สะพัด 2 พรรคฝ่ายค้านเตรียมเปลี่ยนใจหนุนพิธา "สมศักดิ์" โต้แผนลับลวงพราง

ยังเป็นประเด็นร้อนการเมือง โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ที่ล่าสุด มีการเปิดเผยว่า เตรียมส่งมือประสาน 2 คน ไปเจรจาพรรคเสียงฝั่งที่ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล และในส่วนของส.ว.

โดยบุคคล 2 ท่านนี้ ได้แก่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน โดยทีมข่าวช่อง8 ได้ไปสอบถามนายสมศักดิ์ ว่าไม่ใช่แผนเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลแทน

โดยนายสมศักดิ์ ยังคงยืนยันคำเดิม ว่านายพิธาต้องเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อเช้าวันนี้ตัวเองได้เห็นนายพิธา แถลงข่าว พร้อมกับพรรคร่วมรัฐบาลอีก 7 พรรคแล้ว นายพิธา ก็คิดว่าน่าจะจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปได้อย่างราบรื่น

ถามว่าตอนนี้พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคประชาธิปัตย์ จะมาร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ตัวเองก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในกลุ่มเชิญชวน ไม่ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัว แต่อยู่ในกลุ่มผู้สังเกตการณ์จากรอบนอกเท่านั้น คิดว่าหากพรรคอื่นๆจะมาร่วมจับมือเพิ่มนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับแนวทางการประสานงานของพรรคก้าวไกล ว่าจะมีการเชิญชวนเพิ่มหรือไม่

ส่วนทางด้าน ส.ว.ตัวเองก็ได้ติดตามจากข่าว ก็เห็นว่าแต่ละวันก็มีแสดงเจตจำนงมากขึ้นกว่าเดิม

ถามว่านี่คือละครฉากหนึ่งเพื่อให้เพื่อไทยเป็นนายก จริงไหม ตัวเองขอตอบว่าไม่จริง ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย

"ตัวเองคิดว่าประเด็นของ มาตรา 112 จะเป็นส่วนสำคัญ ที่จะกำหนดทิศทางว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ ถ้าผ่านข้อนี้ไปได้ ก็มองว่านายพิธา สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้" นายสมศักดิ์ กล่าว

นายทรงเดช เสมอคำ วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่บ้านพักในจังหวัดสุโขทัย ว่าอำนาจหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภาเราทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่ในการกลั่นกรองกฎหมาย

ส่วนการแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 112 ตนคิดว่า กฎหมายเป็นเรื่องที่ไม่ได้จะแก้กันง่ายๆ มันแก้ยาก ต้องตั้งกรรมาธิการร่วม ฝ่ายรัฐบาลฝ่ายค้านฝ่ายสมาชิกวุฒิสภา ตั้งกรรมการวิสามัญร่วม ก็จะต้องประชุมกัน อย่างน้อย หลายเดือนประมาณครึ่งปีกว่าจะเสร็จ เสร็จแล้วก็ต้องผ่านวาระ 1 2 3 ก็เป็นเรื่องยาก

นายทรงเดช ย้ำว่าตนจะยกมือเห็นชอบนายกฯเสียงข้างมาก มีข้อแม้เพียงจะฝากว่า สิ่งไหนที่จะนำมาเป็นนโยบายสำคัญของพรรค ที่อันจะกระทบต่อ ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมศีลธรรม วัฒนธรรมอันดีงามของประชาชนชาวไทย กระทบต่อจิตใจที่อ่อนไหวของปวงชนชาวไทย อยากจะให้อยากจะให้พรรคที่เป็นผู้นำรัฐบาลลดอย่านำมาซึ่งประเด็นที่สำคัญ มาเป็นนโยบาย ฝากไว้แค่นั้น ย้ำว่าตนเองยินดีที่จะให้การสนับสนุนเลือกนายกรัฐมนตรีเสียงข้างมาก

เมื่อไปเช็กขุมกำลังส.ว. ที่วันนี้มีสนับสนุนนายพิธาเพิ่มมากขึ้น

ขณะที่นายมณเฑียร บุญตัน ส.ว. กล่าวถึงการโหวตเลือกนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีว่า ตอนแรกคิดจะงดออกเสียง เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. ตามที่เรียกร้องกัน แต่เมื่อถึงตอนนี้ ตนจะโหวตตามน้ำ คือ ส.ส.เป็นน้ำ เอาอย่างไร ตนก็เอาอย่างนั้น

ขณะที่นายนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ส.ว. กล่าวว่า เดิมมีอยู่ 2 คำคือ "แลนด์สไลด์" และ "ปิดสวิตช์ ส.ว." ความหมายของสองคำนี้คือ ไม่จำเป็นต้องใช้เสียง ส.ว. แต่เมื่อรวมกันแล้ว 313 เสียง และไม่ตั้งใจที่จะรวบรวมมากกว่านี้ แสดงว่าเปิดสวิตช์ ส.ว.แล้ว ผมในฐานะ ส.ว. ต้องใช้สิทธิตามหลักการประชาธิปไตย ด้วยการโหวตให้ตามเสียงข้างมากของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

นอกจากนี้ ยังมีส.ว.อีกหลายท่าน ที่ยังไม่ตัดสินใจ

นอกจากนี้ยังมีท่าทีของ นายกรณ์ จาติกวณิช โพสต์ข้อความ ระบุว่า "พรรคเสียงข้างมากอันดับหนึ่ง 1 กับพรรคอันดับ 2 ที่มีแนวทางการเมืองเดียวกัน ควรจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันได้สำเร็จ ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นการสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศตามครรลองประชาธิปไตย

ผมหวังว่า คนไทยจะได้เห็นการขับเคลื่อนนโยบายหลายเรื่องของ #ก้าวไกล ถ้าทำได้ดีก็จะดีต่อประเทศ หรือถ้าทำไม่ได้ก็จะได้เรียนรู้ร่วมกันว่า เพราะอะไร
ซึ่งนโยบายหลายเรื่องเราเห็นปัญหาตรงกัน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ และพลังงาน *ยกเว้นเรื่องมาตรา 112*
ประเด็นพลังงาน ผมขอฝากไว้เรื่องเดียวครับว่า พรรคก้าวไกล ควรกำกับดูแลเป็นรัฐมนตรีเองโดยตรง ขอให้สู้กับทุนผูกขาดพลังงานนะครับ"

ขณะเดียวกัน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ต่อการจัดตั้งรัฐบาล ว่าบรรยากาศตอนนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่หลายพรรคการเมืองแสดงสปิริตทางการเมือง ในการเปิดโอกาสให้พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งมาเป็นอันดับที่ 1 เป็นผู้เริ่มต้นกระบวนการในการจัดตั้งรัฐบาล

ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ที่พรรคก้าวไกลสามารถรวมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลได้ถึง 313 เสียง ซึ่งจะต้องอาศัยเสียงของ ส.ว. 250 เสียง

"การเมืองวันนี้ต้องหันหน้าเข้าหากันพูดคุยกัน อะไรที่ไม่เข้าใจกัน เพราะหลังเลือกตั้งแล้วเป็นเรื่องของบ้านเมือง ก่อนเลือกตั้งเป็นเรื่องการเมือง วันนี้ถ้าพูดคุยกันได้บางที ความเข้าใจผิดหรืออะไรต่างๆ มันก็จะคลี่คลายไป อันนี้ก็เป็นวิธีการที่ฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลต้องไปดําเนินการว่าทําอย่างไรที่จะได้เสียงจากท่านวุฒิสมาชิก มาสนับสนุนให้เพียงพอ" นายสุวัจน์ กล่าว

ลับลวงพรางส่งพิธาขึ้นนายก