"พิชาย" ชี้ "พิธา" ไม่รอด ปมหุ้นไอทีวี ถ้าตีความแบบทื่อ ๆ ตามตัวอักษร แต่ าตีความโดยใช้ปัญญาเชิงปฏิบัติ เชื่อมโยงกับความจริงและเจตนารมณ์ของกฎหมายก็ "รอด"

7 มิ.ย. 66 รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อาจารย์คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ช้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงปัญหาการถือหุ้น บริษัทไอทีวี จำกัด ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ว่า ถ้าตีความแบบทื่อ ๆ ตามตัวอักษร พิธา ก็ไม่รอด แต่ถ้าตีความโดยใช้ปัญญาเชิงปฏิบัติ เชื่อมโยงกับความจริงและเจตนารมณ์ของกฎหมาย ดังที่ศาลฎีกาท่านใช้ในคดีที่คล้ายกัน พิธา ก็รอด

 

ปัญญาเชิงปฏิบัติเป็นแนวคิดที่อ้างถึงความรู้และคุณธรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ดุลยพินิจและการตัดสินใจที่ดีในเรื่องที่เป็นประโยชน์ ครอบคลุมความสามารถในการแยกแยะว่า อะไรคือสิ่งที่ถูกต้องทางศีลธรรม และสิ่งที่ดีทางศีลธรรมในสถานการณ์เฉพาะ หรือความสามารถในการใช้ความเข้าใจในกฎเกณฑ์อย่างมีประสิทธิผลกับสถานการณ์ในชีวิตจริง

 

ปัญญาเชิงปฏิบัติมาจากปรัชญาของอริสโตเติล เป็นมากกว่าความรู้ทางทฤษฎี หลักการ หรือความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หากรวมถึงความสามารถของแต่ละบุคคลในการนำทางประเด็นขัดแย้งทางจริยธรรมที่ซับซ้อนสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ที่แข่งขันกัน และค้นหาแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมที่สุดในบริบทที่ต้องตัดสินใจ

 

ปัญญาเชิงปฏิบัติเป็นมากกว่าการปฏิบัติตามกฎตายตัวหรือการพึ่งพาการวิเคราะห์อย่างมีเหตุมีผลเท่านั้น เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการบูรณาการความรู้รูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งหลักการทางศีลธรรม ประสบการณ์ส่วนตัว ความเห็นอกเห็นใจ และความเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์

 

คุณลักษณะที่สำคัญของปัญญาเชิงปฏิบัติ ได้แก่ :

ความเข้าใจบริบท: ปัญญาเชิงปฏิบัติให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจสถานการณ์และบริบทเฉพาะในการตัดสินใจ โดยคำนึงถึงบุคคลเฉพาะที่เกี่ยวข้อง คุณค่าที่ต้องเลือก และผลที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำต่าง ๆ


สร้างสมดุลระหว่างทางเลือก: ผู้ใช้ปัญาเชิงปฏิบัติตระหนักดีว่าในหลาย ๆ สถานการณ์ มีค่านิยมหรือผลประโยชน์ที่ถูกต้องหลายอย่างที่ต้องพิจารณา ปัญญาเชิงปฏิบัติเกี่ยวข้องกับการแยกแยะความสมดุลที่เหมาะสมและการจัดลำดับความสำคัญของทางเลือกเหล่านี้ เพื่อแสวงหาผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ต่อสังคม

 

ความยืดหยุ่น: ปัญญาเชิงปฏิบัติยอมรับว่ากฎและหลักการสามารถให้คำแนะนำทั่วไปเท่านั้น แต่อาจใช้ไม่ได้ในทุกสถานการณ์ การตัดสินใจหรือกระทำในบริบทที่ไม่เหมือนกันต้องการความสามารถในการปรับตัวและตอบสนองอย่างสร้างสรรค์ต่อสถานการณ์ที่เผชิญหน้า

 

การตัดสินอย่างไตร่ตรอง: ปัญญาเชิงปฏิบัติเกี่ยวข้องกับการไตร่ตรองและการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กำหนดให้บุคคลประเมินอคติของตนเอง ตรวจสอบสมมติฐานพื้นฐานที่ชี้นำการตัดสินใจ และพิจารณามุมมองทางเลือกก่อนที่จะตัดสินใจอย่างรอบรู้

 

เน้นจริยธรรม: ปัญญาเชิงปฏิบัตินั้นเกี่ยวข้องกับการพิจารณาทางจริยธรรมโดยเนื้อแท้ เน้นการกระทำที่มีคุณค่าเชิงจริยธรรม และมุ่งสร้างผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม

 

โดยรวมแล้ว ปัญญาเชิงปฏิบัติผสมผสานคุณธรรมทางปัญญาและศีลธรรมเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจในสถานการณ์ที่ซับซ้อนและไม่แน่นอน ต้องมีความเข้าใจตนเองอย่างลึกซึ้ง มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และมีความมุ่งมั่นในการทำความดีเพื่อประโยชน์สุขของปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้องและสังคมโดยรวม