รวบยกทีม3คนร้ายแก๊ง "ฆ่านักธุรกิจจีน" อ้างโดนเบี้ยวเงินซื้อบริการถูกทำร้าย
จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญพบศพนักธุรกิจชาวจีน นายซี อายุ 43 ปี สัญชาติจีน นักธุรกิจส่งออกไม้ยางพาราแปรรูป โดยมีโรงงานอยู่ในพื้นที่ จ.ตรัง จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.สงขลา เป็นศพนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตบนพื้นห้องน้ำ ภายในห้องพักของรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ใน อ.เมืองตรัง มีบาดแผลถูกกระหน่ำแทงโหดกว่า 20 แผล พร้อมทั้งใช้ผ้าอุดปากของผู้ตาย เหตุเกิดช่วงบ่าย วันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด ตำรวจตามจับตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว มีทั้งหมด 3 คน คือ น.ส.ฝ้าย , นายณัฐพล และ นายณัฐดนัย
โดยฝ่ายหญิงเข้ามาในห้องกับผู้ตาย แล้วอ้างว่าผู้ตายทำร้าย ก่อนจะนัดหมายให้ผู้ชายอีก 2 คนปีนห้องน้ำเข้ามาเพื่อจะมาฆ่า
ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฝ่ายหญิงที่เข้ามาพร้อมกับนักธุรกิจชาวจีน โดยฝ่ายหญิงอ้างว่าถูกคุณซีตบ เพราะให้บริการไม่ดี ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะแชตเรียกเพื่อนชายมาที่ห้อง
ก่อนที่นายณัฐดนัย ปีนเข้าห้องน้ำเพื่อซ่อนตัว จนกระทั่งนายซีเปิดห้องน้ำเข้ามา ก่อนจะถูกนายณัฐดนัยแทงจนเสียชีวิต ก่อนพากันหลบหนี โดยมีนายณัฐพล รออยู่ที่รถ
เมื่อไล่เรียงภาพจากกล้องวงจรปิด จะเห็นว่า วันที่ 15 พ.ค. นายซี เข้ามาที่รีสอร์ท ประมาณ 16.07 น. ก่อนจะเห็นที่เค้าต์เตอร์อีกครั้งเมื่อเวลา 19.32 น. โดยมีการยื่นเงินให้
จากนั้น เมื่อเวลา 21.17 น. วงจรปิดจับภาพชาย 2 คน มาทำทีเช็กอินที่รีสอร์ท และเข้าพักที่ห้องที่18
และอีกภาพจับภาพของกระบะสีบรอนทอง มาจอด โดยนายณัฐดนัยลงมาจากรถ เพื่อคืนกุญแจ ก่อนที่จะขึ้นรถออกไปจากรีสอร์ท ขณะที่ฝ่ายหญิงจะขับรถเก๋งของผู้ตายอออกไป
จากนั้นตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ในพื้นที่จ.สตูล พร้อมรถเก๋งของคนตาย และสมุดบัญชี โดยไปเปิดโรงแรมนอน ก่อนอำพรางรถด้วยการถอดจีพีเอส ถอดทะเบียนรถ แต่นำบัตรเอทีเอ็มของคนตายไปกด ตำรวจเลยแกะรอยตามรวบตัว
โดยตำรวจคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
จากการสอบถามนางสาวฝ้าย ว่าที่โดยผู้ตายทำร้าย ทำไมจึงตัดสินใจเรียกเพื่อนชายมาฆ่า ปรากฏว่า นายณัฐดนัยอ้างบอกว่าน้องฝ้ายนัดมาหา แล้วบอกว่าไม่ยอมจ่ายเงินและตบตีด้วย ตอนที่แชตคุยกัน นายณัฐดนัยถามว่าฆ่าเลยไหม นางสาวฝ้ายแชตตอบกลับไปว่า ถ้าพี่กล้าก็ลงมือเลย
ก่อนที่จะมีการวางแผน ให้นางสาวฝ้ายไปกระจกห้องน้ำ ก่อนจะปีนเข้าไปซ่อนตัว จากนั้นนางสาวฝ้ายวางยานอนหลับให้คนตายกิน เพราะคิดว่าจะขโมยของ แต่ผู้ตายไม่หลับ ก่อนจะเข้าห้องน้ำ ด้วยความกลัวจะถูกจับ จึงก่อเหตุดังกล่าว