พบร่างแล้วเด็ก 14 มาเล่นน้ำทะเลครั้งแรกแล้วจนน้ำเสียชีวิต พบศพลอยห่างจุดเกิดเหตุ 2 กม.
จากกรณีวันที่ 4 มิ.ย. 66 เกิดเหตุคนจมน้ำ บริเวณถนนเลียบชายฝั่งหาดแสงจันทร์ หน้าร้านอาหารอีสาน “ตาแซบ” ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยองหน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศลระยองให้ความช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุทันที ผู้ที่จมน้ำทะเลสูญหาย ชื่อ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) ได้ออกไปเล่นน้ำกับมารดาและเพื่อน คลื่นลมเริ่มแรง ร่างจมหายไป
เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศลระยอง พร้อมนักประดาน้ำ ทำการค้นหา เหตุที่เกิดห่างจากฝั่งประมาณ 60 เมตร เลยออกแนวหินกั้นคลื่น โดยนั่งเรือยางออกไปแต่สภาพอากาศหน้างานไม่เป็นใจต่อการค้นหา เนื่องจากมีคลื่นและลมค่อนข้างแรง ใช้เรือบรรทุกนักประดาน้ำวิ่งสู้คลื่นออกไปยังจุดที่สูญหายไม่ไหว ต้องนำเรือเข้าฝั่งและวางแผนกันใหม่
ล่าสุด 5 มิถุนายน 2566 เวลา 09.40 เจ้าหน้าที่กู้ภัย มูลนิธิสว่างพรกุศลระยอง ซึ่งได้ออกตระเวนสำรวจตั้งแต่ช่วงเช้า หลังจากที่ได้หยุดการค้นหาเมื่อช่วงตีหนึ่งของคืนที่ผ่านมาช่วงเช้าก็ได้ออกตระเวนค้นหากันอีก และได้พบร่างผู้เสียชีวิตลอยขึ้นมาบริเวณชายหาด ห่างจากจุดที่จมลงไปประมาณ 1.5 กิโลเมตรท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัวและเพื่อนที่มาด้วยกัน
นางบัณฑิตา ชัยคำ อายุ 46 ปี ป้าของผู้เสียชีวิต เผยว่า มีลางสังหรณ์เพราะหลานชายวัย 14 ที่พามาเที่ยว อยากจะเล่นน้ำทะเลจนผิดสังเกต ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ไปเที่ยว กิน บุฟเฟ่ทุเรียนกันที่สวนสุภัทราแลนด์ ตอนที่พากันกินทุเรียนอยู่ ยังกินไม่ทันหมดเหลืออีกพูนึง หลานก็บอกว่าอิ่มแล้ว แม่ก็บอกให้กินให้หมด เพราะหยิบมาแล้ว กินไม่หมดเดี๋ยวถูกปรับ หลานก็รีบกินทั้งที่อิ่มแล้ว พอมาถึงทะเล หลานก็มีท่าทางดีใจ รีบวิ่งลงทะเล แม่ก็เรียกให้ขึ้นมาบอกให้มาเปลี่ยนกางเกงยีนส์ หลานก็ขึ้นมาเปลี่ยน แล้วลงไปเล่นด้วยความดีใจ แม่กับคนอื่นๆก็ตามไปเล่นด้วย อยู่ๆก็ได้ยินเสียงเอะอะ เห็นหลานถูกคลื่นซัดลอยกลางทะเล ทุกคนลงไปช่วยแล้วแต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะคลื่นแรงมาก
ด้านนายบุญธรรม ใยกล้า นายกเทศมนตรีตำบลเนินพระ หัวหน้าศูนย์บัญชาการจุดเกิดเหตุ บอกว่า เมื่อวานนี้ทันทีที่ทราบเรื่อง เจ้าหน้าที่ก็ออกค้นหาจนถึงกลางคืน คลื่นลมแรงจัด ได้ยุติการค้นหา และพอรุ่งเช้าได้ สนธิกำลังทุกหน่วยงาน ออกค้นหา อีกครั้ง จนพบร่างผู้เสียชีวิต ห่างจากจุดที่ จมไกลกว่า 2 กม. ยอมรับว่าคลื่นลม รุนแรงมาก ร่องน้ำอาจเปลี่ยนทิศทาง เพราะก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์คนจมน้ำ แต่ก็ยังช่วยขึ้นมาได้ แต่ครั้งนี้ น่าจะมีการเปลี่ยนทิศทางน้ำซึ่งอาจเกิดจากการกัดเซาะ จะเร่งรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อหาทางแก้ไข ครั้งนี้ ลมด้านนอกเข้ามาทำให้คลื่นใหญ่มาก ฝากประชาสัมพันธ์ หากนักทอ่งเที่ยงพบว่าคลื่นลมแรงมาก ไม่ควรลงน้ำที่ลึกเกินไปเพราะหากถูกคลื่นซัดก็จะเสียการทรงตัว แม้ว่ายน้ำเป็นก็อันตราย