ล็อก 8 หนุ่มเค้นหาฆาตกร ฆ่ารัดคอยายชิงไอโฟน 2 พี่น้องโวยถูกเทียบรอยเท้า
จากกรณี เมื่อเวลา 06.00 น. ช่วงเช้าวันนี้ (1 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุฆ่าชิงทรัพย์ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ริมถนนสายบ้านทุ่งยวน-หนองดี หมู่ 3 ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวริมถนน และเปิดเป็นร้านขายของชำเล็กๆ ภายในห้องครัวหลังบ้านพบศพผู้ตายชื่อ นางวันดี อายุ 74 ปี เจ้าของบ้านนอนหงายบริเวณพื้นในครัวในชุดสวมเสื้อคอกระเช้าแขนยาวสีม่วง นุ่งผ้าถุงลายดอกมีน้ำตาล
สภาพศพมีบาดแผลฟกช้ำทั่วร่าง โดยเฉพาะที่บริเวณใบหน้า เบ้าตาทั้งสองข้างมีรอยฟกช้ำ และที่ลำคอมีรอยรัดด้วยเสื้อชั้นในของผู้ตาย เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 ชั่วโมง ช่วงที่ตำรวจไปถึง มีนางสาวสุจาณี อายุ 43 ปี ลูกสาวซึ่งเป็นใบ้ร่ำไห้ส่งเสียงภาษาใบ้ด้วยความเสียใจตลอดเวลา
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในห้องครัวหลังบ้านเจ้าหน้าที่พบร่องรอยการต่อสู้ข้าวของกระจัดกระจาย และพบว่าที่ประตูห้องครัวหลังบ้านมีร่องรอยถูกคนร้ายงัดกลอนจนประตูพังเสียหายเปิดอ้าอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบหาร่องรอยนิ้วมือของคนร้ายไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนสื่อสารภาษาใบ้สอบถามลูกสาวผู้ตายทราบว่ามีทรัพย์ของผู้ตายหายไปเป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 7 จำนวน 1 เครื่อง และโทรศัพท์ชนิดธรรมดาไม่ทราบยี่ห้อจำนวน 1 เครื่อง ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นางวันดีผู้ตายมีอาชีพทำสวนและเปิดร้านขายของชำเล็กๆที่บ้าน พักอาศัยอยู่กับลูกสาวที่เป็นใบ้เพียงลำพัง 2 คนเท่านั้น
ก่อนเกิดเหตุขณะที่นางวันดีและลูกสาวใบ้กำลังนอนหลับอยู่ในห้องนอน นางวันดีได้ยินเสียงงัดประตูครัวหลังบ้าน จึงลุกขึ้นออกมาดูเป็นจังหวะที่คนร้ายจำนวน 2 คน เข้ามาในบ้านพอดี นางวันดีจึงร้องเอะอะโวยวายขึ้น ทำให้คนร้ายทั้งสองคนตกใจพยายามจะจับนางวันดีไม่ให้ขัดขืนต่อสู้ แต่นางวันดีกลับดิ้นต่อสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับคนร้ายชุลมุนข้าวของกระจัดกระจาย ก่อนที่จะถูกคนร้ายทั้งสองรุมชกนางวันดีทั้งลำตัวและใบหน้าเบ้าตาจนฟกช้ำทำให้นางวันดีล้มลง และคนร้ายยังไม่หยุดแค่นั้น โดยได้ดึงเสื้อชั้นในของผู้ตายออกมารัดคอผู้ตายอย่างแรงทำให้นางวันดีขาดอากาศหายใจเสียชีวิตทันที
ซึ่งขณะเกิดเหตุนางสาวสุจาณีลูกสาวใบ้ของผู้ตายที่กำลังนอนหลับในห้องนอนได้ยินเสียงต่อสู้กันจึงรีบเปิดประตูออกมาดูพบคนร้าย 2 คน กำลังรุมทำร้ายชกต่อยแม่ของตนเองจนฟุบ จึงร้องเอะอะโวยวายภาษาใบ้ดังลั่นบ้าน ทำให้คนร้ายตกใจรีบคว้าโทรศัพท์ไอโฟนและโทรศัพท์ธรรมดาจำนวน 2 เครื่องของผู้ตายหลบหนีไปอย่างรวดเร็วทันที ขณะนี้ยังไม่ทราบยานพาหนะของคนร้ายว่าเป็นยานพาหนะชนิดใด และใช้เส้นทางใดหลบหนี
หลังจากคนร้ายหนีไปแล้ว นางสาวสุจาณี ลูกสาวใบ้ของผู้ตายได้ส่งเสียงร้องเอะอะเป็นภาษาใบ้ตลอดเวลาจนลั่นบ้าน ทำให้ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงได้ยินเสียงลูกสาวใบ้ร้องลั่นจึงพากันออกมาดูจนว่า นางวันดี ผู้เป็นแม่ถูกคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์ดังกล่าว
หลังจากเกิดเหตุตำรวจได้ตรวจสอบ GPS ของโทรศัพท์ไอโฟนของผู้ตายที่คนร้ายชิงไป พบว่า คนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ต่างอำเภอแห่งหนึ่งไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก และเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายทั้งสองน่าจะเป็นแก๊งค้าเสพยาเสพติดในพื้นที่ที่รู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตายเป็นอย่างดี โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบและติดตามคนร้ายทั้งสองคน
ส่วนศพนางวันดีได้นำไปทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลนาบอน ก่อนมอบศพให้กับญาตินำศพไปจัดการตามประเพณีต่อไป
ความคืบหน้าล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 เดินทางไปที่บ้านพักหลังเกิดเหตุ พบว่าเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เดินทางมาเก็บร่องรอยต่างๆของคนร้าย ทั้งรอยงัดกลอนประตูบริเวณหลังบ้าน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบรอยเท้าปริศนาซึ่งคาดว่าเป็นของคนร้ายลักษณะใช้เท้าเปล่า วิ่งหลบหนีไปทางหลังบ้าน ซึ่งเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับบ้านคน โดยคนร้ายไม่ได้วิ่งบนทางหินแกรนิตที่อยู่รอบบ่อน้ำ คาดว่า วิ่งเท้าเปล่าบนหินจะเจ็บเท้า จึงพบรอยเท้าบริเวณพื้นดินริมบ่อน้ำวิ่งอ้อมเข้าบริเวณหลังบ้านของชาวบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร
ซึ่งขณะนั้น มีฝนตก ทำให้เจ้าหน้าที่พบรอยเท้าของคนร้ายชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำปูนมาหลอมเพื่อเก็บตัวอย่างรอยเท้าปริศนาดังกล่าวนี้ไปตรวจสอบแล้ว
ด้านนางสาวพรทิพย์ อายุ 54 ปี (ญาติผู้ตายที่อยู่บ้านใกล้เคียง) ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตอนเช้ามืดเวลาประมาณตี 3-4 เพื่อนบ้านใกล้กันได้ยินเสียงลูกสาวใบ้ของผู้ตายร้องเอะอะโวยภาษาใบ้ลั่นออกมาจากในบ้านที่เกิดเหตุ ด้วยความสงสัยว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น จึงชักชวนเพื่อนบ้านพากันไปดูก็พบว่า นางวันดีถูกคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นบ้าน โดยมีลูกสาวใบ้นั่งร้องไห้อยู่
ซึ่งตอนที่ไปเจอครั้งแรง ยายวันดีถูกฆ่ารัดคอนอนคว่ำเสียชีวิตอยู่ ส่วนประตูห้องน้ำเปิดอ้าไว้ ประตูด้านหลังบ้านมีรอยงัดและแง้มประตูไว้ ต่อมาชาวบ้านจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุ
เธอบอกต่อว่า ปกติ 2 แม่ลูกนั้นจะอยู่บ้านด้วยกันตามลำพัง ส่วนลูกคนอื่นๆ ไปทำงานต่างจังหวัด ซึ่งตนเองเชื่อว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ที่รู้ความเคลื่อนไหว และอาจจะเป็นวัยรุ่นในหมู่บ้านหรือไม่ เพราะแถวหมู่บ้านมีวัยรุ่นเสพยาเสพติดจำนวนมาก
ขณะเดียวกันเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ พลตำรวตรีสมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และชุดสืบสวน จังหวัด และ สภ.นาบอน ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยในพื้นที่มากว่า 8 คน นำตัวมาเค้นสอบปากคำและเก็บ DNA และวัดขนาดรอยเท้า ว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการตายของนางวันดีหรือไม่
ได้แก่
1.นายเอก
2.นายเอ็ม
ซึ่งทั้งสองผู้ต้องสงสัยนี้เป็นพี่น้องกัน โดยบ้านของทั้งสองคน เจ้าหน้าที่ไปพบว่า รอยเท้าปริศนาของคนร้ายนั้นจากบ้านที่เกิดเหตุ ไปสิ้นสุดอยู่ใกล้บ้านของทั้งสอง ตำรวจจึงเรียกมาสอบสวน โดยเมื่อช่วงเช้าที่ตำรวจไปถึง มีข้อมูลว่า พบเพียงนายเอ็ม นอนอยู่ภายในบ้าน ส่วนนายเอก ไม่อยู่บ้าน ตำรวจจึงนำตัวรายเอ็มมาสอบปากคำช่วงเช้า ก่อนที่ช่วงบ่ายถึงตามตัวนายเอก พร้อมนำรถจักรยานยนต์ของนายเอกมาตรวจสอบด้วย
3.นายเอ็น เป็นชาวบ้านอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งที่ผ่านมาประวัติเคยเสพยาเสพติด และเมื่อค้นตัวพบลูกกระสุนปืน 1 ลูกอยู่ในกระเป๋ากางเกงจึงเรียกมาสอบสวน
4.นายป็อป เป็นหลานชายของนายเอ็น
5.นายเดี่ยว
6.นายหัวแดง ซึ่งนายหัวแดงนั้น ตำรวจไปเช็กสัญญาณโทรศัพท์ไอโฟนเครื่องที่คนร้ายนำของยายไป พบว่า สัญญาณไปอยู่บริเวณบ้านควนลำภู ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 15 กิโลเมตร โดยช่วงเวลาที่ตำรวจพบโทรศัพท์ของยายเปิดเครื่อง เป็นช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับที่เห็นรถมอเตอร์ไซค์นายหัวแดง ขี่รถผ่าน จึงเรียกตัวมาเค้นสอบ
ส่วนอีก 2 คนยังไม่ทราบชื่อ และข้อมูล
โดยผู้ต้องสงสัยทั้งหมดนั้น ตำรวจได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ กระพุ้งแก้ม และวัดขนาดรอยเท้าของทุกคนนำไปเตรียมเทียบเคียงกับรอยเท้าปริศนาที่พบบริเวณหลังบ้านที่เกิดเหตุด้วย
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายหัวแดง 1 ในผู้ต้องสงสัย เจ้าตัวยอมรับกับทีมข่าวว่า ช่วงเวลา 7 โมงเช้า ตนเองได้ชี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน ผ่านเส้นทางบ้านควนลำภู จุดที่ตำรวจไปพบสัญญาณโทรศัพท์จริง แต่ตอนนั้นที่ไปคือไปหาลูกจ้างที่ทำงานกรีดยาง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปไหน กระทั่งตำรวจไปยกรถมอเตอร์ไซค์ตนเองที่บ้านมาตรวจตอนเช้า
ส่วนเมื่อคืนนี้ตนเองนอนอยู่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหนเช่นกัน ซึ่งตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ตนเองไม่มีโทรศัพท์มือถือด้วยซ้ำ เวลาไปไหนมาไหน ตำรวจก็ตรวจไปแล้ว
ทีมข่าวถามต่อ นายหัวแดงรู้จักกับยายวันดีหรือไม่ เจ้าตัวยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 3-4 ปีก่อน ได้เดินทางไปนั่งเล่นพูดคุยบ้านนางวันดีเป็นประจำ เนื่องจาก รู้จักและสนิทกับสามีนางวันดี แต่หลังจากสามีนางวันดีตายตนเองก็ไม่ได้ไปที่บ้านนางวันดีอีกเลย ส่วนนิสัยนางวันดี เป็นคนแก่ที่ใจดี ชอบแบ่งปันข้าวปลาอาหารให้ตนเองกินอยู่ตลอดทุกครั้งที่ไป ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีคนมาทำร้ายจนยายแกตาย ซึ่งโหดเหี้ยมมากๆ
ต่อมานายเอกได้เผยข้อมูลว่าตนเองไม่ใช่ฆาตกร โดยยืนยันว่าเมื่อคืนนี้นอนอยู่ภายในบ้าน จนกระทั่ง 6 โมงเช้า มาทราบข่าวเรื่องที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าไม่มีทางทำร้ายยายวันดี เนื่องจากยายวันดีเป็นป้าของตน ส่วนเรื่องรอยเท้าที่เจอจากบ้านผู้ตายมาที่บ้านของตน จริงๆรอยเท้าตนเล็กกว่ารอยเท้าที่ตำรวจไปเจอ แต่ตนได้เดินไปดูศพคุณยายที่บริเวณหลังบ้าน แต่ตนได้เดินไปพร้อมกับชาวบ้านและเจ้าหน้าที่หลังเกิดเรื่อง และล่าสุดตำรวจได้นำกำลังไปบุกค้นบ้าน นายเอก พบถุงกระสุน
และตำรวจพบหลักฐานสำคัญ คือ สัญญาณโทรศัพท์ของผู้ตายปิดเครื่อง เวลา 3.47 น. // จากนั้นก็มีความเคลื่อนไหวของนายเอก ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน ผ่านกล้องวงจรปิดชาวบ้านห่างจากบ้านผู้ตาย 1 กิโลเมตร แล้วไปเสพยาที่บ้านเพื่อนช่วงตี 4.31 น. แล้วขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ช่วง 4.37 น.
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมามีชาวบ้านรายหนึ่งที่เข้าไปช่วยทำครัวงานศพได้เดินเข้าไปในห้องน้ำที่เกิดเหตุ และได้ไปพบกับโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าหนึ่งเครื่อง เคสสีชมพู เครื่องสีดำ ตกอยู่ภายในอ่างน้ำภายในห้องน้ำบ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้กับจุดที่ยายวันดีนอนเสียชีวิต
ทีมข่าวสอบถามชาวบ้านรายนี้บอกว่า ระหว่างที่ตัวเองกำลังเข้าห้องน้ำเพื่อล้างมือล้างเท้าเตรียมจัดช่วยทำกับข้าวงานศพ ระหว่างนั้นได้เหลือบไปเห็นโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งตกอยู่ภายในอ่างน้ำ จึงหยิบขึ้นมาดูและพบว่า เป็นของคุณยายวันดี
ยืนยันว่า โทรศัพท์เครื่องดังกล่าว คาดว่าคนร้ายอาจจะต้องการขโมยไปด้วยหรือไม่ ก่อนทำพลัดตกน้ำ หรือไม่ก็อาจเกิดจากคนร้ายพยายามที่จะจับคุณยายกดน้ำ และกอดรัดฟัดเหวี่ยงจนทำให้มือถือของยายที่คนร้ายขโมยไปพลัดตกน้ำก็เป็นไปได้
เนื่องจากสภาพศพช่วงแรกที่ไปพบคุณยายเนื้อตัวเปียกไปด้วยน้ำ หลังเกิดเรื่องชาวบ้านได้แจ้งเจ้าหน้าที่เก็บโทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าวไปตรวจสอบทันที
ล่าสุดเมื่อช่วง 2 ทุ่มที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนได้เชิญตัวพ่อแม่ของนายสุริยา หรือ เอก ผู้ต้องสงสัย มาสอบปากคำเพิ่มเติมในห้องสืบสวน ซึ่ง โดยทั้งสองคน ไม่ได้มีทีท่าเครียดอะไร
เราพยายามสอบถาม นายสุวรรณ อายุ 72 ปี พ่อของนายสุริยา ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า คืนที่ผ่านมาลูกชาย ได้กลับบ้านมาเวลาเที่ยงคืน จากนั้นก็อยู่บ้านตลอด โดยลูกชายนอนอยู่บ้านอีกหลังข้างๆ ตนเองไม่ได้ยินเสียงสตาร์ทรถของลูกชายออกจากบ้านเลยด้วยซ้ำ
กระทั่งเวลา ประมาณ 6 โมงเช้ามีชาวบ้านมาบอกว่า ยายวันดี ซึ่งถือเป็นลูกพี่ลูกน้องของตนเองถูกฆ่าตายตนเองและลูกชายจึงเดินทางออกไปดูศพพร้อมกัน ซึ่งตนเองมั่นใจว่าลูกชายไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาลูกชายจะมีประวัติติดยาเสพติด แต่ก็ไม่เคยเข้าโรงพักมีคดีความกับใคร
แต่หากผลออกมาว่าลูกชายเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ก็คงไม่ปกป้องลูกชายและขอให้ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมาย