"พิธา" ควง "อุ๊งอิ๊งค์" พาเหรดงานบางกอกไพรด์ ลั่นเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ "สมรสเท่าเทียม" ต้องเกิด

ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร บริษัท นฤมิตไพรด์ จำกัด จับมือ กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยองค์กรสิทธิเพศหลากหลายกว่า 30 องค์กร สะบัดธงบนถนนสีรุ้งแห่งความหมาย ในงาน “Bangkok Pride 2023” ตอกย้ำความปัง พลังจาก LGBTQIAN+ เพื่อสร้างการยอมรับความหลากหลายทางเพศในสังคมไทยและพื้นที่สร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมสำหรับชุมชน LGBTQIAN+ ภายใต้แนวคิด “Beyond Gender ประเด็นความไม่เท่าเทียมทางเพศใดที่ คุณอยากก้าวข้าม”

โดยปิดถนนเดินขบวนอย่างสร้างสรรค์ทั้งสิ้น 6 ขบวน จากแนวคิด “สุขภาวะของผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIAN+ well-being)” การมีสุขภาวะที่ดีสำคัญต่อคุณภาพชีวิต เริ่มตั้งแต่บริเวณแยกปทุมวัน ถนนพระราม 1 ฝั่งสยามวัน จนถึงแยกราชประสงค์ บริเวณลานเซ็นทรัลเวิลด์

โดยขบวนสีรุ้งยาวที่สุดในประเทศไทย 144.8 เมตร ที่เป็นการสื่อถึงการเรียกร้องเพื่อต้องการให้เกิดการแก้ไขกฎหมายมาตรา 1448 สมรสเท่าเทียม ทั้งนี้ภายในขบวน แบ่งเป็น 6 ทูตนฤมิตไพรด์ ที่เป็นตัวแทนในการสื่อสาร และกระบอกเสียงของชาวสีรุ้ง

ขบวนแรก Community (ชุมชน) เพื่อนำเสนอความต้องการด้านสิทธิการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศที่รวมไปถึงกลุ่ม Intersex Trans และ Non-binary ของชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย

ขบวนที่ 2 Purpose (เจตน์จำนง) เป็นการรณรงค์ให้ยกเลิก พ.ร.บ ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี เพื่อคืนสิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพให้กับพนักงานบริการและ Sex creator รวมถึงการสนับสนุนเซ็กซ์ทอย ให้ถูกกฎหมาย สนับสนุนการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาและ Consent ในโรงเรียน และรณรงค์สิทธิในเนื้อตัวร่างกายเพื่อยุติวัฒนธรรมการข่มขืนและความรุนแรงในครอบครัว

ขบวนที่ 3 Relationship (ความสัมพันธ์) เพื่อรณรงค์ให้สังคมเปิดกว้างและยอมรับความหลากหลายของความสัมพันธ์และครอบครัว เพื่อนำไปสู่การรับรองสิทธิการก่อตั้งครอบครัวในกฎหมายสมรสเท่าเทียมและรัฐธรรมนูญ

ขบวนที่ 4 Environment (สิ่งแวดล้อม) ต้องการสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถและศักยภาพของชุมชน LGBTQIAN+ พร้อมด้วยการรณรงค์ถึง Peace & Earth เพื่อปกป้องและคุ้มครองสิทธิของโลกและทรัพยากรธรรมชาติเพื่ออนาคตที่เท่าเทียมและเป็นธรรมสำหรับทุกคน ทุกเพศ

ขบวนที่ 5 Health (สุขภาพ) ที่สะท้อนไปยังการเข้าถึงสิทธิทางการแพทย์อย่างเท่าเทียม

ปิดท้ายด้วยขบวนที่ 6 Security (ความปลอดภัย) เพื่อการยืนยันถึงสิทธิในการที่มีความปลอดภัยในชีวิตของ LGBTQIAN+ ผ่านการสนับสนุนและอำนวยความสงบปลอดภัยจากทุกภาคส่วน รวมถึงเสรีภาพในการแสวงหาความสงบสุขทางจิตวิญญาณของแต่ละบุคคล และรณรงค์ให้มีการเปิดกว้างทางศาสนาสำหรับทุกเพศ

ขณะที่พรรคการเมือง หลายพรรคขนขบวนมาร่วมอย่างยิ่งใหญ่ อย่างพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้ม​เจริญ​รัตน์​ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกพรรค นำทีมมาเอง และมีว่าที่ ส.ส.มาด้วยกว่า 40 คน อาทิ นางสาวรักชนก ศรีนอก ปั่นจักรยานคู่ใจมาร่วมขบวน นอกจากนี้ยังมี หมิว สิริลภัส กองตระการ แต่งชุดแฟนซีสีส้ม แบบจัดเต็ม และยังมีช่อพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า นางสาวศิริกัญญา กันตกุล โดยขบวนของพรรคก้าวไกล เปิดให้ทุกคนในพรรคแสดงออกได้อย่างเต็มที่ โดยตลอดทางนายพิธา ได้ส่งสัญลักษณ์รูปหัวใจ ให้กับแฟนคลับที่มารอต้อนรับ ทั้งสองฝั่งข้างทางประจำนวนมาก โดยบางส่วนได้ตะโกน "นายกฯ" ดังสนั่น

ขณะที่ พรรคเพื่อไทย นำมาโดยนางสาวแพทอง ธารชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค และยังมีนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำพรรค พร้อมกับว่าที่ ส.ส.และสมาชิกพรรคมาร่วมขบวนกว่า 80 คน

โดยนางสาวแพทองธาร ได้ขึ้นไปยืนบนรถ ที่ตกแต่งด้วยเหล่าบรรดานก ไม่ว่าจะเป็นนกฟีนิกซ์ นกยูง ผีเสื้อและกุหลาบสีรุ้งซึ่งแต่ละอย่างก็แฝงไปด้วยความหมาย อย่างนกฟีนิกซ์ หมายถึงว่า ไม่มีวันตายเป็นนิรันดร์ ขณะที่นกยูง แทนความงามของเพศ ผีเสื้อแทนความหลากหลายของเพศที่มีสีสัน และดอกกุหลาบสีรุ้งแสดงถึงความงามและความอดทนของ LGBT ที่มีความหวังเพื่อสมรสเท่าเทียม โดยนางสาวแพทองธาร ได้ร่วมสนุก เต้นอย่างสนุกสนาน ระหว่างขบวนเพื่อนมาที่เซ็นทรัลเวิลด์

นอกจากนี้ ยังมีพรรคอื่นๆ เช่น พรรคไทยสร้างไทย ​นำมาโดย นต.ศิธา ทิวารี แกนนำพรรค นอกจากนี้ ยังมีบรรดาคนการเมืองออกมาแสดงจุดยืน เรียกร้องของความหลากหลายทางเพศ จำนวนมาก

ก่อนร่วมขบวนพาเหรด งาน Bangkok Pride 2023 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้เดินเข้ามาทักทายกัน พร้อมกับถ่ายรูปร่วมกับผู้จัดงาน โดยถือว่าเป็นการเจอกันครั้งแรกของนางสาวแพทองธารกับนายพิธา หลังจากการเลือกตั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ดำเนินการ ในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล นางสาวแพรทองธาร ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วม

จากนั้นทั้ง 2 ได้มีโอกาสเดินออกไปชมขบวนพาเหรดร่วมกันก่อนที่ขบวนของตัวเองจะมา ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น เพราะระหว่างที่มีเพลงดังขึ้นทั้งสองแคนดิเดตนายกฯ ก็ร่วมเต้นและเซิ้งอย่างเมามัน

นอกจากบางช่วงบางตอน นางสาวแพทองธาร ได้ไปขึ้นเวทีสยามเซ็นเตอร์​ ได้ร่วมกันร้องเพลง และเต้นเพลง "i will survive" อย่างสนุกสนาน แม้ "อุ๊งอิ๊งค์" จะออกตัวก่อนหน้านี้ว่าร้องเพลงไม่เก่ง แต่ก็ร้องตลอด นอกจากนี้ ยังได้ร่วมโบกธงให้กำลังใจ ขบวนพาเหรดของกลุ่มต่างๆ ที่มาร่วมงานด้วย

นายพิธาลิ้ม เจริญรัตน์ กล่าวว่า การที่เรามารวมตัวกันที่นี่ คือการส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่าประเทศของเราขับเคลื่อนด้วยความรัก ไม่ใช่ความกลัว และเรากำลังส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่า ความหลากหลาย คือจุดแข็งของแผ่นดินนี้ไม่ใช่จุดอ่อน และเรากำลังส่งสัญญาณไปว่าความรักก็คือความรัก แล้วความรักต้องชนะ และตนกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กับอีก 6 พรรคที่เหลือ สัญญาว่าหากเราจะตั้งรัฐบาลได้เมื่อไหร่ กฎหมายสมรสเท่าเทียม ผ่านแน่นอน

"รวมถึงการรับรอง ไม่ว่าจะเป็นเพศอะไรเชื้อชาติอะไร หรือศาสนาอะไร ประเทศของเรายินดีต้อนรับทุกคน อย่างปลอดภัย อย่างมีอิสระ และพวกคุณทุกคนเป็นตัวของตัวเองได้แน่นอน มีตนและนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ร่วมมือกันเมื่อไหร่ พอกันทีกับคนที่รักในอาชีพของตนเองแต่ไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ คนที่เป็นครูไม่สามารถเป็นครูได้ เพียงเพราะเพศสภาพ และเพศกำเนิดไม่ตรงกัน พอกันทีกับคนที่เพศเดียวกัน สร้างบ้านสร้างครอบครัวด้วยกันไม่ได้ เพียงเพราะเพศสภาพของเขาไม่เหมือนกับคนทั่วไป พอกันทีกับบทสนทนาอันกระอักกระอ่วนของผู้ปกครองและพ่อแม่ตัวเองบนโต๊ะอาหารเพียงเพราะว่า เสียงข้างในไม่ตรงกับเสียงที่พูดออกมาจากปาก และแล้ววันนั้นวันที่เราจะส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่า Pride Month ไม่ใช่เป็นแค่เดือน ไม่ใช่เป็นแค่การเดินพาเหรด แต่เป็นคุณค่าที่พวกเราเชื่อร่วมกันของสังคม เวลาอีกนิดเดียวเท่านั้นตั้งรัฐบาลได้เมื่อไหร่ เราขึ้นวาระประชุมคณะรัฐมนตรี เอาเข้าประชุมสภาฯ"

นายพิธา กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่า จะราบรื่นแค่ไหน แต่ตนขอสัญญากับทุกคนในที่นี้ว่า ว่าจะคุ้มค่าแน่นอน เพราะเมื่อถึงเวลานั้นเรามาเปลี่ยนประเทศไทยไปด้วยกัน เปลี่ยนเอเชียไปด้วยกันเปลี่ยนโลกนี้ไปด้วยกัน

ด้านนางสาวแพทองธาร กล่าวบนเวทีว่า วันนี้เป็นเกียรติที่ได้พาเหรด วันนี้ไม่พูดถึงพรรคแต่ขอพูดถึงอุดมการณ์ที่จะสนับสนุน Pride month ให้ดังไปทั่วโลก ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนเล็กๆของวันนี้ ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ เชื่อว่างานวันนี้ดังไปทั่วโลกและจะดีขึ้นไปทุกปี พวกเรามาร่วมกันสนับสนุนสมรสเท่าเทียมให้ไปถึงฝั่งทำให้ประเทศเรามีอิสระ และเสรีภาพ