ญาติร้องพระธุดงค์หายตัวกว่า 1 เดือน เข้าร่างแม่บอกถูกเจ้าอาวาสฝังทั้งเป็น และสะกดวิญญาณ แถมเจ้าอาวาสยังถอดจิตมาเข้าร่างแม่ท้าทายอีก ขณะที่เจ้าอาวาสตัวจริงโต้ข้อกล่าวหา
จากการที่พ่อกับแม่ชาวจังหวัดนครพนม ร้องสื่อหลังพระศราวุธ หรือพระยอด ซึ่งเป็นลูกชายมาบวชที่วัดถ้ำผาดำสันติธรรม จ.เลย แล้วออกธุดงค์เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 66 กระทั่งหายตัวไป โดยญาติเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว
ทีมข่าวเดินทางไปพบกับนายดวงตา และนางดอกไม้ พ่อและแม่ของพระยอด โดยนางดอกไม้มีอาการแปลกเหมือนพระยอดมาเข้าสิง บอกว่า ตัวเองคือพระยอด ขณะนี้ตายแล้วโดยฝีมือของเจ้าอาวาสรูปหนึ่ง เนื่องจากมีปัญหากันเรื่องเงิน อยากให้ญาติๆ ไปตามหาศพหน่อย พร้อมระบุว่า ถูกมัดมือมัดเท้ามัดตา แล้วเอาลงหลุมฝังทั้งเป็น แถมยังกักวิญญาณอีก
ต่อมา แม่ยังมีอาารเหมือนเจ้าอาวาสที่ถูกอ้างว่าฆ่าพระยอด ถอดจิตมาเข้าร่างแม่อีก โดยอ้างว่าตนเป็นคนทำร้ายพระยอดจนเสียชีวิตและอำพรางศพไว้ พร้อมท้าทายว่าไม่มีใครหาเจอหรอก เพราะตนมีวิชาอาคมแก่กล้า รวมถึงท้าหมอปลาว่ามาลองวิชากันได้
สำหรับพระยอด ออกธุดงค์ไปตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. 66 โดยขอยืมเงินแม่ไป 3,000 บาท และจนถึงวันที่ 25 พ.ค. 66 หรือเป็นเวลา 1 เดือน ที่ขาดการติดต่อ
นายดวงตา พ่อของพระยอด เชื่อว่า ลูกชายน่าจะไปขัดแย้งเรื่องเงินในวัด แล้วเจ้าอาวาสโกรธจึงพลั้งมือฆ่าแล้วใช้มนต์ดำอำพรางศพ ทำให้หาไม่เจอ อยากวิงวอนให้ตำรวจมาช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย
ด้านนายพินิจ ผู้ใหญ่บ้านกลาง หมู่ 6 บอกว่า รู้จักกับพระยอดมาตั้งแต่เด็ก กระทั่งมารู้ข่าวว่าอุปสมบท ซึ่งพระยอดไม่ได้มีครอบครัวและเดินทางธรรมมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่เคยเห็นว่าขัดแย้งกับใคร เป็นคนเรียบง่าย ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และเข้าธุดงค์กรรมฐานตามป่าต่างๆ จนมารู้ว่าหายไป แสดงว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่นอน ซึ่งส่วนหนึ่งมีเรื่องลี้ลับเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ไม่ลบหลู่และให้คำตอบไม่ได้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาติดตามค้นหา เรื่องจะได้กระจ่าง
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้ไปพูดคุยกับพระอาจารย์จันดี เจ้าอาวาสวัดถ้ำผาดำ บอกว่า ญาติของพระยอดเคยมาตามหาพระยอดที่วัด 2 ครั้ง แล้วก็ขู่ว่าจะแจ้งความดำเนินคดี โดยพระอาจารย์จันดี บอกว่า ไม่เคยเรียกรับปัจจัยอะไร ส่วนที่ร่างทรงไปอ้างว่าคนในวัดไปทำร้ายพระยอดจนตาย แล้วนำศพไปซ่อน อันนี้ถือว่ากล่าวหากันเกินไป เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย
โดยพระยอดบวชแล้วสึกมาแล้ว 4 ครั้ง เป็นคนขยันขันแข็ง แต่มักจะเอาแต่ใจตัวเอง คิดเล็กคิดน้อยและบ่นถึงแม่ตลอด จนกระทั่งเช้าวันที่ 24 เมษายน ประมาณตี 5 ขณะที่กำลังเตรียมตัวออกไปบิณฑบาต พระยอดก็มากราบลาขออกธุดงค์ ยืนยันว่าพระยอดออกไปคนเดียว ไม่ได้ทะเลาะกับใคร แล้วก็ไม่คิดว่าพระยอดจะต้องถูกฆ่า เพราะพระยอดบอกว่า “จะเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ธุดงค์ไปตามจิต”
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้พบกับนางลอยมรินทร์ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นคนที่เจอพระยอดคนสุดท้าย เล่าให้เราฟังว่า เวลาประมาณ 4 โมง ของวันที่ 5 พ.ค. 66 ตอนนั้นตนเองนั่งขายของอยู่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าร้าน เห็นพระยอดถือบาตร สะพายย่ามและเอาผ้าคลุมหัว เดินมาหน้าร้านขอนั่งพักเหนื่อย เนื่องจากอากาศค่อนข้างร้อน ตนเองจึงได้ถามพระยอดว่ามาจากไหน ซึ่งพระยอดบอกว่า มาจากวัดถ้ำผาดำสันติธรรม จะเดินธุดงค์ไปจังหวัดนครพนม เพื่อไปทำใบสุทธิพระ
ตนเองจึงได้ถวายน้ำดื่ม 1 ขวด ก่อนจะสอบถามอีกว่า จะไปยังไงจังหวัดนครพนม ซึ่งพระก็ตอบว่าจะเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ แต่ตนเองก็ได้แย้งกลับไปว่า ถ้าจะไปจังหวัดนครพนม ทำไมไม่ให้ญาติโยมไปส่ง หรือไม่เดินไปอีกฝั่ง เพราะถ้าเดินมาฝั่งนี้อีก 2 กิโลเมตรก็จะถึงตัวเมืองเลย แต่พระยอดก็ไม่ได้ตอบอะไร ก่อนที่สักพักตนเองเดินเข้าบ้าน พระยอดก็ออกจากร้านไปแล้ว โดยไม่ทราบว่าไปทางไหน หรือจะเดินธุดงค์ไปขึ้นรถที่ บขส. ตนเองก็ไม่รู้
นางลอยมรินทร์ ยืนยันว่า เจอพระยอดครั้งสุดท้ายคือวันที่ 5 พ.ค. ที่จำได้ เพราะอีกไม่กี่วันจะเลือกตั้ง เช้าวันถัดมาก็มีผู้หญิงกับผู้ชายขี่รถจักรยานยนต์มาหาตนเองที่บ้าน มาถามว่าเห็นพระยอดไหม เนื่องจากพระยอดไม่มีเงินติดตัว ตนเองจึงได้บอกว่าเห็น เพราะพระยอดมาแวะพักเหนื่อยที่หน้าร้านของตนเอง