"ณัฐวุฒิ" พร้อมเป็นประธานสภาฯ มั่นใจแม้พรรษาน้อย แต่มีเพื่อนสมาชิกร่วมทำงาน ย้ำต้องดูที่การหารือหลังเซ็น MOU เผยโผ รมต.ยังไม่นิ่ง แย้ม "ก้าวไกล" จองเจ้ากระทรวงเศรษฐกิจ-สวัสดิการ-ความมั่นคง

19 พ.ค. 66 นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีรายชื่อเสนอเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า อยู่ที่การหารือกัน ซึ่งการเจรจา MOU ตอนนี้ยังไม่สิ้นสุด ยังมีการส่งให้แต่ละพรรคร่วมกันดูว่าเห็นด้วยหรือไม่ และจะออกมาในลักษณะใด ซึ่งขั้นตอนหลังจากการทำ MOU จะมีการพูดถึงตำแหน่งประธานสภาฯ ต่อ ซึ่งต้องดูว่าจะมาจากพรรคการเมืองใด แต่ส่วนตัวยืนยันว่าต้องเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับและเข้าใจงานสภาฯ จึงจะทำให้งานสภาฯขับเคลื่อนไปเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เหมือนสภาฯชุดที่ผ่านมาที่ประชาชนให้ความเชื่อมั่น อาจจะเป็นพรรคก้าวไกลก็ได้ในฐานะที่มีเสียงเป็นอันดับ 1 หรือ อาจจะเป็นคนที่มาจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็มีการเสนอชื่อ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค ส่วนขั้นตอนต่อไปจะเป็นอย่างไรคงต้องรอให้มีการหารืออย่างเป็นทางการก่อน

เมื่อถามว่าพร้อมหรือไม่ หากต้องดำรงตำแหน่ง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า หากดูจากรายชื่อที่ปรากฎในสื่อมวลชน นอกจากตนก็มีทั้งนายธีรัจชัย พันธุมาศ ว่าที่ส.ส.กทม. และนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ว่าที่ส.ส.พิษณุโลก รวมถึงพรรคเพื่อไทย แต่ละคนก็เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ

ส่วนตนเอง ยอมรับว่ามีความพร้อม ถึงแม้ว่าจะมีพรรษาทางการเมืองน้อย แต่เชื่อมั่นว่าสภาฯไม่ได้เป็นสภาฯแบบโดดๆคนเดียว ยังมีเพื่อนสมาชิกร่วมกันทำงาน ที่สำคัญมีสมาชิกข้าราชการสภาฯที่อยู่กันมายาวนาน ยิ่งมีความรู้ความสามารถแนะนำได้ ถือว่ามีความพร้อมและเชื่อว่าชื่อของทุกคนที่ปรากฎก็มีความพร้อม แต่ท้ายที่สุดจะอยู่ที่การพูดคุยและขึ้นอยู่กับเสียงสมาชิกว่าจะเลือกใคร ส่วนตัวยินดี และขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้เกียรติ

เมื่อถามว่าหลังจากนี้ต้องมีการประชุมร่วมกันหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แน่นอน ต้องมีการหารือกัน แต่ต้องให้ MOU เรียบร้อยก่อน เพราะฉะนั้น ต้องดูว่าจะแบ่งกระทรวงกันอย่างไร วันนี้ยังไม่มีความชัดเจน

ส่วนโผรัฐมนตรีที่ปรากฎตามข่าว นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ก็มีการพูดคุยกันบ้างในพรรค แต่พรรคก้าวไกล มีหลักการว่าท้ายที่สุดคนที่จะนั่งเป็นรัฐมนตรีไม่ใช่เรื่องโควต้า แต่ดูคุณสมบัติความรู้ความสามารถ ท้ายที่สุดจะอยู่ที่การแบ่งกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งพรรคเพื่อไทยที่มีสัดส่วนจำนวน ส.ส. ใกล้กัน ก็อาจจะแบ่งจำนวนกระทรวงใกล้เคียงกัน

“ของพรรคก้าวไกลก็จะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ สวัสดิการ หรือความมั่นคง แต่ยังไม่นิ่ง” นายณัฐวุฒิกล่าว