ไอ้คลั่งลากมีดไล่ฟันคน ญาติฉะตำรวจทำเกินเหตุกดคอจับ สื่อแฉภาพอาวุธคามือ
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 22 พ.ค. 2566 ตำรวจ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เข้าไปจับชายคลั่งมือมีดตัดหญ้ายาว 80 เซนติเมตร ไล่ฟันชาวบ้านภายในซอยสวรรค์ 78 ต.บางจาก อ.พระประแดง โดยมีตำรวจสายตรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ไหล่ข้างซ้ายหลุด และหัวเข่าด้านขวามีรอยถลอก แต่ตำรวจคู่ตรวจและชาวบ้านเข้ามาช่วยได้ทันจึงไม่ถูกฟัน
โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นชายใส่เสื้อสีเหลือง กางเกง 3 ส่วนลายการ์ตูนสีเขียว ปั่นจักรยาน ในมือขวาถือมีดตัดหญ้ามาตามถนน พยายามไล่ฟันไปทั่วจนคนแถวนั้นแตกตื่น ขณะเดียวกันก็มีชาวบ้านพยายามช่วยกันถือไม้ไล่ตีไล่จับชายคลั่งคนดังกล่าว ทราบชื่อต่อมา คือ นายเอกพจน์ หรือบาส อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชาวบ้านปิดล้อมใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงก็ไม่สำเร็จ นายบาสปั่นจักรยานโดยควงมีดเปิดทางหลบหนีไป แต่สุดท้ายไปติดตามตัวได้ที่บ้านพักในซอยวัดคู่สร้าง
หลังจากนั้น ตำรวจได้ยึดของกลางเป็นอาวุธมีด 1 เล่ม และได้ตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้าในร่างกาย จากนั้นก็จับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายบาส 4 ข้อหา ได้แก่ 1.พาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเห็นควร 2.ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ 3.ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ 4.เสพสารเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้า
ส.ต.ท.เดชภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่บาดเจ็บ เล่าว่า ตนเองกับคู่ตรวจได้รับแจ้งมีเหตุจึงเดินทางไป พอชายคนดังกล่าวเห็นตำรวจก็คลุ้มคลั่ง และพยามจะใช้มีดฟันตนเอง ตนเองหลบได้ทันแต่มาสะดุดก้อนหินล้มไหล่หลุด ผู้ก่อเหตุจะใช้มีดฟันซ้ำแต่คู่ตรวจเข้ามาช่วยไว้ทัน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะปั่นจักรยานหนีไปที่ซอยคู่สร้าง
ด้านนางสาวเอ (นามสมมติ) น้องสะใภ้นายบาส ให้ข้อมูลว่า ตนไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมาก เพราะเพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ไม่นาน แต่เห็นนายบาสก็เป็นคนปกติ ไม่มีอะไร ไม่มีปัญหาอะไร พฤติกรรมก็ปกติ ธรรมดา เวลากลับมาถึงบ้านก็ทักทายปกติ แล้วก็เดินเข้าห้องไป ส่วนเรื่องเสพยาตนไม่รู้
ทีมข่าวได้สอบถามไปว่าได้เห็นตอนที่นายบาสกลับมาบ้านมั้ย วันที่ก่อเหตุ นางเอบอกว่าไม่เห็นเพราะตนอยู่ในห้อง มารู้ก็ตอนตำรวจเข้ามาจับแล้ว นางเอยังได้บอกอีกว่า ตำรวจทำรุนแรงเกินไป เพราะนายบาสไม่มีอาวุธ ยอมให้จับแล้ว แต่ตำรวจ ค่อนข้างรุนแรงกับนายบาส พยายามดันตัวไปติดเสา แล้วพยายามกดลงพื้น แต่ก็เข้าใจว่าเป็นหน้าที่ของตำรวจ