"บิ๊กโจ๊ก" เผยคดีแอม ไซยาไนด์ จบแล้ว ยันมีหลักฐานเอาผิดชัดเจน เตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการสัปดาห์หน้า
2 มิ.ย. 66 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าคดี น.ส.สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ว่า ความคืบหน้าของคดีนี้ยาไซยาไนด์ 8 ขวด ที่เจ้าหน้าที่ไล่เช็คมาทั้งหมด 700 กว่าขวด เพื่อหาความเชื่อมโยงเพิ่มน้ำหนักในสำนวนว่าแอมได้ยาไซยาไนด์มาอย่างไร หรือไซยาไนด์ไปอยู่ในมือของแอมได้อย่างไร กระทั่งทราบว่าหนึ่งใน 8 ขวด แอมเป็นคนสั่งซื้อเอง ทันทีที่ยาไซยาไนด์ 1 ขวดไปอยู่ในมือแอม มีผู้เสียชีวิตทันที 11 ศพ วันนี้เรื่องของแอมจบสนิทเพราะเราพบแล้วว่าแอมเป็นคนสั่งซื้อเองทุกอย่างมีความเชื่อมโยง
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ส่วนสำนวนในวันเสาร์ที่ 3 มิ.ย.นี้ จะมีการเก็บตกรายละเอียดทั้งหมด ส่วนในสัปดาห์หน้าจะได้ประสานสำนักงานอัยการเรื่องการเตรียมความพร้อมส่งสำนวนการสอบสวน 15 สำนวน หลังจากนั้นจะดูการดำเนินคดีกับโรงงาน ผู้ซื้อทั้งหมด รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐของกรมโรงงานว่ามีความผิดหรือไม่ พร้อมกันนี้ได้นัดหารือกับเลขาธิการนำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อดำเนินคดีตามความผิดคุ้มโครงผู้บริโภคอีกส่วนหนึ่ง คิดว่าจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติมขึ้น
“ยืนยันว่าสัปดาห์หน้าจะสามารถสรุปสำนวนได้อย่างแน่นอน สำนวนเสร็จแล้วเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และจะได้ประสานกับอธิบดีอัยการเพื่อเตรียมความพร้อมประชุมร่วมกันเพื่อส่งสำนวนการสอบสวน” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า การสั่งซื้อยาไซยาไนด์ของแอมมีความชัดเจน โดยสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตเมื่อปี 64 มีหลักฐานเส้นเงินในการสั่งซื้อ ทั้งผู้ซื้อและบริษัทมีความผิดด้วยกัน จะมีโรงงานและเทรดเดอร์ถูกดำเนินคดีอีกเยอะ ส่วนการแจ้งข้อหาเพิ่มกับแอม เราจะมาดูว่ามีข้อหาอะไรบ้างที่จะต้องแจ้งเพิ่มหรือข้อหาอะไรที่ยังไม่ได้แจ้ง จะรวมทั้งหมดไปแจ้งในคราวเดียวกันที่เรือนจำ ส่วนคนรอบข้างเรากำลังวิเคราะห์อยู่ วันนี้พบแล้วว่ามีพยานบางส่วนที่ให้การในฐานะพยานยังให้การไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงจะเรียกมาคุยใหม่ ถ้ายังให้การไม่ตรงข้อเท็จจริงที่เรามีข้อมูลอยู่ก็จะเป็นการให้การเท็จ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ทุกอย่างมาหมดแล้ว กำลังให้ชุดทำงานวิเคราะห์อีกว่ามีใครผิดอีกไหม ต้องสกัดออกมาให้ลึกที่สุด แต่ตอนนี้เหลือน้อยแล้ว ส่วนที่ทนายจะฟ้องร้องผมนั้นไม่ได้กังวลใจ ทนายก็ทำตามหน้าที่มีสิทธิ์ฟ้องร้องได้ แต่เราก็ต้องมีข้อต่อสู้เพราะเจ้าหน้าที่ทำตรงไปตรงมา เมื่อไหร่ก็ตามถ้าบังคับกฎหมายด้วยความเป็นธรรมมองว่าก็สู้ได้หมดเพราะไม่ได้ไปกลั่นแกล้งใคร การทำงานของตำรวจหนีไม่พ้นขึ้นโรงขึ้นศาล เมื่อเราทำหน้าที่ด่านหน้าแบบนี้ก็ต้องปะทะกับผู้ต้องหา นักกฎหมาย สำนวนคดีนี้ถือว่าเป็นสำนวนที่เร็วและรอบคอบเป็นสำนวนคดีตัวอย่างก็ว่าได้เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนนั่งทำงานตั้งแต่ 09.00-22.00 น.ทุกวัน และตนก็นั่งประชุมด้วยทุกวัน การทำงานแบบนี้เป็นการทำงานแบบบูรณาการอย่างชัดเจน