หลานทรพีปาดคอป้าดับ ญาติรุมทืบส่งยัดคุก ผัวใจสลายกอดศพเมีย
จากกรณีที่หนุ่มวัย 27 ปี ป่วยจิตเวช ใช้มีดปาดคอน.ส.ธัญญรัตน์ อายุ 48 ปี เสียชีวิตคาอ้อมกอดของแม่
ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนายบดินทร์ หรือโก้ อายุ 27 ปี หลานชาย ซึ่งชาวบ้านช่วยกันควบคุมตัวไว้ที่หน้าบ้าน และโดนรุมประชาทัณฑ์ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกให้การไม่รู้เรื่อง
ผู้สื่อข่าวช่อง8 เดินทางมาที่เกิดเหตุ ที่บ้านหนองฮาง ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี
ขณะที่บริเวณบ้านที่เกิดเหตุ เต็มไปด้วยกองเลือดขนาดใหญ่หลายจุด โดยเฉพาะที่บริเวณพื้นข้างบ้าน จุดที่น.ส.ธัญญารัตน์ เสียชีวิต และยังพบผ้าเปื้อนเลือดอีกหลายชิ้น ที่แม่ผู้ตายได้นำมาปิดแผลที่คอให้ลูกสาว
นอกจากนี้ยังพบมีดที่ผู้ก่อเหตุใช้แทงคอผู้ตาย ที่เจ้าหน้าที่นำมาเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้กล้องวงจรปิด จากร้านค้า สามารถจับภาพที่นายบดินทร์หรือนายโก้ ไปหยิบบุหรี่และกาแฟซองที่ร้านค้า
โดยครั้งแรกนายโก้มาหยิบเอาบุหรี่เส้น เวลา 08.17น.ของวันที่ 17 มีนาคม 66 จะเห็นนายโก้ผู้ต้องหา ใส่เสื้อยืดสีส้ม กางเกงวอร์มขายาวสีดำ ไม่สวมรองเท้า เดินกะเผลกๆ มาที่ร้านค้า ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ขายบุหรี่ ที่แขวนอยู่ตรงต้นเสา แล้วก็ดึงเอาซองบุหรี่ 1 ซอง ก่อนยัดใส่กระเป๋ากางเกง
ส่วนคลิปที่ 2 เป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 เมษายน 66 เวลา 08.28น. สามารถบักทึกภาพนายบดินทร์ สวมเสื้อยืดสีเทา กางเกงขาสั้น ไม่สวมรองเท้า เดินเข้ามาในร้านค้าและได้หยิบเอาบุหรี่ซองไป จำนวน 1 ซอง และได้ยัดใส่ถุงกางเกง
ขณะเดียวกันทีมข่าวช่อง8 ได้พูดคุยกับ นายกมล อายุ 50 ปีสามีผู้ตาย ยังอยู่ในอาการช็อก ญาติๆ ต้องช่วยกันปฐมพยาบาล เอายาดมมาให้ดม ก่อนจะเล่าให้ฟัง ช่วงที่เกิดเหตุ ตนเองไม่อยู่บ้าน ตนเองอยู่ที่นา พอมีคนมาบอกว่า นายโก้หลานชายฆ่าภรรยาตนเอง จึงได้รีบกลับบ้านมาดู พบว่า ภรรยาเสียชีวิตแล้ว ไม่คิดว่านายโก้จะทำกับภรรยาของตนเองได้ เพราะภรรยาของตนเองเลี้ยงดูนายโก้ตั้งแต่เด็ก หลังจากที่พ่อกับนายโก้หย่าร้างกัน หลังจากที่นายโก้ป่วย ก็บอกก็เตือนทุกคนให้ระวังตัว เพราะอาการเริ่มหนัก แต่นายโก้ก็ไม่เคยทำร้ายใคร
ส่วนช่วงที่นายโก้ป่วยเข้าโรงพยาบาล ก็เป็นภรรยาของตนเองที่ไปเฝ้าไข้ ดูแลไม่ห่าง เพราะภรรยาตนเองจะรักนายโก้มาก ดูแลอยากดี หากเป็นไปได้อยากซื้อเวลา ซื้อชีวิตภรรยากับคืนมา
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางนิยม คามะเชียงพิณ แม่ผู้ตายและมีศักดิ์เป็นย่าผู้ก่อเหตุ เล่าให้เราฟังว่า ช่วงที่เกิดเหตุตนเองนั่งอยู่ตรงแคร์ไม้ไผ่ข้างบ้าน ส่วนผู้ตายหลังจากที่ไกลเปลข้างบ้านเอาหลานนอนกลางวันเสร็จ จึงได้เดินเข้าไปในบ้าน ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไร แต่คาดว่าน่าจะเดินเข้าไปในครัวหลังบ้าน
ซึ่งต้องผ่านห้องนอนของนายบดินทร์ ผู้ก่อเหตุ ที่อยู่ในห้องนอน เพราะห้องนอนของนายบดินทร์ อายุ 27 ปี จะอยู่ในครัว โดยได้เอาตู้เสื้อผ้ามากั้นไว้ และเอาผ้ามากั้นทางเข้าออก
โดยคาดว่าผู้ตายน่าจะเดินมาเจอกับนายโก้ที่ยังคงอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ออกมาจากห้องนอนพอดี และไม่ทันได้ระวังตัว ก็ถูกนายโก้หลานชายใช้มีดทำครัวปาดคอ
จากนั้นผู้ตายก็วิ่งออกมาหาตนเองที่นั่งอยู่ตรงแคร่ข้างบ้าน โดยได้ใช้มีดอีกข้างกุมที่แผลไว้ และเลือดก็เริ่มทะลักออกมาเป็นจำนวนมาก ก่อนที่ผู้ตายจะเรียกตนเอง แม่ แม่ อยู่ 2 ครั้ง ตอนนั้นตนเองก็ตกใจนึกว่าลูกสาวถูกไฟชอร์ต ก่อนจะรีบวิ่งไปช่วยลูกสาว ประคองมานั่งที่แคร่ไม้ไผ่ ตอนนั้นเลือดไหลไม่หยุด ตนเองจับได้ผ้าอ้อมหลานและผ้าขนหนูที่วางอยู่บริเวณนั้นเอามาซับเลือดไว้ แต่พอตนเองเอาผ้ามาซับเลือดที่คอ ก่อนที่สักพักลูกสาวจะฟุบลงกับพื้น และเสียชีวิตคาอ้อมกอดของตนเอง
ขณะที่ตำรวจได้คุมตัวนายบดินทร์ มาที่สภ.เมืองอุดรธานี พบว่า สภาพสะบักสะบอม ที่บริเวณศีรษะมีผ้าพันแผล จากการถูกรุมประชาทัณฑ์ ส่วนนายบดินทร์ นั่งนิ่งๆ ทำตาขวาง
ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าไปพูดคุยกับนายโก้ พบว่า ผู้ต้องหายังพูดจาไม่รู้เรื่อง เอาแต่พูดพึมพำอยู่คนเดียว
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี หลังสอบปากคำเสร็จ ได้นำตัวนายบดินทร์ ส่งรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช เพื่อรักษาอาการป่วยทางจิตเวชให้หายดีก่อน จึงจะสามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้