"ชลน่าน" ย้ำคณะทำงานชุดเปลี่ยนผ่าน 8 พรรคร่วม ไม่ก้าวล่วงการทำงานรัฐบาลรักษาการปัจจุบัน ชี้ เป็นการเสนอความเห็นตามวิถีการเมือง ยินดีหากนำไปเป็นเครื่องมือบริหารงานก่อนมีรัฐบาลใหม่

31 พ.ค. 66 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้า​พรรค​ก้าวไกล กล่าวว่า การจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลในฝั่งเสรีประชาธิปไตย บรรยากาศเป็นไปด้วยดี สามารถสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนให้เห็นว่า 8 พรรคร่วมมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันตามที่ได้รับมอบหมายจากประชาชน

 

ซึ่งจากการได้กำหนดการทำงานสิ่งที่ชัดเจนคือจะใช้วาระงานเป็นตัวกำหนดทิศทางการทำงานร่วมกันตามเอ็มโอยู 23 ข้อ ซึ่งใน 23 ข้อได้ปรับเปลี่ยนเป็นกรอบวาระการทำงานโดยมีคณะกรรมการผู้รับผิดชอบประสานงาน โดยมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นประธานคณะทำงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน และมีตัวแทน 8 พรรคเป็นคณะกรรมการด้วย

 

ขณะเดียวกันได้มีการตั้งคณะทำงานอีก 7 คณะแบ่งแยกตามภารกิจ โดยคณะกรรมการประสานงานเปลี่ยนผ่านจะเป็นผู้รวบรวมรับความเห็นจากคณะทำงานที่แบ่งภารกิจ ซึ่งจะมีการประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ ที่พรรคเพื่อไทย สำหรับคณะทำงาน 7 คณะนี้ในที่ประชุมเห็นชอบร่วมกัน เนื่องจากเป็นภารกิจที่จำเป็น เร่งด่วนและสำคัญ เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์และเป็นนโยบายรัฐบาลต่อไป โดยขั้นตอนสุดท้ายต้องผ่านการประชุมร่วมทั้ง 8 พรรคอีกครั้ง หลังจากนี้หากได้ตัวร่างนโยบายของรัฐบาลแล้วพร้อมกับตัวภารกิจหลักที่เป็นชุดข้อเสนอในมุมวิสัยทัศน์ของรัฐบาลใหม่ควบคู่ไปกับวาระทางสังคมที่จะต้องนำมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งที่ประชุมจะเห็นชอบตรงไหนก็อาจจะเสนอไปให้รัฐบาลรักษาการปัจจุบันที่อาจจะใช้เป็นเครื่องมือบริหารงานในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้

 

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะทำงานที่จะแบ่งแยกตามภารกิจจะให้แต่ละพรรคเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเข้ามา ในส่วนของพรรคเพื่อไทยก็จะมีการพูดคุยหารือกันภายในพรรค โดยนำผลจากการประชุมหารือมาพูดคุยถึงการกำหนดตัวบุคคลที่เหมาะสม โดยไม่ต้องประชุมรวมทั้ง 8 พรรคแต่อาจเป็นการประชุมผ่านสื่อออนไลน์ โดยเสนอชื่อไปให้พรรคก้าวไกล

 

ส่วนจะต้องรอให้รัฐบาลรักษาการส่งผ่านในเรื่องการจัดการทำงานหรือไม่นั้น นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นไปตามตัวบทกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ 8 พรรคร่วมเข้าใจว่ายังไม่ได้มีบทบาท หน้าที่ และอำนาจในรัฐบาล ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนจัดตั้งรัฐบาล หากจะมีอำนาจและหน้าที่ต้องตั้งรัฐบาลให้ได้ก่อน ตั้งประธานสภา เลือกนายกฯ และจัดตั้ง ครม.ได้ จนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จึงจะทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ พร้อมเน้นย้ำว่า ใน 8 พรรคร่วมจะไม่มีการไปก้าวล่วงเรื่องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านคณะทำงานก็จะทำงานอยู่ในกรอบความคิดเห็นวิถีทางการเมือง