"ชูวิทย์" บุกหน้าโรงเรียนเซนต์โยเซฟ คอนแวนต์สีลม มีร้านจำหน่ายกัญชาตรงข้ามโรงเรียน จี้กระทรวงสาธารณสุขต้องตื่น หมดอิทธิพล "อนุทิน" แล้วเร่งกำหนดพื้นที่ควบคุม

19 พ.ค. 66 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางไปบริเวณโรงเรียนเซนต์โยเซฟ คอนแวนต์ สีลม แถลงข่าวกรณีร้องเรียนว่ามีการเปิดร้านขายกัญชาบริเวณตรงข้ามโรงเรียน ร้านดังกล่าวที่ถูกร้องเรียน อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนเซนต์โยเซฟ คอนแวนต์ สีลม โดยวันนี้ที่ทีมข่าวลงพื้นที่ พบว่าร้านปิด ดูจากภายนอก ประตูร้านเป็นภาพใบกัญชา ที่มีโลโก้ตราพยาบาล ส่วนประตูหน้า ยังมีการปิดสติกเกอร์ว่า “ไม่จำหน่ายกัญชา ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และสตรีมีครรภ์-สตรีให้นมบุตร”

 

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุว่า เหตุผลที่มาที่นี่เพราะมีผู้ปกครองที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟ สีลม ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ แจ้งมาว่า มีร้านเปิดขายกัญชาอย่างเสรี โดยไม่ได้พิจารณาถึงจำนวนเวลา และไม่ใช่เฉพาะที่นี่เท่านั้น

 

เมื่อวานนี้ ตนมาถ่ายเรียบร้อยแล้ว ลักษณะแบบนี้แสดงถึงความบกพร่องอย่างชัดเจนของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีคนอย่างนายอนุทิน และปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไม่ใช่มาส่งเสริมกัญชาขายแบบนี้

 

ที่ผ่านมา ไม่ให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงสถานบันเทิงใกล้สถานศึกษา แต่ทำไมถึงให้ร้านจำหน่ายกัญชามาอยู่หน้าโรงเรียน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะที่นี่ แต่ที่ขอนแก่นก็มี การที่สนับสนุนกัญชาเสรีแบบนี้เป็นการทำร้ายสังคม

 

ประเด็นสำคัญคือ วันนี้กระทรวงสาธารณสุขต้องตื่น หมดอิทธิพลนายอนุทิน ถ้าไม่พูดเรื่องการเมือง พูดเรื่องสังคม และเยาวชน ขอให้พิจารณาออกกฎระเบียบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทำอะไรไม่ได้ เพราะนี่เป็นกฏกระทรวงของกระทรวงสาธารณสุข ออกข้อแรก ใกลิสถานศึกษา ใกล้วัด ระยะกรอบครึ่งกิโลเมตร รัศมี 500 เมตร

 

ที่ผ่านมาตนไปสอบถามพรรคต่างๆแล้ว ที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลซึ่งรับปากว่าไม่เอากัญชาเสรี จะให้กัญชากลับไปเป็นทางการแพทย์ เท่านั้น

 

นายชูวิทย์ ระบุว่า “กระทรวงสาธารณสุขคุณเป็นหมอคนหรือหมอผี นี่ใจกลางกรุงเทพ สีลม เอาสมองไปคิดเรื่องกฎเกณฑ์ มันมาจากรัฐมนตรีหรือนโยบายใครก็แล้วแต่ แต่วันนี้ต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว”

 

จากนั้นผู้ปกครองจึงรวมกันส่งเสียงไม่เอากัญชาหน้าโรงเรียน

 

นอกจากนี้นายชูวิทย์ ยังพูดถึงกรณีการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง ม.112 ตนแนะนำให้พรรคก้าวไกลถอย เพราะเรื่อง ม.112 ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวก่อน ถ้าคุณอยากเข้าไปตั้งรัฐบาล อยากให้ส.ว.โหวต คุณต้องยอมถอยออกมา

 

ส่วนที่มองว่า บางคนไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน คุณชูวิทย์ถามกลับว่า แล้วอย่างส.ว. บางท่านมีประสบการณ์หรือ ไม่ได้รับการจับพลัดจับผลูแต่งตั้งมาเป็น ส.ว. หรือ เพราะฉะนั้น ปล่อยให้ก้าวไกลทำงานไปก่อน ทำดีไม่ดี ผลงานก็จะประจักษ์

 

ส่วนเรื่องของ MOU ไม่ใช่ยอมถอยในเรื่องเกี่ยวกับ ม.112 แต่ต้องยอมถอยทั้งกระบวนการ แม้จะเสียในเรื่องที่คุณพูดไว้ แต่ถ้ายอมถอยคนละก้าว ประเทศชาติก็จะเดินหน้าต่อไปได้ โดยวันอังคารที่จะถึงนี้คุณชูวิทย์ได้ส่งสัญญาณไปบอกแกนนำพรรคก้าวไกล ให้เข้ามาพูดคุยกัน ซึ่งคุณชูวิทย์ระบุว่า มีคนส่งสารผ่านมายังตนเอง ว่าหากก้าวไกลอยากเป็นรัฐบาลก็ควรต้องถอยหนึ่งก้าว