"อดิศร" ลั่นไม่ยกเก้าอี้ "ประธานสภา" ให้ "ก้าวไกล" ท้าฟรีโหวตชิงตำแหน่ง เปรียบไม่ควรเอาสามเณรหรือพระบวชใหม่เป็นเจ้าอาวาส
ยังคงร้อนไม่หยุดสำหรับประเด็นร้อนสำหรับเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรระหว่าง "พรรคเพื่อไทย" และ "พรรคก้าวไกล"จากกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความระบุประธานสภาต้องเป็นตำแหน่งของพรรคก้าวไกล หลังจากนั้นพรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์ 3 วาระที่พรรคก้าวไกลต้องการผลักดันในฐานะ “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” คือ วาระแรก: เพื่อผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้า, วาระที่สอง: เพื่อผลักดันให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยเดินหน้าอย่างราบรื่น,วาระที่สาม: ก้าวไกลจะผลักดันหลักการ “รัฐสภาโปร่งใส” และ “ประชาชนมีส่วนร่วม” ให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย
ล่าสุด (25 พ.ค. 66) นายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประเด็นดังกล่าวว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงข้างมากอย่างเด็ดขาด ตามหลักการทุกพรรคได้ต่ำหว่า 250 ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ก้าวไกลได้ 151 เสียง และเพื่อไทยได้ 141 เสียง ซึ่งผลที่ออกมาเช่นนี้จะให้พรรคอันดับ 1 ได้ทุกอย่างคงเป็นไปไม่ได้ จะต้องมีการเฉลี่ยตำแหน่งตามความเป็นจริง ซึ่งทางเพื่อไทยได้สนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัฐ เป็นนายกรัฐมนตรี
แต่สำหรับตำแหน่งประธานสภานั้นจะต้องดูความเหมาะสมเพราะตำแหน่งดังกล่าวจะต้องไปทำหน้าที่ประธานรัฐสภา ซึ่งเพื่อไทยมีบุคลากรหลายคนที่พร้อม พร้อมระบุว่าประชาชนต้องเข้าใจว่านี่ไม่ใช่การแก่งแย่งชิงดี
ส่วนการที่พรรคก้าวไกลอ้างถึงความเป็นประชาธิปไตย ตนเองจึงขอให้ไปโหวตในสภา ตนเองมองว่าไม่ควรเอาสามเณรหรือพระบวชใหม่เป็นเจ้าอาวาส
ส่วนกรณีที่นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาซึ่งในอดีตเป็นประธานสภาครั้งแรกในอายุเพียงแค่ 38 ปีและพรรคมีเสียงในสภาเพียงแค่ 3 เสียง นายอดิศร มองว่าสิ่งที่ดีที่สุดในสภาคือนำคนที่มีพรรษาในสภาจะดีกว่า เพื่อไทยมีสิทธิ์ทุกอย่างที่ก้าวไกลมี จึงขอเตือนว่าอย่าโลภมาก