พีกในพีก! หนุ่มนัดสาวจู๋จี๋ ซวยขับรถสวนเมียถูกตามทืบน่วม ซ้ำสาวสนิทถูกจิกหัวตบสั่งสอน
จากคลิปเหตุการณ์กลุ่มชายฉกรรจ์ 2 คน หญิง 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย2หนุ่มสาว โดยในคลิปบันทึกภาพของผู้หญิงถูกรุมทำร้าย จิกผม ใช้รองเท้าตบตีที่ใบหน้า เหตุเกิดที่ลานจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
เบื้องต้นทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมาด้วยกัน 5 คน โดยหญิงสูงอายุ นั่งรอในรถยนต์ 1 คน หลังเกิดเหตุได้พาตัวผู้หญิงขึ้นรถไปด้วย
ทีมข่าวช่อง8 สอบถาม นายธนง พลเมืองดีที่อัดคลิป เล่าว่า ขณะที่ตนเองพยายามเข้าไปห้ามปราม ตนได้สอบถามกลุ่มคนร้าย ทราบว่า ชายหญิงที่ถูกรุมทำร้ายร่างกาย มีสัมพันธ์เป็นผัวกับเมียน้อย ซึ่งก่อนเกิดเหตุ ฝ่ายชายได้ขับรถไปเฉี่ยวชนเมียหลวงและลูกตัวเอง ก่อนขับรถพาเมียน้อยหนีออกมาจอดที่จุดเกิดเหตุ จากนั้นไม่นานกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นญาติของเมียหลวง ขับรถตามมาพบจึงลงมือรุมทำร้ายร่ายกายดังกล่าว
ทีมข่าวสอบถามพันตำรวจเอกธนูเพ็ชร ฉมาฤกษ์ ผู้กำกับการ สภ.คลองด่าน เปิดเผยกับทีมข่าวว่า หลังจากวันเกิดเหตุทางสายตรวจได้พาคนเจ็บเข้ามาที่ สถานีตำรวจ แต่ทางคนเจ็บไม่ประสงค์ที่จะแจ้งความ หรือลงบันทึกประจำวัน รวมถึงไม่ให้ข้อมูลใดๆทั้งสิ้น และขอไม่ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ก่อนจะเดินทางกลับไป
พอคนเจ็บเดินทางกลับไปประมาณ 2 ชั่วโมง ฝั่งผู้หญิงที่ทำร้ายคนเจ็บที่เป็นผู้หญิงอีกคน ก็ได้เดินทางมาพร้อมกับสาวประเภทสอง ซึ่งทั้งคู่มาแสดงตัวว่าเป็นคนก่อเหตุ และมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมบอกว่า ตอนนี้ผู้หญิงที่ถูกทำร้ายได้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยกับสามีไปแล้ว ส่วนที่ก่อเหตุเป็นเพราะว่าผู้ชายคนเจ็บมารับผู้หญิงคนเจ็บออกจากบ้าน ทั้งๆที่ผู้หญิงก็มีสามีอยู่แล้ว จากนั้นทางสามีของผู้คนเจ็บกับพรรคพวกก็ขับตามมาก่อนที่รถมาจะเฉี่ยวชนกันที่สะพานข้ามคลองบางพลีใหญ่
จากนั้นคนเจ็บกับผู้หญิงก็ได้ขับตามมาจนมาถึงคลองด่าน ก่อนจะจอดที่ร้านสะดวกซื้อจึงได้ปรี่เข้าไปทำร้ายตามในคลิป ก่อนจะนำผู้หญิงกลับไปที่บ้านเพื่อไปเครียร์ใจกับสามีของเขา ส่วนผู้ชายก็คนเจ็บก็มีครอบครัวอยู่แล้ว เพียงแค่มาแอบคบหากับผู้หญิงอีกคน ซึ่งก็มีสามีอยู่แล้วเช่นกัน ตอนนี้ได้มีการประสานฝั่งคนเจ็บมาให้ปากคำ แต่ยังติดต่อไม่ได้ คาดว่าคงไม่อยากให้ความร่วมมือเพราะต่างฝ่ายต่างมีครอบครัวอยู่แล้ว
เบื้องต้นแม้จะไม่มีใครเข้าแจ้งความเอาผิด หรือจะยอมความกัน แต่ทางตำรวจก็ต้องดำเนินคดีเพราะถือว่าเป็นอาญาแผ่นดิน ในข้อหา ทำร้ายร่างกาย และสร้างความวุ่นวายในที่สาธารณะ โดยเป็นความผิดทางลหุโทษ ซึ่งมีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หากคนเจ็บประสงค์มาแจ้งความเอาผิดก็ต้องดำเนินเดินคดีตามกฎหมาย