กวักมือเรียกยาย 70 มายิงทิ้ง หนุ่มหลอนยาฆ่าแล้วเผา อ้างทำอะไรจำไม่ได้
เกิดเหตุยิงกันเสียชีวิตที่บ้านพิลา หมู่ที่ 3 ต.ขี้เหล็ก อ.ปทุมรัตน์ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 30 พ.ค. 2566 ที่ถนนกลางหมู่บ้านยังพบเพลิงกำลังลุกไหม้รถยนต์ปิกอัพอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำเข้าสกัดเพลิงโดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นางเข็มจักร อายุ 70 ปี มีแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าตามร่างกายหลายจุด ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายบุญหนัก อายุ 48 ปี ชาวบ้านบ้านเดียวกัน โดยหลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปที่บ้าน
ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยเวลาประมาณ 07.57 น. กล้องจับภาพนางเข็มจักร ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านบ้านคนก่อเหตุ (อยู่ตรงข้ามกล้อง) แล้วยายเข็มจักรก็โดนยิง มีเสียงปืน 1 นัด และได้ยินเสียงคนก่อเหตุทุบตียาย
หลังจากนั้น ลูกของยายเข็มจักรได้ขับรถกระบะสีขาวเข้ามา แล้วคนก่อเหตุก็ยิงรถกระบะ 1 นัด จากนั้นก็ได้ยินเสียงผู้ก่อเหตุโวยวายอยู่ในกล้องวงจรปิด
หลังคนก่อเหตุฆ่ายายและยิงลูกยายที่มาช่วยเหลือแล้ว ก็ได้ยินเสียงคนก่อเหตุพูดว่า “ บอกว่าอย่าเอายาเมาให้กูกิน กูจะเป็นบ้า”
แล้วผู้ก่อเหตุก็ผารถกระบะ และเดินมาสูบบุหรี่ พูดพร่ำเพ้อ จากนั้นก็มีเสียงรถกระบะที่ถูกเผาระเบิดดังตูมๆๆ
หลังก่อเหตุ เมื่อตำรวจมาถึง ผู้ก่อเหตุก็เดินมาที่ถนนแล้วถอดกางเกง นอนราบกับพื้น พร้อมเรียกตำรวจ "มาจับตัวเลย" เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าปิดล้อมจนควบคุมตัวเอาไว้ได้ พร้อมด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์และลูกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 20 จำนวน 6 ลูก
ทีมข่าวไปพบกับนางสาวแวว นามสมมติญาติของนายบุญหนัก ยอมรับว่า ที่ผ่านมา นายบุญหนักมีพฤติกรรมติดยาเสพติดอย่างหนัก คาดว่าเกิดการคลุ้มคลั่งจึงตัดสินใจก่อนเหตุ ก่อนหน้านี้นายบุญหนักอาศัยอยู่กับพี่สาว แต่ต่อมาพี่สาวทนพฤติกรรมไม่ไหว จึงต้องย้ายออกมา ทำให้นายบุญหนักต้องอาศัยอยู่เพียงลำพัง
สำหรับที่ผ่านมาเมื่อประมาณ 10 ปี นายบุญหนัก เคยก่อเหตุยิงวัยรุ่นต่างหมู่บ้าตายมาแล้ว หลังจากนี้คงจะต้องปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย เพราะกังวลว่าหากได้รับการปล่อยตัวจะมายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก
ขณะที่ นายอนุคิด อายุ 44 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวว่า เมื่อเช้า เวลาประมาณ 08.30 น. มีชาวบ้าน โทรศัพท์แจ้งว่าแม่ของตัวเองถูกยิงเสียชีวิต ตัวเองซึ่งอยู่อีกหมู่บ้าน จึงรีบขับรถกระบะคันสีขาว มายังที่เกิดเหตุ ชาวบ้านก็ตะโกนว่า “อย่าไปๆๆ มันมีอาวุธ” แต่ด้วยความห่วงแม่ ตัวเองก็ต้องไป พอไปถึงก็พบว่าแม่นอนตะแคงที่พื้น ที่ท้ายทเอยและกรามของแม่ถูกคนร้ายใช้เหล็กตีจนใบหน้าผิดรูป และใบหน้าแม่ก็ซีด และชีพจนไม่เต้นแล้ว
จากนั้นตัวเองก็มองไปหาผู้ก่อเหตุว่า “ยิงแม่ผมทำไม” เขาก็ถือปืนเข้ามาหาตัวเอง แล้วพูดว่า “มึงๆๆๆ ใช่ไหม” แล้วเขาก็ยิงตัวเอง 1 นัดแต่ไม่โดน จากนั้นตัวเองจึงกระโดดข้ามรั้วหนีตายออกมา ก็เห็นคนก่อเหตุ ราดน้ำมันเผารถตัวเอง จนไหม้ไปทั้งคัน
ตัวเองขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาแม่และครอบครัวตัวเองไม่เคยมีเรื่องกับคนตายมาก่อน ก่อนหน้านี้ ผู้ก่อเหตุก็เคยยิงคนตายมาแล้ว โดยที่ไม่มีเรื่องอะไรกัน พอออกจากคุกมาเขาก็ทำตัวอันธพาล ทำตัวเป็นใหญ่ จึงอยากให้คนร้ายรายนี้ถูกดำเนินคดีถึงที่สุด ถ้าปล่อยเขาออกจากคุกมา เขาก็จะมาก่อเหตุกับชาวบ้านอีก
ทีมข่าวพบกับภู อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตัวเองกำลังอยู่หลังบ้านจากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แล้วได้ยิน เสียงคนตะโกนโวยวาย จึงวิ่งออกมาดู โดยภาพที่เห็นต่อหน้าคือนางเข็มจักร ถูกยิงล้มอยู่กลางถนน แต่ตัวเองไม่กล้าวิ่งเข้าไปเพราะเห็นตัวนายบุญหนักยืนถือปืนอยู่ ตอนนั้นตกใจมาก
จากนั้นไม่นานลูกชายของนางเข็มจักร ก็รีบขับรถมาหลังได้รับแจ้งว่าแม่ถูกยิง แต่เมื่อมาถึงกลับถูกนายบุญหนักยิงปืนขู่ทำให้ลูกชายต้องวิ่งหนี กระโดดข้ามรั้ว นายบุญหนัก จึงตัดสินใจหยิบน้ำมันแล้วราดที่รถของลูกชายนางเข็มจักร แล้วจุดไฟเผา
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อห 3 ข้อหา คือฆ่าผู้อื่น ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น