เจ้าหน้าที่ตะลึงเห็นเด็กยืนข้างโดมถล่ม 7 ศพ ตรงกับรูปหน้าโลงน้องปิ๊ก เชื่อตายไม่รู้ตัว
หลังจาก พล.อ.ประยุทธฺ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวผู้ประสบเหตุหลังคาโดมอเนกประสงค์ของโรงเรียนวัดเนินปอ ตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ถล่มลงมา จนมีผู้เสียชีวิต 7 ราย นอกจากนั้นก็ยังมีหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและหาแนวทางฟื้นฟูเยียวยาด้วย
โดยที่บ้านของนางปิ่นแก้ว อายุ 57 ปี ย่าของน้องปิ๊กและภรรยาของนายดังที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า มีคุณครูคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ใหญ่จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ลงพื้นที่มาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงเรียน แล้วมาให้กำลังใจกับย่าน้องที่งานศพ
แต่พอมาถึงงานศพกลับคุยกับคุณย่าบอกว่ารู้สึกช็อกมาก เพราะเห็นเด็กคนที่อยู่ในรูปงานศพ คือน้องปิ๊ก เดินอยู่ที่โรงเรียนอยู่เลย พอมาเจอที่งานศพปรากฏว่าเด็กคนนี้แหละคือเด็กคนที่เสียชีวิต แม้จะมีการพูดคุยและพยายามถามว่า จำผิดคนหรือเปล่า อาจจะเป็นเด็กรุ่นราวคราวเดียวหน้าตาคล้ายๆ กัน คุณครูคนนี้ก็ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน
ย่าของน้องปิ๊กเองก็เชื่อว่า เป็นเรื่องจริง เพราะยังไม่ได้ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ เนื่องจากยังยุ่งอยู่ ทั้งหลานอีกคนยังเจ็บอยู่ และสามีก็เสียไปด้วย การที่คุณครูคนนั้นเห็นแล้วมาบอกแบบนี้อาจจะเป็นสัญญาณว่าจะต้องรีบไปเชิญดวงวิญญาณน้องปิ๊กให้กลับบ้าน เพราะน้องปิ๊กเสียชีวิตในที่เกิดเหตุเลย
ย่าของน้องปิ๊กบอกว่า ตอนนี้สิ่งที่กังวลมาก คืออาการเจ็บป่วยของหลานสาวคนเล็ก อายุ 5 ขวบ คือ น้องโป้ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วยแต่รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ เพราะว่าน้องโป้มีอาการกระดูกบริเวณสะโพกแตก ซึ่งจริงๆ แล้วต้องพักรักษาตัวและรักษาเกี่ยวกับกระดูกอย่างเร่งด่วนที่โรงพยาบาล แต่ย่าของน้องโป้บอกว่า คุณหมอขอให้นอนโรงพยาบาลแล้วจะรักษากระดูกที่แตกเพราะมิฉะนั้นอาจจะทำให้น้องเดินไม่ได้
เนื่องจากว่าสามีก็เสียหลานอีกคนนึงก็เสีย ต้องกลับมาจัดงานศพที่บ้านกก่อนจึงไม่มีคนไปเฝ้าไข้ที่โรงพยาบาล เพราะพ่อของน้องโป้ก็จะต้องบวชให้กับลูกอีกคนและพ่อที่เสียชีวิต หมอจึงอนุญาตให้กลับมาบ้านแต่ต้องห้ามขยับหรือเคลื่อนตัวน้องโป้เด็ดขาด ต้องนอนอยู่ในสภาพนี้ไปก่อน
แต่ล่าสุดวันนี้คุณหมอจากโรงพยาบาลประสานมาว่า ต้องรีบนำตัวน้องโป้ไปรักษามิฉะนั้นอาจจะสายเกินแก้ แต่คุณย่าก็ยังคงติดงานตรงนี้อยู่จึงมีความกังวลใจ
ทีมข่าวช่อง 8 จึงช่วยประสานให้หน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือ จนล่าสุดทางกาชาดจังหวัดพิจิตรได้ประสานไปยังโรงพยาบาลขอให้รักษาน้องโป้เป็นกรณีพิเศษในห้องผู้ป่วยไอซียู โดยที่ไม่ต้องมีคนเฝ้าไข้ พร้อมนำรถพยาบาลมารับที่บ้าน
สำหรับมาตรการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตเบื้องต้น จากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี จะมี 1.ค่าจัดการศพ 50,000 บาท 2.เงินทุนเลี้ยงชีพ ครอบครัวละ 30,000 บาท และครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มีบุตรอายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ ครอบครัวละ 50,000 บาท
ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัสจะได้รับเงิน 30,000 บาทต่อราย แต่ถ้าบาดเจ็บเล็กน้อยจะได้รับเงิน 15,000 บาทต่อราย
นอกจากนี้ ผู้เสียชีวิตอีกหนึ่งราย คือ น้องสตางค์ หรือ ด.ช.สุพศิน อายุ 12 ปี ปกติน้องจะอาศัยอยู่กับยายที่บ้านที่จังหวัดพิจิตร ส่วนพ่อและแม่ทำงานอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ วันเกิดเหตุ แม่ทักข้อความมาหาสตางค์ ถามเรื่องเรียนเนื่องจากน้องเพิ่งจบ ป.6 จากโรงเรียนวัดเนินปอ แล้วเข้าเรียนที่เรียนใหม่ ม.1 ได้เพียงแค่สี่วัน แม่ส่งข้อความถามว่าไปโรงเรียนเป็นยังไงบ้าง น้องตอบกลับมาแค่คำว่า เรียบร้อยครับ
หลังจากนั้นช่วงเย็นก่อนที่น้องจะไปซ้อมฟุตบอล แม่ถามต่ออีกว่า แล้วเรียนไหวไหม โอเคไหม แต่น้องสตางค์กลับไม่ตอบ แม่เลยสงสัยเปิดดูกล้องวงจรปิด เห็นว่าสตางค์เปิดอ่านข้อความแล้ว แต่รีบไปคว้ารองเท้าสตั๊ดแล้วก็ปั่นจักรยานไปซ้อมฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬาที่สตางค์ชอบมาก แต่ก็ไม่นึกว่าลูกจะไม่กลับมาตอบอีกเลยเพราะเสียชีวิต
ขณะที่ พ่อของน้องสตางค์ ยังบอกอีกด้วยว่า น้องเป็นคนชอบฟุตบอลมาก ชอบทีมแมนยูฯ ถ้าหากพ่อกลับบ้านก็จะมานอนดูฟุตบอลกันเป็นประจำทุกครั้งที่มีการแข่งขันของทีมแมนยูฯ