้อ จะให้เป็นนายกฯ!