อินเลิฟพิธาสุดๆ ยอมนั่งสักหน้า 8 ชั่วโมง แต่คนบันเทิงถกสนั่นเลือกข้างได้เงิน
ยังเกาะติดประเด็นการเมือง ที่ล่าสุด คุณเดย์ ฟรีแมน ที่โพสต์แสดงความคิดเห็นว่าจุดยืนทางการเมืองของศิลปินดารานักร้องบางคน คือ ตรงไหนได้เงินก็ไปยืนตรงจุดนั้นแหละ
จากนั้นคุณไหมไทย หัวใจศิลป์ โต้แสดงจุดยืนการเมืองเพราะเงิน ถามถูกเลิกจ้างเพราะคอลเอาต์ ได้เงินตรงไหน? โดยไหมไทยระบุว่า “คนจัดหลายคน เขาไม่จ้างผมเพราะผมแสดงออกทางการเมืองเยอะเกินไป คนที่เป็นแฟนคลับผมหลายๆคนก็เลิกติดตามผมเพราะผมอยู่ฝั่งตรงข้าม ความคิดสวนทางกัน แล้วถามเถอะการแสดงจุดยืนแบบนี้มันได้เงินตรงไหน แค่ต้องการให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อก็แค่นั้น อย่ามาปากแจ๋วนะเดี๋ยวด่ายับเลย”
ล่าสุดวันนี้ (18 พ.ค. 66) ทีมข่าวช่อง8 ได้ไปสัมภาษณ์ทางพี่เดย์ เผยความรู้สึกกับประเด็นนี้ว่า “พี่ไม่ได้สนใจ ไม่คิดว่าจะมีใครแชร์ โพสต์ตามประสาของเรา และไม่ได้คิดว่าเราเป็นคนวงการบันเทิงแล้วเราเป็นแม่ค้าหรือประชาชนคนหนึ่งที่เห็นภาพข้างนอก เพราะถ้าเราเป็นคนในวงการบันเทิงเราคงพูดแบบนี้ไม่สะดวกที่เราเห็นตาม คือเรารู้ว่าคนที่ทำวงการบันเทิงมันจะต้องมีสปอนเซอร์ จะต้องมีคนสนับสนุนมีค่ายต่างๆ ตรงนี้เราจะบอกว่าพอเห็นกิริยาของนักร้องคนนั้นนักแสดงคนนี้ออกมาคอลเอาท์หรือคิดต่าง จริงๆมันก็เป็นประชาธิปไตย และเราลงไปในมุมมองของเรา คนอื่นจะคิดยังไงเป็นยังไงมันก็เรื่องของเขา แต่ในมุมของเราคือทำมาหากิน ถ้ามัวแต่ยืนตรงจุดที่ไม่มีคนสนับสนุนก็อาจจะไม่ได้คิดเหมือนกับเราด้วย การยืนก็คือตรงจุดที่ตัวเองต้องอยู่ได้ ก็คือไปตามคนที่จ้างสปอนเซอร์ที่เขามีแนวคิดยังไง เราจะไปฝืนเขาไม่ได้ แล้วก็ต้องโน้มน้าวไปตามเขา แต่สถานการณ์จะพาไปเอง ไม่ได้บอกว่าผิดหรือถูกแต่มันอยู่ที่ว่าแล้วแต่มุมมองของใครจะคิด
คือสิ่งที่เราโพสต์ออกไปคือตั้งใจจะสื่อสารในมุมเรา แต่ที่มันมีเอ๊ะ! แต่เราไม่ได้เป็นคนแรกที่มีความคิดแบบนี้ แต่เราแค่คิดว่าตกลงมันยังไงคนนี้เป็นแบบนี้เมื่อก่อนแล้วตอนนี้เขาเป็นยังไง เราพูดตามหลักความเป็นจริงหรือใครจะเถียง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสื่อหลักที่สนับสนุนคือใครสปอนเซอร์ที่สนับสนุน มันก็ต้องรักษาภาพลักษณ์องค์กรไว้ เลยจะบอกว่ามันเป็นบางคนไม่ใช่รวมทุกคน ใครที่เป็นตามที่เราบอกที่เราคิดก็รับไป ถ้าใครไม่ใช่ก็ไม่ต้องเดือดร้อนเพราะเราพูดตามที่เราเห็นแล้วก็ตามความเป็นจริง ซึ่งภาพมันก็ชัดอยู่แล้วมันก็โต้แย้งไม่ได้ และไม่บอกว่าผิดหรือถูกเพราะมันเป็นประชาธิปไตย ทุกคนมีความคิดมีความเห็นของตัวเอง แต่อยู่ที่ว่าสิ่งที่ถามที่คิดนั้นผลตอบรับกลับมามันคืออะไร
กระแสตอบรับที่กลับมาคือเราไม่ได้ใส่ใจเลย เพราะมันไม่ได้มีผลกระทบกับเรา เพราะเราไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงแล้ว คล้ายกับว่าเราทำงานอยู่บริษัทนึง แล้วมันเกิดผลกระทบทำให้ต้องโดนมาเรียกตักเตือนก็ต้องไปตามแนวทางในที่ที่เราทำงานอยู่ แต่ถ้ามันไม่ใช่เราก็ต้องเดินออกไปเองจะไปขัดแย้งให้องค์กรนั้นให้เปลี่ยนไปกับตัวเรามันก็ไม่ใช่ เราต้องเปลี่ยนเข้ากับองค์กรนั้นเพื่อความอยู่รอดของตัวเรา แต่ถ้าตัวเราไม่ใช่ไม่ได้มีผลกระทบกับเราไม่ได้ทำงานจุดนั้นแล้ว อย่างที่บอกว่าเราเป็นแม่ค้าเป็นประชาชนคนนึง ใครที่จะสนับสนุนแม่ฉันก็เห็นด้วย คือเราต้องทำมาค้าขายทำมาหากินของเรา ถ้าไม่ใช่อย่างที่บอกอ่ะ ว่าอวยให้เขาแล้วเขาจะเอาเงินมาให้เรา
บางคนที่ไม่เข้าใจจุดประสงค์เราตรงนี้อธิบายไม่ได้มันอยู่ที่การศึกษาความคิดของแต่ละคน เราไปห้ามไม่ได้คิดยังไงมันก็เป็นตัวของเขา คิดดีมันก็เป็นผลกับเขาคิดไม่ดีกับเป็นผลกับเขา เราไม่สามารถรับรู้ได้ หลายคนอาจจะคิดแบบเราแต่พูดไม่ได้ เพราะอย่างที่บอกมันมีกรอบมีเรื่องราวที่เขาจะต้องมีผลกระทบ แต่เราไม่ได้แคร์ตรงนั้นเพราะสิ่งที่เราพูดไปเราคิดแล้วว่ามันเป็นเรื่องจริง และก็ไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร ถ้ามันทำงั้นจริงๆ ก็ต้องรับได้ในสิ่งที่เขาเป็นแต่ถ้าเขาไม่ได้เป็นก็ไม่ได้ว่า เขาทำเพื่อความอยู่รอดของตัวเขา เราไม่ได้เกี่ยวข้องที่จะมีความอยู่รอดกับเขาด้วยมันเรื่องของเขา
และตรงนี้มันเป็นพื้นที่ของเรา ยิ่งเราไม่ใช่เป็นคนมีพลังหรือซุปตาร์ที่พูดไปแล้วทุกคนจะโน้มน้าวหรือเบนมาทางเรา ไม่ได้มีอภินิหารแบบนั้นแต่เราก็มีความคิดในแบบของเรา เพราะว่าทุกคนต่างก็มีความเป็นประชาธิปไตยก็สามารถที่จะพูดได้เพราะเสียงเราเป็นแค่เสียงเดียว ถ้าเขาคิดไม่เหมือนกันก็แล้วแต่ เราไม่ได้บังคับว่าเธอจะต้องมาคิดเหมือนฉันแต่เราคิดของเราแบบนี้
ทุกคนก็มีหน้าที่ของตัวเองก็ทำตามสิ่งที่ตัวเองคิดว่าตัวเองอยู่ได้อยู่รอดมองตามหลักความจริงยิ่งเรามาอยู่นี้ เพราะว่าเราสบายใจที่จะพูดได้ แต่ถ้าใครอยู่ตรงนั้นอาจจะทำอาจจะพูดอะไรไม่ได้ เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดหรือที่เขาคิดมันอันเดียวกันหรือเปล่า อย่างเช่นเขาเคยพูดแบบนี้แต่เขาแสดงแบบนี้ เพราะแบบนี้ภาพมันชัดออกมาแต่ยังสิ่งที่เราบอกไปเราก็พยายามคิดอยู่แล้วว่าจุดยืนของใครจุดยืนของมัน แต่จุดยืนตรงนี้มันเป็นจุดยืนของเรา แต่ถ้ามันเป็นจุดที่เขาคนอื่นไม่ต้องการ บอกว่ามายืนจุดเดียวเราเดียวกันมันคือคนละพื้นที่ แต่ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหรือสิ่งที่กระทำ เราก็เราก็น้อมรับ ใครจะทัวร์ลงหรือจะอะไรถ้ามีความคิดเห็นที่โต้แย้งในสิ่งที่ดีรู้เรื่องเราไม่เคยไปก้าวก่ายและเราอยู่ในพื้นที่ของเรา
ไม่เคยเข้าไปแสดงความคิดเห็นในส่วนของสเตตัสคนอื่นเพราะเราคุยอยู่ในส่วนของพื้นที่เราทุกคนก็มีความคิดของเราแต่ถ้าใครไม่พอใจแล้วเค้ามาโต้แย้งเราก็ไม่ได้ว่าอะไรถ้ามันเป็นหลักตามประชาธิปไตยแต่ถ้าอย่างที่บอกแล้วเข้ามายังทัวร์ลงพูดจาไม่รู้เรื่องไม่มีความคิดหยาบคายหรือใครส่งมาก่อกวนมันก็มีหน้าที่ของมันว่าจัดการ กับตัวเขายังไงทางนั้นมันไม่มีผลกระทบกับเราเลย บางคนบอกหาแสงหรือเปล่าเราเป็นแม่ค้าไม่มีแสง ถ้าหิวคงต้องวิ่งไปหาสิ่งที่จะทำให้เราได้เงิน ผิดถูกเราไม่รู้อยากทำให้เขาพอใจแค่นั้น ไม่ต้องยุ่งไม่ต้องเคลียร์แล้ว เพราะว่าเราคิดว่าเราพูดสั้นและชัดเจนที่สุดถ้าฟังตามนี้ถ้าไม่เข้าใจอีกเราก็ไม่ต้องอธิบาย เพราะว่ามันอยู่ที่ความคิดของแต่ละคน
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวพบว่า มีคนที่ชื่นชอบนายพิธา ถึงขั้นไปสักเป็นรูปใบหน้าของนายพิธา วันนี้(18พ.ค.66)ทีมข่าววิดีโอคอลพูดคุยกับ นายอณิษฐ์ศักดิ์ วัฒนาจรรยา ช่างสักร้าน Inspiration Ink Tattoo Bangkok ย่านห้วยขวาง เปิดเผยว่า เหตุการณที่ตนเองสักให้ลูกค้า ตอนแรกตั้งใจจะสักโลโก้พรรค แต่ตนเองสักรูปเหมือนอยู่แล้ว ตนเองจึงแนะนำว่าอยากสัหหน้าคุณพิธาไหม ทางลูกค้าก้ยินดี ตนเองจึงสักให้พร้อมลดราคาให้ครึ่งหนึ่ง(ไม่ขอบอกราคา) ลูกค้าเป็นผู้ชาย สักบริเวณต้นขาซ้าย
ส่วนการสักคุณพิธายากเฉพาะตรงแววตา เพราะต้องทำให้ดูมีชีวิต ใช้เวลาสักราว 8 ชั่วโมง วันเดียวเสร็จ หลังโพสต์ไปก็ดีใจที่คนสนใจ คนได้เห็นงาน
ส่วนตัวฝากไปถึงคุณพิธา ให้เป็นนายกฯที่ดีของคนไทย พาประเทศไปในทางที่ดี ตนเองก็เป็นคนหนึ่งที่เชียร์พรรคนี้ ถือว่ามีความหวังอรกครั้งหลังจากรอมา 8 ปี