คลั่งแพ้แล้วพาลบุกห้องแทงหนุ่มซวยดับ หนีกุเรื่องถูกตื๊บ ยามจับพิรุธสกรัมยัดคุก

ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่เกิดเหตุภายในการเคหะพระประแดง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อคือ นายณรงค์ชัย อายุ 29 ปี มีบาดแผลถูกกรรไกรแทงเป็นแผลลึก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายอนุวัฒน์ อายุ 28 ปี ทราบว่าหลังจากที่ก่อเหตุได้วิ่งหนีลงมาจากตึกแล้วถูกชาวบ้านช่วยกันจับตัว ก่อนถูกประชาทัณฑ์จนได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำแผล พบว่าผู้ก่อเหตุมีอาการมึนเมาสุราพูดจาวกวน เบื้องต้นให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนก่อเหตุดังกล่าว

ขณะที่ภาพวงจรปิดบันทึกภาพเอาไปได้ ซึ่งเป็นภาพของผู้ก่อเหตุ โดยพบว่าช่วงหัวค่ำ ผู้ก่อเหตุนั่งกินเหล้ากับเพื่อน กินเหล้าไปถึงประมาณ 22.00 น.

ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุได้ชกต่อยกับเพื่อนในวงเหล้าชื่อภทรเดช

โดยพบว่านายอนุวัฒน์โวยวายและปรากฏภาพนายอนุวัฒน์ถอดรองเท้าแล้ววิ่งกลับไปทางเดิม แล้วไปชกต่อยกัน

และประมาณ 23.23 น. นายณรงค์ชัยกลับมาพร้อมภรรยากำลังจะเข้าห้องพัก

โดยนายณรงค์ชัยกำลังจอดรถปรากฏว่านายอนุวัฒน์วิ่งถือกรรไกร ไม่ได้กลับไปหาภทรเดชคู่กรณี และวิ่งตามนายณรงค์ชัยถึงบนห้องก่อนจะก่อเหตุแทงนายณรงค์ชัย

หลังก่อเหตุนายอนุวัฒน์วิ่งหลบหนี โดยมีนายภทรเดช เป็นเพื่อนนายณรงค์ชัยและเป็นเพื่อนผู้ก่อเหตุ กลุ่มเพื่อนและชาวบ้านจึงไล่ตามจับตัวผู้ก่อเหตุ โดยระหว่างวิ่งหนีปรากฏว่านายอนุวัฒน์ร้องขอความช่วยเหลืออ้างถูกไล่ทำร้าย

นายภทรเดช อายุ 31 ปี ยืนยันว่า เป็นคนที่มีปากเสียงและทะเลาะกับ นายอนุวัฒน์ผู้ก่อเหตุ บริเวณหน้าห้องเช่า ผู้ก่อเหตุเพื่อนร่วมงานได้นั่งกินเหล้ากันหน้าห้องเช่า ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 น จนไปถึงเวลาประมาณ 22.00 น. ก่อนที่ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านหลังจากทั้งคู่มีปากเสียงกันและทำร้ายร่างกายกันจนเจ็บทั้งสองฝ่าย หลังจากนั้นต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้านพัก นึกว่าจบเรื่องกันไปแล้ว

แต่ปรากฏว่านายอนุวัฒน์กลับไปเอากรรไกรแล้วมาไล่ฆ่าคนอื่นแบบนี้ พร้อมยืนยันว่าผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน และเอาแชตให้ดู ซึ่งเป็นการท้าทายกับนายภทรเดช

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพลเมืองดี โดยเล่าว่า เมื่อคืนนี้ ตนเองนั่งเข้าเวรอยู่ที่ป้อม จู่ๆนายอนุวัฒน์ คนก่อเหตุ ก็วิ่งมาที่หน้าโรงงานแล้วก็ปีนประตูรั้วเข้ามาในโรงงาน ด้วยความตกใจ ก็เลยตะโกนไปว่าหยุดนะ ไม่หยุดเดี๋ยวกูยิง โดยการเอาไฟฉายขู่ จนนายอนุวัฒน์ มันหยุดวิ่ง ก็เลยเดินเข้าไปล็อกคอ ถามว่ามึงปืนเข้ามาในโรงงานทำไม แต่นายอนุวัฒน์ ก็อ้างว่า ผมโดนไล่ตีมา ผมมาขอความช่วยเหลือ ตนเองก็เลยพาไปนั่งที่หน้าป้อมยาม แต่ปรากฏว่า นั่งไปไม่ถึงนาที ก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง วิ่งหน้าตาตื่นมาตะโกนบอกว่า พี่จับมันเลยมันก่อเหตุแทงคนมา ก็เลยจับนายอนุวัฒน์เอามือไขว้หลังเพื่อรอตำรวจเข้ามาคุมตัวไปโรงพัก

ในส่วนของคดีตำรวจแจ้งข้อหานายอนุวัฒน์ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และจะคุมตัวไปฝากขังตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ส่วนผู้เสียชีวิต ญาติเตรียมประสานรับศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป