เปิดเบื้องหลังฆ่าสาวบาร์เบียร์แม่เชื่อมีคนสั่งตาย ล่า "กิ๊ก กิโลสิบ" ปมรักหลายเส้า
จากเหตุการณ์คนร้ายบุกแทง นางสาวรัตนา เสียชีวิตในห้องพัก อพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุมีร่องรอยการต่อสู้ และมีคราบเลือดรอยรองเท้าของคนร้าย เดินเต็มพื้นห้อง
ล่าสุดตำรวจสภ.เมืองพัทยา รวบรวมหลักฐาน เสนอศาลออกหมายจับ นายวัชระพล หรือกิ๊ก มีฉายา กิ๊กกิโลสิบ ซึ่งคบหากับผู้เสียชีวิตประมาณ 1 ปี ในข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
โดยกล้องวงจรปิดจับภาพของนายกิ๊กได้ เข้ามาภายในห้องพักของนางสาวรัตนา เมื่อ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุด ทีมข่าวช่อง8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพนาทีสำคัญช่วง 21.00 น. นายกิ๊ก ชายที่คบหาดูใจกับคนตายมาหาคนตายที่ห้องพัก โดยภาพวงจรปิดหอใกล้เคียงกับอพาร์ทเมนต์ที่เกิดเหตุบันทึกนาทีที่ชายแต่งกายคล้ายนายกิ๊กเดินเข้าอพาร์ทเมนต์ที่ผู้ตายอาศัยอยู่ ซึ่งเวลาที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดช้ากว่าเวลาจริง30 นาที
ต่อมาวันที่ 16 พฤษภาคม ช่วง 01.00 น. คนตายกลับเข้ามาที่ห้องพักลำพัง ซึ่งมีภาพวงจรปิดยืนยันนาทีสุดท้ายของคนตายก่อนเสียชีวิต
ช่วง 03.00 น. คนตายซึ่งอยู่บนห้องพักกับนายกิ๊ก ได้โทรศัพท์เรียกชายคือนายหรั่งชายอีกคนที่พัวพันกับคนตายให้มาหาที่ห้องพัก ก่อนที่นายกิ๊กจะไม่พอใจไล่นายหรั่งกลับ
โดยมีภาพวงจรปิดยืนยัน นาทีที่นายกิ๊กเดินมาส่งนายหรั่งที่บริเวณนอกอพาร์ทเมนต์ นายกิ๊กใส่เสื้อดำ ส่วนนายหรั่งใส่เสื้อคลุมสีขาว
03.51น. นายกิ๊กเดินกลับขึ้นไปห้องพักของคนตายลำพัง ก่อนทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรง
ตำรวจคาดการณ์ว่า ช่วง 08.00-09.00 น. เป็นช่วงที่นายกิ๊กลงมือฆาตกรรมคนตายและช่วง 09.04 น. มีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกนาทีนายกิ๊กเดินออกมาจากอพาร์ทเมนต์คนตายหลังฆ่าเสร็จ ได้ขึ้นคร่อมรถจักรยานยนต์สีน้ำเงินของคนตายหลบหนี
ส่วนสาเหตุที่ฆาตกรรมเนื่องจากหึงหวงฝ่ายหญิงที่มีชายเข้ามาพัวพันลักษณะหลายคน
โดยทีมข่าวเจอกับนายหรั่ง เล่าให้ทีมข่าวช่อง8 ยอมรับว่าเข้าไปในที่เกิดเหตุจริง แต่ไม่รู้เห็นการตาย และเจอกิ๊กอยู่ในห้อง ส่วนตัวไม่รู้จักกับนายกิ๊ก รู้จักแต่กับนางสาวรัตนาผู้เสียชีวิต แค่ตามจีบมาเพียง 1 เดือน ภายหลังจากออกจากห้องวันนั้น ก้ไม่รู้ว่าในห้องเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น
วันนี้ช่วง 17.00 น. นางสำราญ อายุ 59 ปี แม่ของคนตาย เดินทางมาที่อพาร์ทเมนต์ที่คนตายเสียชีวิต เพื่อมาขนของคนตายกลับบ้านพักที่จ.อำนาจเจริญ และมาเชิญดวงวิญญาณของคนตายกลับบ้านตามความเชื่อ
โดยแม่คนตายจุดธูป 7 ดอก หน้าอพาร์ทเมนต์ของคนตาย จากนั้นนั่งลงกับพื้นและพนมมือไหว้เจ้าที่เจ้าทางเพื่อขอให้เปิดทาง เพราะวันนี้ ตนจะนำดวงวิญญาณของลูกที่เสียชีวิตในห้องพักบริเวณชั้น 3 ตามกลับบ้านเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนาระหว่างที่พนมมือไหว้ขอเจ้าที่เจ้าทางปรากฎว่าแม่น้ำตาซึมและมีน้ำเสียงคล้ายคล้ายร้องไห้สะอื้นตลอดที่ทำพิธี
จากนั้นแม่ของคนตายก็ขึ้นไปที่ห้องพักของลูกที่เสียชีวิตคาห้อง ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าของหอพักได้ทำความสะอาดล้างคราบเลือดและขนเฟอร์นิเจอร์ที่เปื้อนเลือดออกไปทั้งหมดแล้ว โดยมีการจุดธูปและเชิญดวงวิญญาณหากยังคงอยู่ที่นี่ให้ตามกลับไปทำพิธีที่บ้านเกิด
แม่คนตายเล่าว่า ได้คุยกับลูกสาวครั้งสุดท้ายวันที่ เมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 โดยวันดังกล่าวลูกสาวโทรมาขอให้ตนเองโอนเงินให้จำนวน 1,000 บาท แต่ด้วยความเป็นห่วงลูกสาวจึงโอนให้ 2,000 บาท พร้อมกับบอกลูกสาวขอให้กลับบ้านเกิดที่จ.อำนาจเจริญแต่ลูกสาวก็อ้างว่ายังกลับไม่ได้
ส่วนสาเหตุที่ตนบอกให้ลูกสาวกลับบ้านพักเนื่องจากทราบมาว่าลูกมีอาการป่วย จากการเสพยาเสพติด จึงอยากเอาตัวลูกสาวไปรักษาที่บ้านพักและดูแลอย่างใกล้ชิด โดยทราบมาว่าลูกสาวมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อโบว์ ซึ่งตั้งแต่ลูกรู้จักกับคนที่ชื่อโบว์ก็เริ่มเสพยาเสพติดและมีพฤติกรรมเถลไถล เพราะเพื่อนคนนี้ทำลูกเสีย จากนั้นตนก็ได้โทรหาลูกสาวอีกแต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งทราบว่าเสียชีวิต เชื่อว่าลูกถูกจ้างฆ่า
ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกสาวเคยเล่าให้ฟังว่า อ้างว่าคบกับผู้ชายคนหนึ่งชื่อแบงค์ เป็นหลานของเจ้าของอพาร์ทเมนต์แห่งนี้ แล้วลูกสาวยังบอกว่านายแบงค์ให้ลูกสาวอยู่ฟรีโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินค่าที่พัก แต่ต่อมาทราบว่านายแบงค์มีภรรยาอยู่แล้ว และภรรยาของนายแบงค์ก็จับได้ว่าลูกสาวตนไปเป็นกิ๊ก ทั้งนี้ คุณแม่เชื่อว่าลูกน่าจะถูกจ้างวานฆ่า
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวช่อง8 ได้สอบถามข้อเท็จจริงกับนายแบงค์ อดีตกิ๊กหนุ่มคนตาย ยอมรับเคยคบหาดูใจกับคนตายในลักษณะกิ๊กกันเมื่อหลายปีก่อน แต่ก็เลิกความสัมพันธ์กันหลังภรรยาจับได้ หลังจากที่ตนบอกเลิกฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงก็ยังคงตามตื้อโทรหาตนตลอดแต่ตนไม่ได้เล่นด้วย ซึ่งที่ผ่านมาคนตายไม่เคยมายืมเงินตน แต่มีแต่ตนที่เคยไปยืมเงินคนตายระหว่างที่คบหากันก็ทราบว่าคนตายมีพฤติกรรมติดยาเสพติด
พร้อมกันนี้ นายแบงค์ ยืนยันหากทางครอบครัวคนตายเชื่อว่าตนไปจ้างวานคนร้ายให้มาฆ่า และยืนยันว่าภรรยาของตนไม่เคยไปตบตีหรือพาพวกไปรุมทำร้ายคนตาย