อากาศร้อน นอนปิดกระจกรถ ชาวนาพ่อลูกอ่อนนอนเฝ้าเครื่องสูบน้ำเสียชีวิตอนาถ
ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ร.ต.ท.อมรเทพ วิชิตชาญ พนักงานสอบสวน สภเมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งมีคนเสียชีวิตที่กลางทุ่งนาบ้านโคกโคเฒ่า หมู่ 2 ตำบลโคกโคเฒ่า จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช กำลังฝ่ายสืบสวนและมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่กลางทุ่งนาพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อนายกนก อายุ 30 ปีชาวบ้านตำบลดอนโพธิ์ทอง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี สภาพนุ่งกางเกงขาสั้นสวมเสื้อยืดแขนสั้นนอนหงายพาดอยู่บนเบาะรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิสภาพเก่า ที่คอนโซลหน้ารถมีพัดลมขนาดเล็กตั้งอยู่ในสภาพเปิดทำงาน ในรถพบเสื้อผ้าเครื่องนอนของผู้เสียชีวิตวางอยู่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบาดแผลและร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใดคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 ชั่วโมง
จากการสอบถามนางน้ำเชื่อม นภาดล อายุ 53 ปีแม่ผู้เสียชีวิตซึ่งมาดูร่างไร้วิญญาณของลูกชายอยู่ในอาการเสียใจร้องไห้แทบขาดใจ เล่าว่าลูกชายเป็นเสาหลักของครอบครัวเป็นคนขยัน ทำแต่งานก่อนเกิดเหตุได้มาเฝ้าเครื่องสูบน้ำ ที่กำลังสูบน้ำเข้านาที่เช่าเขาทำกว่า 100 ไร่และรอรับพันธุ์ข้าวปลูกเพื่อเตรียมจะหว่านข้าวทำนา โดยปกติลูกชายจะกลับไปนอนบ้านทุกวันแต่เมื่อคืนไม่ได้กลับบ้านกระทั่งเช้ามีคนโทรไปบอกว่าพบลูกชายเสียชีวิตที่กลางทุ่งชวนสามีและลูกสะใภ้และญาติ เดินทางมาดูเมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของลูกชายก็แทบขาดใจ เพราะตนมีลูกคนเดียว และลูกไม่เคยเกเร ขยันทำงาน รักครอบครัว ตนและครอบครัวไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตเพราะลูกไม่เคยมีปัญหากับใครจึงคิดว่าไม่มีใครมาร้ายลูกสาเหตุคิดว่าน่าจามาจากลูกทำงานหนักพักผ่อนน้อย และนอนในรถปิดกระจก อากาศก็ร้อนทำให้เป็นลมแดดเสียชีวิต
นายวิมล อายุ 53 ปีเพื่อนที่ทำนาใกล้กันและมานอนเฝ้าเครื่องสูบน้ำด้วยกันในคืนเกิดเหตุเล่าว่าผู้เสียชีวิตรู้จักกันเพราะบ้านอยู่ใกล้กัน เป็นคนขยันช่วงค่ำได้มารอรับเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกอยู่ที่เกิดเหตุ หลังจากได้เมล็ดพันธุ์ข้าวแล้วก็นั่งคุยกันโดยตนได้ซื้อเบียร์มานั่งดื่มส่วนผู้เสียชีวิตไม่ดื่ม กระทั่งประมาณ 5 ทุ่มผู้เสียชีวิตจึงขอตัวไปนอนในรถตนชวนให้นอนด้วยกันบนรถเทเลอร์ของตนแต่ผู้เสียชีวิตไม่นอนเข้าไปนอนในรถโดยปิดกระจกทั้งสองข้างจนสนิทแล้วเปิดพัดลมตัวเล็กไว้บนคอนโซนก่อนนอนก็ไม่ได้พูดอะไรบอกแต่เพียงว่ารู้สึกเพลียกระทั่งเช้าตนตื่นไม่เห็นผู้เสียชีวิตจึงเดินไปดูที่รถเห็นผู้เสียชีวิตนอนหงานอยู่มา จึงเคาะประตูรถเรียกผู้เสียชีวิตก็ไม่ยอมตื่นจึงตัดสินใจงัดประตูรถดูก็พบว่าเสียชีวิตแล้วจึงแจ้งตำรวจและญาติมาดู
ทางด้าน น.ส.ลัดดาวัลย์ อายุ 39 ปีภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่าสามีเป็นคนขยันไม่มีโรคประจำตัว ก่อนเกิดเหตุสามีได้สั่งให้ตนซักเสื้อผ้าผ้าห่มที่สามีใช้ และตนก็ได้ซักให้และพับใส่ถุงไว้ กระช่วงเช้าวันที่ 21 พ.ค.ตนออกจากบ้านประมาณตีสี่เพื่อไปหาหมอ ส่วนสามีออกจากบ้านประมาณ 09.00 น.กระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น.ตนได้โทรศัพท์หาสามี สามีบอกกำลังวิ่งข้าวปลูก และสั่งให้ตนซื้อข้าวไว้ให้ด้วยตนก็ซื้อไว้ให้กระทั่งสองทุ่มสามียังไม่กลับบ้านจึงโทหาอีกรอบแต่สามีไม่รับสายตนคิดว่าคงชาร์ตโทรศัพท์ไว้ จากนั้นก็ไม่ได้โทรอีก ปกติ ปะมาณ 5 ทุ่มเที่ยงคืนเขาจะกลับบ้านทุกวันไม่เคยนอนค้างที่อื่นจนรุ่งเช้ามีคนโทรไปบอกว่าสามีเสียชีวิตแล้ว ตนตกใจมากก่อนหน้านี้สามีเคยบ่นว่าปวดเมื่อยร่างกายแต่ไม่ได้พูดเรื่องอื่นให้ฟังเพราะสามีไม่เคยมีปัญหากับใครตนเพิ่งจะมีลูกด้วยกัน 1 คนเป็นลูกสาวอายุเพิ่งจะ 9 เดือนต้องมากำพร้าพ่อ
มีเสียง นางน้ำเชื่อม นภาดล อายุ 53 ปีแม่ผู้เสียชีวิต นายวิมล พันธ์ดวง อายุ 53 ปีเพื่อนที่ทำนาใกล้กัน และน.ส.ลัดดาวัลย์ ศรีสิงห์ อายุ 39 ปีภรรยาผู้เสียชีวิต