เปิดนาทีสังหารเพื่อนร่วมชาติ คร่อมร่างมีดปักคอ หนีตัวเปื้อนเลือดแต่ไม่รอด

จากเหตุการณ์ในวงเหล้า แล้วเกิดการทะเลาะกัน โดยนายซอถูกแทงเสียชีวิต ขณะที่ผู้ก่อเหตุคือนายกู่กู่ ซึ่งทั้งคู่เป็นชาวเมียนมา เหตุเกิดที่หอพักแห่งหนึ่ง อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

ทีมข่าวช่อง 8 ไปได้กล้องวงจรปิด เพิ่มมา 2 มุม ซึ่งเป็นเหตุการณ์เดียวกันกับวงจรปิดต้นเรื่อง ก็คือ วงจรปิดที่ประตูรั้วติดกับ จะเห็นว่า นายกู่ กู่ คนก่อเหตุ ได้วิ่งหนีออกมาก่อนที่เจ้าของอาพาร์ทเม้นท์รวมถึงตำรวจและกู้ภัยจะไปถึง

ส่วนมุมที่ 2 ก็จะเห็นภาพสอดรับกับวงจรปิดต้นเรื่อง ที่จะเห็นภาพ นาย ไน่ ญ่ กูคนก่อเหตุ วิ่งมาผ่านหน้ากล้องวงจรปิดตรงไม้กั้นขาวแดง โดยมีการมองที่มือ เปื้อนเลือดของตัวเอง ก่อนจะวิ่งเลี้ยวซ้ายออกไปจากที่เกิดเหตุ

ส่วนเหตุการณ์ถัดไป ก็จะเป็นภาพมุมไม้กั้นขาวแดงและมุมภาพหน้าประตูรั้ว จะเห็นว่าหลังจากแม่บ้านโทรไปแจ้งเจ้าของอาพาร์ทเม้นท์ ลูกชายของเจ้าของอาพาร์ทเม้นท์ ได้ขับรถคันสีดำเข้ามายังที่เกิดเหตุ ในเวลา 02.53 น. ซึ่งจะมีกล้องอีกมุมสอดรับกัน

หลังจากนั้นประมาณ 7 นาที ก็จะเห็นว่ามีนางเอ๋ แม่บ้านของอาพาร์ทเม้นท์ ที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้ออกไปยืนรอโบกรถตำรวจและรถกู้ภัยให้เข้ามายังจุดเกิดเหตุ เนื่องจากตำรวจและกู้ภัยหลงทาง

ล่าสุดตำรวจสภ.สาขลา ติดตามจับตัวนายกู่กู่ได้แล้ว

นางเอ๋ เป็นแม่บ้านชาวเมียนมา ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนอนอยู่กับสามีภายในห้อง ที่อยู่ติดกับห้องที่เกิดเหตุ ประมาณตี่ 2 กว่าๆ ได้ยินเสียง นายซอคนตาย กับนายกู่ กู่ คนก่อเหตุทะเลาะกัน จึงชวนสามีเดินออกไปดู ปรากฏว่า ขณะที่เปิดห้องเข้าไป ภาพที่เห็นคือ นายกู่ ภู่ คนก่อเหตุ กำลังขึ้นคร่อมร่างของนายซอโดยที่มือ ถือมีดปักอยู่ที่คอของนายซอ ยอมรับว่าตกใจมาก สามีตนเองก็เลยวิ่งเข้าไปห้าม กระทั่งนายกู่ กู่วางมีดลงกับพื้นแล้ววิ่งหนี

ขณะเดียวกันวันนี้ ทีมข่าวได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าคดีที่ สภ.สาขลาก็ได้พบกับ นายกู่กู่ ผู้ก่อเหตุ ในขณะที่ตำรวจกำลังนำตัวออกมาสอบปากคำ ซึ่งทันทีที่ นายกู่กู่ ก้าวเท้าออกมาจากห้องขัง ก็มีสีหน้าเคร่งเครียด และมีน้ำตาคลอออกมาตลอดเวลา โดยเจ้าตัว ยืนยันกับทีมข่าวช่อง 8 ผ่านล่ามว่าไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ ตอนแทงรู้ตัวว่าแทงไปแค่ครั้งเดียว อยากจะขอโทษครอบครัวผู้ตาย หลังเกิดเหตุตกใจ ก็เลยวิ่งหนีไปตั้งหลักโดยไม่มีจุดหมายว่าจะหนีไปที่ไหน ปมเหตุมาจากการทวงเงิน

ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนจะส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป