"นายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์กลางโคราช" หนุนนโยบายกระจายอำนาจและงบประมาณสู่ท้องถิ่นของ "พรรคก้าวไกล" ระบุทำให้ท้องถิ่นเข้มแข็ง รัฐบาลก็ได้ดีด้วย

1 มิ.ย. 66 นายกิติพงศ์ พงศ์สุรเวท นายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อนโยบายการกระจายอำนาจและงบประมาณสู่ท้องถิ่นของพรรคก้าวไกล แกนนำจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ว่า ประการแรกเลยตนเองต้องขอขอบคุณพรรคก้าวไกล แกนนำจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ซึ่งให้ความสำคัญเรื่องของการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นมาโดยตลอด และตนเองได้ติดตามความพยายามผลักดันเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ ที่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศก็ให้ความสนใจมาก เพราะเราก็ต้องการให้มีการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นมานานแล้ว แต่ติดในเรื่องของกฎระเบียบต่างๆ ของกระทรวงมหาดไทย ที่ไม่สามารถทำได้ วันนี้จะเห็นว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ได้รับการจัดสรรงบประมาณให้น้อยมาก ไม่เพียงพอต่อการบริหารจัดการพัฒนาพื้นที่เท่าที่ควร จึงอยากให้ไปตัดงบประมาณอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นออก แล้วนำมาเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อที่จะให้ท้องถิ่นมีงบประมาณพัฒนาพื้นที่ ดูแลประชาชนให้อยู่ดีกินดี เมื่อท้องถิ่นแข็งแรง ดูแลประชาชนให้มีความสุข รัฐบาลก็พลอยได้ดีไปด้วย

ส่วนเรื่องการปฏิบัติงานนั้น ไม่มีปัญหาแน่นอน ถ้าตัดขั้นตอนต่างๆ ออก ยิ่งจะทำให้ท้องถิ่นดีขึ้น เช่นในอดีตมีการอนุมัติงบประมาณจากกระทรวงมหาดไทย ต้องผ่านกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น ส่งต่อมาถึงจังหวัด จังหวัดส่งมาที่อำเภอ กว่าจะมาถึงท้องถิ่นมีขั้นตอนที่ล่าช้ามาก และไม่รู้ว่าได้มาเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่ ดังนั้นถ้ามอบอำนาจให้ท้องถิ่นบริหารจัดการโดยตรง ก็จะทำให้ท้องถิ่นมีอำนาจบริหารได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นายกิติพงศ์ฯ กล่าวอีกว่า ตนเองอยากจะฝากถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย 5 ข้อว่า 1.ขอให้ประสบความสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศให้กำลังใจช่วยเสมอ 2.เมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว ก็อยากให้มาดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างเต็มที่ตามที่ได้หาเสียงไว้ 3.ขอให้เพิ่มงบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีประสิทธิ์ภาพในการทำงานพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 4.ขอให้แก้ไขกฎหมาย ระเบียบต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เพื่อให้การทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ และ 5.ขอให้ยกฐานะ อบต. เป็นเทศบาล และเทศบาลตำบล ให้เป็นเทศบาลเมือง แต่ให้คงฐานะกำนัน ผู้ใหญ่บ้านไว้เหมือนเดิม เพราะกำนันผู้ใหญ่บ้านจะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยพัฒนาชุมชน หมู่บ้าน เสริมประสิทธิภาพให้กับท้องถิ่นได้อีกแรงด้วย