ล่าผัวเหี้ยมฆ่าทิ้งศพเมีย ลูกทั้ง 4 กำพร้าแฉ ตีเนียนช่วยค้นหาแต่เลือดเปื้อนรองเท้า
คดีที่ น.ส.ศิริวรรณ หรือจอย อายุ 40 ปี ถูกสามีคือ นายณรงค์วิทย์ หรือแจ็ค ไปดักทำร้าย ทิ้งร่างไว้ข้างทางโดยใช้กิ่งไม้คลุมปิดไว้ ริมถนนสายบ้านจักรสีห์-วัดพระนอน อ.เมือง จ.สิงห์บุรี จนเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังก่อเหตุสามีขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งมีผู้พบร่าง น.ส.ศิริวรรณ และตามหาตัวคนก่อเหตุจึงขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านหลบหนีไป
วันนี้ 5 มิ.ย. 66 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสิงห์บุรีตามที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตขอความช่วยเหลือ โดยได้ติดต่อตัวแทนสำนักงานยุติธรรม จ.สิงห์บุรี ตัวแทนจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ นายวิทยา ยางสุด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสิงห์บุรี และมี พ.ต.อ.ไพฑูร ตันเจริญรัตน์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองสิงห์บุรี ร่วมหารือในการช่วยเหลือบุตรชายทั้ง 4 คนของผู้เสียชีวิต
หลังจากหารือกันเรียบร้อยแล้ว กัน จอมพลัง ได้ออกมาสรุปว่า “ผมได้คุยกับทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่พ่อทำร้ายแม่จนเสียชีวิต ทำให้ลูกชายทั้ง 4 คน ต้องเป็นกำพร้า และอยู่ในวัยกำลังเรียน เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นผู้ส่งเสียดูแลลูกๆ ทั้ง 4 คน เพียงคนเดียว อีกทั้งเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวผู้เสียชีวิต เนื่องจากพ่อได้พูดขู่ไว้ด้วยว่าจะวนกลับมาทำร้ายแม่ของผู้เสียชีวิตอีกด้วย ผมจึงได้ประสานกับทาง ผกก.สภ.เมืองสิงห์บุรี ซึ่งท่านได้ให้ความช่วยเหลือเต็มที่ และได้ให้ความมั่นใจกับทางครอบครัวผู้เสียชีวิตว่า จะไม่มีใครมาทำร้ายคนในครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ และจะนำตัวคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว ในส่วนของการศึกษา ผมได้ประสานกับท่านตรีนุช เทียนทอง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งท่านก็ได้ส่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสิงห์บุรี มาช่วยในวันนี้ เพื่อให้น้องๆ ได้ไปต่อกับเรื่องการเรียนหนังสือ เพราะครอบครัวที่ถูกกระทำก็ไม่ควรถูกกระทำซ้ำเติมอีก อีกท่านที่ผมได้ประสานคือ นายอนุกูล ปีดแก้ว (รักษาการ) ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ท่านได้ส่งเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสิงห์บุรี ได้มาช่วยเหลือน้องๆ ในครั้งนี้ ได้วางแผนในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการกินอยู่ต่างๆ ก็ยังสามารถช่วยเหลือส่งไปยังโรงเรียนประจำของกระทรวงฯ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและได้เรียนต่อ และยังจะมีการประสานไปยังส่วนของสาธารณสุขในการเยียวยาจิตใจทั้งเด็กๆ แม่ และยายของผู้เสียชีวิตที่ได้ร้องไห้ตลอดเวลาเมื่อมีใครพูดถึงเรื่องของการเสียชีวิตของ น.ส.ศิริวรรณ และในส่วนของสำนักงานยุติธรรม จ.สิงห์บุรี ก็มีในเรื่องของเงินเยียวยาให้กับทายาทของผู้เสียชีวิตอีกด้วย สุดท้ายฝากถึงคนร้ายที่เป็นพ่อของเด็ก ถ้าดูอยู่พ่ออย่าหนี ทำเป็นตัวอย่างที่ดีให้กลับมารับโทษ รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไป”
นางวันนา เกตุทอง แม่ของผู้เสียชีวิต ได้กล่าวว่า “ตอนนี้หลังจากที่ คุณกัน จอมพลัง ได้มาลงพื้นที่เพื่อมาช่วยเหลือในครั้งนี้ รู้สึกดีใจและขอบคุณเป็นอย่างมาก ตอนนี้ลดความกังวลใจไปได้มากในเรื่องการได้เรียนต่อของหลานๆ ทั้ง 4 คน ส่วนในเรื่องของสภาพจิตใจของหลานๆ ก็ยังแย่กันอยู่ กอดกันร้องไห้ทุกคืน แม่ไม่กลับมาแล้วพวกเราจะอยู่กับใคร เพราะตอนเย็นพวกเขาเคยได้กอดกันทุกวัน ทำกับข้าวกินกันตามประสาแม่ลูก แล้วตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว แม่กับยายก็ยังทำใจไม่ได้ ให้ตนตายแทนลูกสาวยังดีกว่า เพราะตนแก่แล้ว หลานๆ จะได้ไม่ต้องมากำพร้าแม่แบบนี้ ตนอยากถามคนร้ายว่าทำไมใจร้ายทำร้ายเมียตัวเองได้ลงคอ ลูกๆ ก็เยอะ ทำไมถึงต้องทำร้ายกันถึงตายเลยหรือไง”
ด้านน้องเจ อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นลูกของผู้ตายและผู้ก่อเหตุ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า สาเหตุที่พ่อฆ่าแม่แบบนี้ นอกจากจะเป็นเพราะเรื่องเมาเหล้าแล้ว สงสัยว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพราะปกติแม่กับพ่อมักจะชอบดื่มเหล้า แต่ก็จะมีอารมณ์รุนแรงบ้าง แล้วก็ชอบพูดโมโห แล้วก็นอนหลับไป แต่ไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขั้นวางแผนฆ่าแม่ โดยส่วนตัวจึงเชื่อว่าพ่ออาจจะเสพยาแล้วเกิดภาพหลอนจะไปก่อเหตุฆ่าแม่
ก่อนหน้านี้พ่อก็ชอบมักมีอารมณ์ฉุนเฉียวหลังดื่มเหล้าแล้วทำร้ายแม่เป็นประจำ ล่าสุดก่อนฆ่าแม่ก็เคยบีบคอแม่จนเป็นรอยมาแล้ว น้องเจก็เป็นคนเข้าไปช่วยห้าม ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้มักจะมาเกิดช่วงหลังที่ย้ายมาทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งลูกแอบสงสัยว่าอาจจะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แล้วตอนนี้ถ้าหากพ่อติดตามข่าวอยู่ ลูกบอกว่าอยากให้มามอบตัวเพราะอยากคุยกับพ่อ
โดยหลังก่อเหตุ พ่อกลับมาที่บ้านทำท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วยังใช้ให้ลูกโทรศัพท์ถามแม่ว่าทำไมถึงกลับบ้านช้า ตอนนั้นน้องเจแอบสังเกตเห็นรองเท้าของพ่อเปื้อนเลือด แต่ก็ไม่ได้คิดเอะใจอะไร ส่วนก่อนที่จะหลบหนีนั้น ยังบอกให้น้องเจไปซื้อขนมให้น้อง พอกลับมาอีกทีพ่อก็ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปแล้ว
ขณะที่ นายเจตริน หรือต้อม น้องชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับทีมข่าวว่า สาเหตุที่ทำให้นายแจ็คก่อเหตุแบบนี้เป็นเพราะว่าชีวิตพังทลายลงมา หลังจากไปลงทุนเปิดร้านทุกอย่าง 20 บาท แล้วติดสุรา และทุกวันที่ดื่มสุรามากก็จะพูดข่มขู่ว่าจะฆ่าเมียอยู่เป็นประจำ เคยพูดเอาไว้ว่าถ้าหากมึงนอกใจกูกูฆ่ามึงตายแน่ ซึ่งนายต้อมเชื่อว่าตั้งใจฆ่า เพราะเคยวางแผนพูดแบบนี้ไว้หลายครั้งแล้ว แม้กระทั่งกับตัวเองซึ่งเป็นน้องชายเมีย ยังเคยมาบอกเลยว่าจะฆ่าพี่สาวนะ ที่ผ่านมาทั้งคู่เจอปัญหาเรื่องเงินติดขัดจนน้องชายเองก็ต้องมาแบกรับภาระหนี้ประมาณ 300,000 บาทที่กู้เงินซื้อรถเอาไว้
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายณรงค์วิทย์ ฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่หากได้สอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานแล้วพบว่าเข้าองค์ประกอบฆ่าโดยไตร่ตรอง เจ้าหน้าที่ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มทันที