สาวบอกจะไปตลาด แต่นานผิดปกติ พบถูกเผาพร้อมจักรยานยนต์กลางทุ่งนาจนไหม้เกรียม ญาติเชื่อไม่ฆ่าตัวตาย แม้ป่วยโรค เผยพูดเป็นลางก่อนเกิดเหตุสลด
ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 17 พ.ค.2566 ร.ต.อ.สมเจตต์ นุชนารถ รอง สว.สอบสวน สภ.หนองหญ้าไซ ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตถูกเผาพร้อมรถจักรยานยนต์ ที่บริเวณกลางทุ่งนา บ้านดงตาล หมู่ที่ 2 ต.หนองหญ้าไซ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนากว้าง บริเวณเพิงพักในทุ่งนาพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือนางสาวละอองดาว อายุ 31 ปี นอนหงายเสียชีวิตอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ สภาพศีรษะถึงหน้าอกถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก และที่ขาขวามีรอยถูกไฟไหม้จนเนื้อสุก ส่วนรถจักรยานยนต์ถูกไฟไหม้เหลือแต่ซาก
ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบเสื้อเชิ้ตลายขาวแดง รองเท้าสีขาว ขวดเครื่องดื่มชูกำลัง และไฟแช็คตกอยู่ 1 อัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นายวัฒนา อายุ 40 ปี สามีผู้ตาย ซึ่งอยู่ในอาการเสียใจ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าตนนอนอยู่กับลูกที่บ้านส่วนผู้เสียชีวิต บอกว่า จะออกไปข้างนอกแป๊บนึง ไปบ้านยายพรไปซื้อกับข้าว ออกจากบ้านมาประมาณ 7 โมง เอาเงินติดตัวไปแค่ 100 บาท และพรุ่งนี้เขาต้องไปหาหมอเพราะหมอตามนัด
และเคยได้ยินภรรยาว่า "วัตรเอ้ย..ถ้าฉันไม่อยู่แกดูไอ้เดียวด้วยนะ" ส่วนเรื่องหนี้สินผมทำมาหลายปีแล้ว หมุนเอาไม่มีปัญหาอะไร ผมขายกุ้ง เขาไม่เคยคิดฆ่าตัวตายแน่นอนเขามีแม่ มีลูก ที่เป็นห่วงอยู่
ทีมข่าวสอบถาม นางละเอียด อายุ 70 ปี แม่ผู้เสียชีวิต บอกว่า ไปตอน 7 โมงเช้า ไปซื้อผงซักฟอกกับแป้งให้แม่ และก็บอกผัวว่าเดี๋ยวมา แต่หายไปนานมาก เลยให้ผัวไปดู พอผัวขับรถกระบะไปหาก็ไม่เจอ 3 รอบ กระทั่งมีคนพบศพ บอกมีควันขึ้นที่ทุ่งนา ตอนนี้ลูกเขยเสียใจมาก ที่ผ่านมาไม่เคยทะเลาะอะไรกัน ถ้าทะเลาะกันตนก็ต้องรู้เพราะอยู่บ้านเดียวกัน ทั้งนี้เมื่อ 3 อาทิตย์ก่อนลูกสาวเคยสั่งลาลูกเขยว่า ให้ดูลูกชายเชื่อเดียวด้วยนะ ไม่คิดว่าจะพูดเป็นลางเหมือนสั่งลาแบบนี้
โดยเชื่อว่าลูกสาวไม่น่าจะฆ่าตัวตาย ส่วนถ้าจับคนร้ายได้แม่ขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เราเสียใจมากที่มาเสียลูกคนเดียวไป จากที่จะพึ่งพาได้ตอนนี้ก็ไม่มีลูกสาวแล้ว เชื่อว่าลูกอาจถูกฆ่าอยากให้ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้
นอกจากนี้ทีมข่าวได้แชต ที่ชาวบ้านส่งให้ญาติผู้ตาย ประมาณ ว่าก่อน 8 โมงเช้าวันนี้ยังไปเจอผู้ตายอยู่ที่ตลาด ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปเกิดเหตุตอนไหน
ขณะเดียวกัน ทีมข่าว ช่อง 8 ไปพูดคุยกับ นางศิริกานต์ พี่สาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ส่วนตัวมั่นใจว่าต้องถูกฆ่า เพราะเส้นทางนี้คนตายไม่มาแน่นอน เพราะไม่ใช่ทางกลับบ้าน แต่เป็นเส้นทางลัด ทั้งนี้ 2–3 วัน ก่อนสังเกตว่าผู้ตายดูซึมๆ และไอมา 3 เดือนแล้ว (เป็นวัณโรค) และทราบว่าไม่เคยทะเลาะกันใคร อยากให้ตำรวจคลี่คลายคดี