หนุ่มใหญ่ป่วยประหลาดท้องยุบเป็นหลุม ญาติเชื่อปอบกิน หมอปลารุดช่วยเจอของแรง

ภรรยาของผู้ป่วยร้องทุกข์ไปยังหมอปลา มือปราบสัมภเวสี ขอให้มาช่วยสามีที่ป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง แต่ต่อมาเชื่อว่าอาจจะถูกผีสิงกินตับไตไส้พุงไปจนหมดหรือเปล่า

หมอปลาจึงลงพื้นที่ไปที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนเข้าไปในบ้าน หมอปลาพูดคุยกับนางจำเรียง อายุ 60 ปี ภรรยาที่ร้องขอความช่วยเหลือ ปลดปล่อยดวงวิญญาณที่สิงร่างสามี คือ นายมนูญ อายุ 50 ปี

นางจำเรียง เล่าให้ฟังว่า สามีป่วยเป็นโรคเส้นเลือดสมองแตก เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 20 เมษายนปี 2565 แต่ขณะนำตัวส่งโรงพยาบาล สามีหัวใจหยุดเต้นระหว่างทางถึงโรงพยาบาล ทีมแพทย์ได้ช่วยปั๊มหัวใจ จนมีชีพจรกลับคืนมาได้ แต่ระหว่างการเคลื่อนย้ายตัวสามีกลับบ้าน มีความรู้สึกว่าสามีมีน้ำหนักตัวเพิ่มเหมือนแบกคน 3 คน แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งมาที่บ้านตนเองฝันเห็นเหมือนมีสัมภเวสีและผีรูปร่างใหญ่ดำตามมาอยู่ภาย บางครั้งหลานชาย ก็เห็นเหมือนผีอยู่ในห้อง

หลังจากนั้น หมอปลาก็เข้าไปในห้องที่นายมนูญอยู่ ระหว่างทางเดินเข้าไปหมอปลาก็มีอาการอ้วกอาเจียนสัมผัสวิญญาณสัมภเวสีได้ หมอปลายังไม่ทันเข้าไปถึงในห้อง ก็ทนไม่ไหวจึงต้องขอตัวออกไปพักด้านนอกบ้านก่อน แล้วจึงเรียกภรรยาและลูกของนายมนูญเข้ามาพูดคุย บอกว่ามีผีแฝงอยู่ที่ร่างจริง แต่ถ้าหากทำพิธีไปนายมนูญอาจจะมีชีวิต อยู่ได้ไม่นาน

ซึ่งภรรยาของนายมนูญ บอกว่า สังเกตว่าบริเวณท้องของสามี ลึกโบ๋เหมือนไม่มีตับไตไส้พุงอยู่ภายในท้อง ประกอบกับว่า พอตกกลางคืนตนเองก็จะได้กลิ่นสาบแบบผิดปกติ ใบหน้าของสามีก็เปลี่ยนไป ตาโตคิ้วโก่งผิดปกติ เวลาให้อาหารทางสายยางก็จะมีอาการขนลุกซู่ ตัวสั่น ตนเองก็เชื่อว่าสามีน่าจะถูกผีสิงร่างมาจากที่โรงพยาบาล กระทั่งมีร่างทรงมาทัก แล้วบอกว่าสามีที่อยู่ที่บ้านทุกวันนี้ ไม่ใช่สามีของตนเองเป็นเพียงร่างเปล่าที่ไร้วิญญาณ แต่ถูกผี เป็นลักษณะเหมือนผีแขกผีอินเดียมาเข้าสิงร่าง

แล้วก็ให้ทำพิธีซื้อพระพุทธรูปในราคา 12,000 บาท เพื่อทำบุญให้กับดวงวิญญาณที่มาแฝง แต่ยังไม่ทันได้นำพระพุทธรูปมาถวายพระ ทางร่างทรงที่เป็นคนจัดหาให้บอกว่า พระพุทธรูปดังกล่าวนั้นคอหัก เชื่อว่าผีแขกตนดังกล่าวไม่รับของที่เป็นพระพุทธศาสนา

ซึ่งหมอปลามองว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ภรรยาของนายมนูญถูกหลอก เพราะจริงๆ แล้วผีที่มาแฝงร่างนายมนูญนั้น น่าจะเป็นสัมภเวสีที่อยู่ในพื้นที่ใกล้บ้าน เพราะบ้านนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ป่าช้าเก่าใกล้วัด

เมื่อตกลงกับภรรยาและลูกของนายมนูญได้ว่าจะทำพิธี และนายมนูญอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หมอปลาได้ให้ลูกและภรรยาของนายมนูญนำน้ำมะพร้าวอ่อนมาล้างหน้า พร้อมขอขมากรรมไม่ให้ติดค้างกัน และขอให้นายมนูญไปดีไม่ต้องเป็นห่วงลูกหลาน

หลังจากนั้น หมอปลาก็เริ่มทำพิธีด้วยการนำสายสิญจน์ผูกที่ศีรษะของนายมนูญพร้อม ให้นายมนูญนอนถือดอกไม้กับธูป แล้วหมอปลาก็เริ่มจุดธูปหนึ่งดอกพร้อมใช้ตะขอเกี่ยวช้างทำพิธีไถ่ถอนดวงวิญญาณ

หมอปลายังบอกอีกด้วยว่า ในขณะทำพิธีนั้น สายตาของนายมนูญเหลือบมองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเชื่อว่านายมนูญรับรู้ได้ว่ากำลังจะถูกถอนดวงวิญญาณ และไม่อยากที่จะจากโลกนี้ไปก่อน ทำให้หมอปลาต้องพูดคุยว่าการตกอยู่ในสภาพแบบนี้อาจจะเป็นการสร้างกรรมให้กับภรรยาและลูก

ด้านภรรยาและลูกของนายมนูญบอกว่า ก็รู้สึกสบายใจขึ้นหลังทำพิธี เพราะอยากให้เขาถูกปลดปล่อยดวงวิญญาณ เพราะโดยส่วนตัวเชื่อมาตลอดว่า สิ่งที่นายมนูญเจอนั้นเกิดขึ้นจากเรื่องลี้ลับที่มองไม่เห็น หากวันนี้ได้ทำพิธีแล้วเขาไปดีก็จะรู้สึกสบายใจขึ้น เพราะที่ผ่านมาทรมานทั้งคนเฝ้าและผู้ป่วย

ปอบแรงสู้หมอปลา