"ราเมศ" ยัน "ปชป." ยังไม่มีการเจรจา ร่วมรัฐบาล"ก้าวไกล" ยังกั๊กจับมือ "เพื่อไทย" ย้ำจุดยืนไม่ยกเลิก-แก้ไขม.112 เตรียมประชุมหารือเลือกหัวหน้าพรรคใหม่ 24 พ.ค.นี้

22 พ.ค. 66 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์แถลงข่าวชี้แจง กรณีมีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ไปเจรจากับพรรคอื่น​เพื่อจัดตั้งรัฐบาล​ ว่าเป็นข้อมูลที่บิดเบือนทั้งสิ้น​​ ถือว่าเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของพรรค และพรรคมีกฎเกณฑ์​ ข้อบังคับชัดเจนว่าทุกอย่างต้องผ่านมติจากที่ประชุมของพรรค​ ข่าวที่ปรากฏมาว่า มีใครไปเจรจาประสานงานร่วมรัฐบาลนั้นเป็นเท็จ

 

นายราเมศ​ยังยืนยันว่าไม่มีใครใช้อำนาจไปเจรจาได้​ ส่วนจะมีสมาชิก​โหวตเห็นชอบนายกรัฐมนตรีให้ก้าวไกล​ หรือข่าวว่าไปร่วมกับคนนั้น​ คนนี้​ เป็นความเห็นส่วนบุคคล​ ตนพูดในนามพรรคที่มีข้อบังคับพรรคชัดเจน

 

ในส่วนของก้าวไกลที่ชนะการเลือกตั้ง​ เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล​ รวบรวมพรรคต่างๆ เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกลที่พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ก้าวล่วง​ สถานะของพรรคประชาธิปัตย์ มีตัวเลข​ ส.ส.อยู่ที่​ 24 เสียง​ ไม่มีสิทธิทักท้วง​ คัดค้านในเรื่องที่พรรคก้าวไกลและพรรคร่วมคุยกัน​ และขอให้พรรคก้าวไกลโชคดีในการจัดตั้งรัฐบาล​

 

ส่วนจุดยืนเรื่องมาตรา 112 พรรคประชาธิปัตย์ยังย้ำจุดยืนเดิมคือไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข หรือยกเลิก ตามอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ หากดูจากร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาฯ ที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอต่อสภาฯ นั้น มาตรา 4 ก็ระบุไว้ชัดเจนว่า ให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

 

อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลยังไม่ละเลิกความพยายามในการยื่นแก้ไขมาตรา 112 ถึงแม้ว่าจะถูกตีกลับหลายครั้งเนื่องจากมีข้อบกพร่อง จนในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 28-29/2555 ว่ามาตรา 112 ไม่ได้มีเหตุจำเป็นต้องยกเลิก หรือแก้ไข เพราะไม่ได้กระทบต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชน

 

"ถ้าก้าวไกลจะทำให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม เราไม่ก้าวล่วง แต่เราต้องต่อสู้กันในเรื่องต่างๆ ในระบบรัฐสภา ส.ส ของพรรคประชาธิปัตย์ 24 คน พร้อมทำหน้าที่"

 

ส่วนการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่หลัง​ ​ นายจุรินทร์​ ลักษณวิศิษฎ์ ลาออก ในวันพุธ​ ที่ 24​ พ.ค. นี้​เวลา​ 10.00 น.​ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อดำเนินการเรื่องดังกล่าว​ พร้อมยืนยันไม่มีการล็อคตัวแคนดิเดตใดๆ ทั้งสิ้น

 

นายราเมศยังระบุอีกว่า​ แม้พรรคประชาธิปัตย์แพ้การเลือกตั้ง​ แต่ไม่ได้มีความหมายว่าต้องปิดพรรค​ นโยบายของพรรคอาจไม่หวือหวา​ แต่ความยั่งยืนที่เกิดขึ้นจะเป็นคำตอบให้ประชาชน​ ส่วนความพร้อมในการทำงานในสภา ​พรรคประชาธิปัตย์พร้อม​ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน​ เพราะเป็นมาหมดแล้ว​ ขณะที่ความเป็นไปได้จะจับมือกับพรรคเพื่อไทย กรณีจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ นายราเมศ ขอให้รอมติพรรค

 

นอกจากนี้ นายราเมศ ยังกล่าวถึง กรณีนายวิโรจน์​ ลักขณาอดิศร​ ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล​ ที่ปราศรัยพาดพิงด้อยค่า​พรรคอื่นๆ​ ตลอดเวลา โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์​ ขอให้ย้อนกลับไปตอน วิโรจน์ สมัครผู้ว่าฯ กทม.แล้วแพ้​ พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยทับถม​ ด้อยค่า​ เลย

 

“ในฐานะโฆษก ผมไม่พาดพิง เพราะถือว่านั่นคือมติของประชาชน​ ผมคิดว่า คุณพ่อคุณแม่ของคุณวิโรจน์ คงสั่งสอนมาดี แต่ด้วยตัวนายวิโรจน์ที่มีสันดานดิบ​ ด้อยค่า​ เสียดสีพรรคการเมืองอื่น​ และไม่เรียกร้องให้ปรับนิสัย​ เพราะเป็นมาหลายครั้งแล้ว" นายราเมศ กล่าว