"พิธา" เผย "บิ๊กตู่"ยังไม่โทรมายินดี ชี้ ธรรมเนียมปฏิบัติตนต่าง ลั่นหากตนเป็นนายกฯแล้วแพ้เลือกตั้ง ก็จะโทรยินดีกับผู้ชนะ

7 มิ.ย. 66 นายพิธา ลิ้ม​เจริญ​รัตน์​ หัวหน้า​พรรค​ก้าวไกล​ ตอบคำถามสื่อมวลชน ถึงกรณีที่นายรังสิมันต์​ โรม โฆษกพรรคก้าวไกลทวงถามพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยากให้โทรมาแสดงความยินดีกับพรรคที่ได้อันดับ 1 ว่า ตอนนี้ พลเอกประยุทธ์ นายก​รัฐมนตรี​ ยังไม่มีการโทรมายินดีกับพรรคก้าวไกล จึงคิดว่า ธรรมเนียมปฏิบัติระหว่างตนกับพลเอกประยุทธ์ คงต่างกัน ส่วนหัวหน้าพรรคอื่น เมื่อทราบผลการเลือกตั้ง ก็โทรมายินดีกับตน

 

นายพิธา กล่าวต่อว่า สำหรับตน วันหนึ่งถ้ามีการเลือกตั้งแล้ว ถ้าตนแพ้การเลือกตั้ง ตนก็ต้องโทรไปหาผู้ชนะเพื่อยอมแพ้ เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านรัฐบาลเกิดขึ้นแบบไร้รอยต่อมากที่สุด

 


อย่างไรก็ตามสำหรับวันนี้ นายพิธา ได้เป็นประธานการประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ที่พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพ โดยมีหัวหน้าพรรคการเมืองทั้ง 8 พรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ทั้ง นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย , นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ , นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย , นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง , พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย , นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม และตัวแทนจากพรรคพลังสังคมใหม่ นอกจากนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี​ เดินทางมาประชุมที่พรรคเพื่อไทย ได้เข้าไปทักทายแกนนำ 8 พรรคร่วม โดยบอกกับผู้สื่อข่าวว่าวันนี้ไม่ได้มาเข้าร่วมประชุมกับ 8 พรรค

 

สำหรับวาระการประชุม นายพิธา กล่าวว่า การประชุมจัดตั้งรัฐบาลตอนนี้เหมือนเป็นการประชุมสัญจรไปแล้ว ตนตั้งใจที่จะให้มีการประชุมอาทิตย์เว้นอาทิตย์ เพื่อให้มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง ส่วนวาระที่จะต้องมีการประชุมกันวันนี้ คือการประเมินสถานการณ์การเมือง และจะมีการพูดคุยถึง Timeline ในการจัดตั้งรัฐบาล จากนั้นก็จะมีการติดตามผลการทำงานของคณะกรรมการเปลี่ยนผ่าน ทั้ง 12 ชุด ว่าพบปัญหาหรืออุปสรรคใด ควรปรับหรือเพิ่มจุดใด เพื่อให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพสูงสุด ยุทธศาสตร์รวมเสียง เพื่อผลักดันให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นก็ในช่วงท้ายก็จะเปิดโอกาสให้ทุกพรรคได้แสดงความคิดเห็นต่อการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ รวมถึงแนวทางการทำงานร่วมกัน

 

ทั้งนี้ แหล่งข่าวระดับสูงยังเปิดเผยว่า เรื่องของการจัดสรรโควตากระทรวง รวมถึงโควตาคณะรัฐมนตรี ตอนนี้เริ่มมีความชัดเจนแล้ว โดยพรรคเพื่อไทยภาพรวมมีแนวโน้มจะได้คุมกระทรวงเกี่ยวกับเศรษฐกิจตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ส่วนพรรคก้าวไกล มีแนวโน้มจะได้คุมกระทรวงสำคัญที่ยึดโยงกับการบริหารประเทศ รวมถึงกระทรวงที่ตรงตามแนวทางหาเสียงไว้