"ชูวิทย์" แฉดีลลับที่ไปพูดคุยกับที่สนามกอล์ฟ ให้ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน แนะควรยก "ประธานสภา" ให้ก้าวไกล - "พท."ได้กระทรวงเกรด A ไปเกือบหมด

25 พ.ค. 66 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดเผยถึงกรณีการแย่ง ตำแหน่งประธานสภา ที่ถือเป็นกระดุมเม็ดแรกที่นำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล และการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี กลายเป็นปัญหาที่ยื้อกันระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ที่มีความเป็นต่าง

 

นายชูวิทย์ เปิดเผยว่าตำแหน่งนี้ควรยกให้ก้าวไกล เพราะดูจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆแล้ว พรรคเพื่อไทยได้กระทรวงเกรดA ไปเกือบหมด ส่วนกรณีที่มีความกังวลในเรื่องของการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี หากเกิดความผิดพลาดกรณีนายพิธา ถือหุ่นสื่อนั้น ส่วนตัวก็มองว่า พรรคก้าวไกล มีแคนดิเดต เพียงคนเดียว ก็ต้องเสนอชื่อแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว

 

ส่วนตัวไม่อยากให้เกิดปัญหาในเรื่องนี้ และอยากให้มีการเผิดสภาโดยเร็วที่สุด ไม่อยากให้ตกเป็นเกมการเมือง ที่มีคนยุยงให้แตกกันเอง ส่วนกรณีที่ FCพรรคเพื่อไทย จะรวมตัวกันในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้นั้น เพื่อกดดันในพรรคเพื่อไทยถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลนั้น ผมรู้ว่าเป็นแผนของใคร

 

แม้ว่า คุณหมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะยืนยันให้ก้าวไกล เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล แล้วทำไมไม่ให้ประธานสภาให้ก้าวไกลไป ฝ่ายนิติบัญญัติควรให้คนมีประสบการณ์ซึ่งเพื่อไทยมีประสบการณ์มากกว่าก็จริง แต่ก็เชื่อว่าพรรคก้าวไกลก็น่าจะมีคนเหมาะสมในตำแหน่งนี้เหมือนกัน

 

นอกจากนี้ยังเปิดเผยดีลลับที่ไปพูดคุยกับที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง โดยหากเป็นเช่นนั้นพรรคก้าวไกลก็จะกลายมาเป็นพรรคฝ่ายค้าน ร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นๆ ก็จะรวมกันจัดตั้งรัฐบาล อีกทั้งกรณีการร้องว่านายพิธา ถือหุ้นสื่อ ใครเป็นผู้นำเรื่องนี้ขึ้นมาร้องให้มีการตรวจสอบ และที่สำคัญมีคนอยู่เบื้องหลังอีกเรื่องนี้แน่นอน นี่คือเกมการเมือง

 

โดยประเด็นเรื่องของการแถลงข่าวของพรรคก้าวไกล เมื่อช่วงเช้า ที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงถึงความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายที่จะมีการออกประกาศกระทรวงสาธารรสุขเพื่อนำกัญกลับไปเป็นยาเสพติดนั้น จะไม่กระทบผู้ประกอบการ-ผู้ปลูก ที่ทำถูกกฎหมาย ซึ่งตนมองว่าเรื่องของกัญชา ไม่ควรประนีประนอม เพราะต้องมองถึงประโยชน์ส่วนรวม ระหว่างผู้ประกอบการณ์ กับ สังคมและเยาวชน ไม่ควรเห็นใจผู้ค้า แต่สังคมและเยาวชน ควรเห็นใจมากกว่า

 

จากการตรวจสอบพบมีร้านขายกัญชา อยู่ใกล้สถานศึกษาหลายแห่ง ที่ผู้ปกครองมีความกังวนในเรื่องนี้ โดยผู้ปกครองจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ ย่านบางรัก มีผู้ปกครองที่รวมชื่อกันได้ถึง 3,000 คน นี่แค่โรงเรียนเดียวเท่านั้น ถ้าให้ตรวจสอบหลายๆที่ คงมีมากที่ต่อต้าน

 

จากสถิติข้อมูลผู้คนไทยที่ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ ตั้งแต่อายุ 18 ถึง 65 ปี และมีคนใช้กัญชาเพื่อสันทนาการถึง 11,000,000 คนเพิ่มจากปี 63 ถึง 900 เปอร์เซ็น แต่ใช้เพื่อการแพทย์ เพื่อรักษาโรคหลักแสน นี่หรือกัญชาเพื่อการแพทย์ เฉพาะฉนั้นกัญชาต้องเพื่อการแพทย์เท่านั้น สั่งจ่ายโดยแพทย์ ไม่ใช่เสรีแบบนี้