พิธา ชนหมัด ชัชชาติ นำส.ส.ก้าวไกล 32 คน พบคณะผู้บริหารกทม. หารือแลกเปลี่ยนการทำงาน
6 มิ.ย. 66 เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 มิ.ย. ที่หน้าห้องพรพิมานศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงมาต้อนรับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งเดินทางมาถึงเพื่อพบปะหารือและนำทีมว่าที่ส.ส.ก้าวไกลทั้ง 32 คนเข้าพบคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร
โดยวันนี้นายพิธา สวมสูทสีกรม เนคไทสีเขียว ซึ่งเป็นสีประจำของกรุงเทพมหานครโดยนายชัชชาติได้กล่าวทักทายว่า สบายดีนะ พร้อมทักว่าวันนี้ใส่เน็คไทสีเขียวมาเลย
จากนั้นจึงได้เดินเข้าไปยังห้องอมรพิมานเพื่อพบปะกับคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครก่อนจะเข้าไปยังห้องประชุม
สำหรับบรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความชื่นมื่น โดยทันทีที่นายพิธา เดินทางมาถึงศาลาว่าการ กทม. นายพิธา ก็ได้ทักทายนายชัชชาติ ด้วยการชนหมัด ซึ่งท่าประจำของนายชัชชาติ
โดยนายชัชชาติ ได้กล่าวก่อนเริ่มหารือว่า ดีใจที่ได้มาพบปะการรือกัน เพราะถือเป็นพลังของคนรุ่นใหม่ และอย่างไรก็ได้ร่วมงานกันแน่นอนในอนาคต และถือเป็นนิมิตหมายที่ดี และเชื่อว่า กทม.ก็เป็นจุดสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเป็นมีสเกลขนาดใหญ่
ขณะที่ นายพิธา กล่าวก่อนเริ่มประชุมว่า พรรคก้าวไกลจะเข้ามาทำงานอย่างไร้รอยต่อ ถ้าทำงานอย่างไร้รอยต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่คาราคาซังนาน และความท้าทายใหม่ๆที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปี ก็จะทำให้เรื่องหนักเป็นเบาได้
โดย นายชัชชาติได้ยื่นข้อเสนอ 21 ข้อแก้ปัญหา กทม.ให้กับนายพิธา ประกอบด้วย
จากนั้น ชัชชาติได้ยื่นข้อเสนอ 21 ข้อแก้ปัญหา กทม.ให้กับพิธา ได้แก่
1.การใช้ที่ดินของหน่วยงานรัฐ เพื่อประโยชน์ของประชาชน
2. ร่วมผลักดันโครงการวาระแห่งชาติ ฝุ่น PM 2.5
3.ทบทวนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
4.ร่วมมือกับรัฐในการแก้ปัญหาจราจร
5.ศึกษาแผนระยะยาวป้องกันน้ำทะเลสูงเนื่องจากภาวะโลกร้อน
6. หาแนวทางในการจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับความเป็นจริง
7.นำสายสื่อสารลงดิน
8.หาข้อสรุปร่วมกันสำหรับโครงการรถไฟฟ้า
9. สนับสนุนค่าใช้จ่ายและเพิ่มความสะดวกในการเดินทางค่าโดยสารร่วม (ตั๋วร่วม) รถเมล์ รถไฟฟ้า เรือให้เป็นระบบเดียวกัน
10.ร่วมกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยให้กับคนเมือง
11.พัฒนา Open Bangkok
12.ส่งเสริมการดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจเมือง
13. ปรับปรุงกฎหมายให้มีประสิทธิภาพ
14. แก้ พ.ร.บ.กทม.ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น
15. เร่งรัดโครงการค้างอยู่ที่ต้องอาศัยเงินจากรัฐบาล
16. ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว
17 . ส่งเสริมกลไกระบบสาธารณสุขปฐมภูมิ และการเชื่อมต่อกับเครือข่ายโรงพยาบาล Bangkok Health Zones
18.ยกระดับระบบการป้องกัน บรรเทาสาธารณภัยและการบริหารเรื่อง ฉุกเฉิน ตั้งแต่การเผชิญเหตุไปจนถึงการชดเชยค่าเสียหาย
19.ทบทวนอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการจัดการบุคลากรภาครัฐ โดยเฉพาะงานด้านสาธารณสุขและสาธารณภัย
20. ทบทวนแนวทางการจัดทำความร่วมมือบ้านพี่เมืองน้องของเมืองให้ท้องถิ่นสามารถดำเนินการได้คล่องตัวมากขึ้น
21.ยกระดับการศึกษาให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลง
จากนั้นนายพิธาและนายชัชชาติ ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงข้อหารือของทั้งสองฝ่าย โดยนายพิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลรับข้อเสนอทั้ง 21 ข้อของ กทม.มาพิจารณา เพื่อหาแนวทางการทำงานร่วมกันต่อไป เพราะกทม.ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ซึ่งก้าวไกลพร้อมทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งปัญหาเร่งด่วนที่สามารถทำร่วมกันได้เลยคือน้ำท่วม เพราะเข้าสู่น่าฝนแล้ว รถติด และการรับมือเรื่องฝุ่น PM2.5 ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้
ทั้งนี้ กฎหมาย 45 ฉบับ ที่ก้าวไกล จะนำเสนอเข้าสภา หนึ่งในนั้นก็มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ กทม. ที่พรรคก้าวไกลเตรียมจะผลักดัน พร้อมได้มีการตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่านกรุงเทพมหานคร หรือ Bangkok Transition Team เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างไร้รอยต่อมากที่สุดในการแก้ปัญหาทั้งเรื่องข้อจำกัดทางกฎหมาย ข้อจำกัดทางงบประมาณ และการประสานงานระหว่างรัฐสภาและสภา กทม. โดยพรรคก้าวไกลจะมีนายพิจารณ์