ไชยา เสียงหล่อ ห่วงลูกโดนคุณไสยแฉผีกวนถี่ หอโต้อาถรรพย์ 4 ศพ ตายห้องเดิม

 จากกรณี เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 6 มิ.ย. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตภายในห้องเช่า ม.2 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง จึงประสานแพทย์เวร รพ.ระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศล เดินทางไปตรวจสอบ

ขณะที่กู้ภัยเข้าเก็บศพอดีตดีเจรายการวิทยุในห้องเช่า ถึงกับหลอน เจอคนตายเขียนบรรยายความหลอนไว้ในไดอารี่ “ผีเต็มห้องทุกคืน ที่ผมอยู่มันเป็นที่วัด เจ้าที่เขาแรง ไม่รู้ทำบุญให้เขาบ้างหรือเปล่า เขามาเล่นงานผม กรรมของผมจริงๆ เขามา พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ หาว่าผมเพี้ยน ผมไม่รู้จะทำยังไง ทรมานเหลือเกิน อยู่เต็มห้องไปหมก ทั้งกลางวันและกลางคืน เล่นงานผมทุกอย่าง ผมจะประสาทตาย ”

ขณะที่กลางดึกที่ผ่านมา เวลาประมาณตีหนึ่ง หมอปลาได้เดินทางมายังพื้นที่เกิดเหตุ ขณะถึงจุดเกิดเหตุ หมอปลาได้มีอาการลักษณะคล้ายจะอาเจียนและได้เปิดประตูเข้าไปดูในที่เกิดเหตุพบว่าที่เกิดเหตุยังไม่ได้มีการทำความสะอาดจึงแจ้งให้ทางผู้เช่าที่เป็นเพื่อนบ้านของผู้ตายและกู้ภัย ว่ายังไม่สามารถทำพิธีอะไรได้ต้องทำการทำความสะอาดห้องให้ดีก่อนจึงจะดำเนินการได้ แล้วจะกลับมาช่วยทำพิธีให้อีกครั้ง

ช่วงเช้าทีมข่าวช่อง 8 จึงเดินทางไปยังห้องเช่าที่เกิดเหตุ เมื่อทีมข่าวถึงได้พบว่าห้องเช่าดังกล่าวยังถูกปิดอยู่โดยมีสายเคเบิลไทล์ รัดไว้ตรงช่องใส่กุญแจ ด้านหน้ามีร่องรอยการจุดธูปช่วงที่หมอปลาลงดูที่เกิดเหตุ และยังมีกลิ่นโชยออกมาอยู่ตลอด บรรยากาศห้องเช่าเป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยส่วนใหญ่ผู้พักอาศัยออกไปทำงานกันหมดและส่วนที่อยู่ก็อยู่ภายในห้องของตนเองไม่มีผู้เช่าคนใดเปิดประตูออกมาเลย ทีมข่าวจึงเดินสำรวจบริเวณโดยรอบห้องเช่าเมื่อถึงทางเข้าห้องเช่าพบว่ามีกลุ่มผู้สูงอายุจับกลุ่มคุยกันอยู่4-5คน ทีมข่าวจึงเข้าไปสอบถามข้อมูล จากการสอบถามข้อมูลผู้สูงอายุกลุ่มนั้นได้พูดถึงเรื่องที่หมอปลาลงพื้นที่เมื่อคืนว่าเป็นอย่างไร ทีมข่าวจึงสอบถามถึงเรื่องที่มีผู้เสียชีวิตหลายคนในห้องเช่าแห่งนี้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรผู้สูงอายุกลุ่มนั้นได้แนะนำให้พบกับ ป้าติ๋ว

ทีมข่าวได้พูดคุยกับป้าติ๋วซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของดีเจผู้เสียชีวิตเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า

“เรื่องที่ไปลงข่าวที่ว่าเสียชีวิตห้องเดียวกันถึงสี่คนไม่เป็นความจริง โดยการเสียชีวิตนั้นเสียชีวิตต่างห้องกันและบางรายก็เสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยรายแรกนั้นเป็นเด็กซึ่งตัวป้าเองก็รู้จักและเคยเลี้ยงมาซึ่งเด็กคนนี้ได้ทะเลาะกับพ่อแม่และได้เกิดการน้อยใจจึงผูกคอตายบริเวณทางเข้าห้องเช่าแห่งนี้ซึ่งก่อนที่เค้าจะผูกคอตายเค้ายังได้มาพูดกับป้า ว่าถ้าหนูทำอะไรผิดไปก็ขอโทษด้วยนะป้า หลังจากนั้นก็พบว่าผูกคอตายบริเวณหน้าบ้านทางเข้าหอพัก

ส่วนคนที่สองก็เป็นคนแก่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

คนที่สามก็เช่นกันป่วยแล้วไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

คนล่าสุดก็คือดีเจคนนี้โดยปกติอดีตดีเจคนนี้จะไม่ค่อยยุ่งกับใครและไม่ค่อยออกไปไหนจึงเป็นเวลาหลายวันถึงจะพบศพว่านอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องของตนเอง สรุปได้ว่าตั้งแต่ป้าอยู่มามีผู้เสียชีวิต บริเวณห้องเช่าแห่งนี้ทั้งหมดเพียงห้าคนและเสียชีวิตภายในห้องนับได้แค่สามคนเท่านั้นแล้วแต่ละคนก็มีสาเหตุการเสียชีวิตแตกต่างกันไป ซึ่งลุงอดีตดีเจคนนี้เมื่อก่อนป้าเป็นคนดูแลหาข้าวหาน้ำให้กินแต่ช่วงหลังมาผิดใจกันก็เลยไม่ได้ทำอะไรให้อีก ส่วนตัวป้าไม่เชื่อเรื่องอาถรรพ์เพราะที่อยู่มาก็อยู่ด้วยความสงบสุขไม่เคยมีเรื่องราวใดๆ

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณเรณู โดยคุณเรณูเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า

ล่าสุดเห็นลุงอดีตดีเจเมื่อช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา โดยก่อนที่ลุงอดีตดีเจจะเข้าห้องยังหยุดยืนและจ้องหน้าตนตนจึงหลบหน้าไม่กล้าสบตา ซึ่งช่วงที่เห็น ก็เห็นชัดเหมือนคนปกติไม่มีอะไรผิดแปลก

แต่พอวันจันทร์กลับมาพบศพตนเองตกใจมากและกลัวมาก ถ้าบอกว่าลุงอดีตดีเจตายมาหลายวันแล้วแล้วก่อนหน้าที่ตนพบเห็นคืออะไร จึงทำให้ตนเองกลัวมาก

และช่วงข้ามคืนที่ผ่านมาตอนหมอปลาลงพื้นที่ตนเองก็อยู่ตรงนั้นหมอปลาก็ยังทักกับตน และสังเกตได้ว่าตนกลัวมาก หลังจากที่ ประสบเหตุการณ์ดังกล่าวมาตนเองก็รู้สึกหวาดกลัวผวาง่ายไปทุกเรื่อง และบางครั้งก็ไม่เป็นตัวของตัวเองรู้สึกแปลกๆ” ทีมข่าวจึงแจ้งให้ทราบถึงเรื่องที่หมอปลาบอกมาว่าคุณเปิ้ลมีอะไรแฝงอยู่ในตัว “พอทราบแล้วก็รู้สึกกลัวและหวิวๆ ขาอ่อนเหมือนจะเป็นลม แต่ก็รู้สึกเหมือนที่หมอปลาบอกมาซักระยะหนึ่งแล้ว หลังจากนี้ก็จะรอหมอปลาลงพื้นที่อีกหนึ่งครั้งและให้หมอปลาช่วยทำพิธีให้”

แมน การิน นักพยากรณ์ในศาสตร์ของตัวเลข วิเคราะห์ถึงตัวเลข 137 ว่า เลข 3 กับ 7 มีสถิติเกี่ยวข้องกับการเกิดอุบัติเหตุ หรือ ผ่าตัดมากกว่าตัวเลขอื่น ส่วนเลข 13 เป็นเลขที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุเป็นอันดับ 2 หากเห็นห้องเลขที่นี้ควรหลีกเลี่ยง เลข 37 เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตมากที่สุด ทั้งเห็นเลข 13 และ 37 ควรหลีกเลี่ยง ดังนั้นเลข 137 ถ้าพูดถึงทะเบียนรถหรือเบอร์โทรหรือห้อง จะค่อนข้างเลี่ยงกัน ไม่ค่อยใช้หรืออยู่ห้องแบบนี้ คนที่อยู่จะทำงานหนักมาก

หากจะแก้เคล็ดก็สามารถทำได้โดยการแต่งห้องเป็นโทนสีน้ำตาล

16.00 น.วันที่ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดน้ำคอกใหม่ ต.น้ำคอก อ.เมือง จ.ระยอง  พบกับ นางคำแก้ว อายุ 50 ปี และ นายชัยนุวัฒน์ อายุ 23 ปี อดีตภรรยา และ บุตรชาย ของ นายยาม โยศรี ดีเจไชยาเสียงหล่อ กำลังเคลื่อนร่างของ ดีเจไชยาเสียงหล่อ มาที่วัด เพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณี โดยมีเพียงลูกเมีย และ ญาติเท่านั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศล ได้ช่วยกันยกโลงบรรจุศพของนายยาม ไปยังศาลาเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

โดยนายชัยนุวัฒน์ ได้เปิดเผยว่า เสียใจมากกับการจากไปของพ่อ โดยคุยกับพ่อครั้งสุดท้ายเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ก่อนที่พ่อจะบอกว่า ต่อไปนี้ห้ามโทรหาพ่ออีก ให้เหตุผลว่า พ่อกลัวคุณไสยในตัวพ่อจะเข้าไปที่ตัวลูก ถึงแม้ว่าพ่อจะตายก็ไม่ต้องมางานศพ ก่อนหน้านี้พยายามสอบถามที่อยู่แต่พ่อก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน บอกแต่ว่าอย่าเจอพ่อเพราะคุณไสยที่ถูกทำยังอยู่ในตัว ถ้าลูกมาเจอพ่อคุณไสยจะเข้าลูก จึงทำได้แค่โทรหา และ ส่งเงินให้พ่อใช้จ่ายทุกเดือน โดยตนเองทำงานเป็น รปภ.อยู่ที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง สำหรับพ่อเสียชีวิตมาทราบเรื่องหลังจากที่มีข่าวพ่อ จึงรีบติดต่อไปทางเจ้าหน้าที่ และ เข้ารับศพในวันนี้ เสียใจที่ไม่ได้ดูแลพ่อก่อนเสียชีวิต พยายามตามหาเพื่อจะพาไปเลี้ยงดู แต่พ่อก็ไม่ยอม ส่วนเรื่องวิญญาณ พ่อเคยเล่าให้ฟังว่าถูกวิญญาณในห้องหลอกหลอนตลอด โดยส่วนตัวเชื่อว่าพ่อพูดความจริง

ด้าน น.ส.คำแก้ว ภรรยาของ ดีเจไชยาเสียงหล่อ  ได้กล่าวว่า ตนเองกับนายยาม ได้อยู่กินกันมาสิบกว่าปี โดยเลิกกันตอนลูกชายอายุได้ 5 ขวบ โดยช่วงที่อยู่ด้วยกัน อดีตสามีก็บอกว่าถูกทำคุณไสย จนต้องไปหาพระที่ จ.สมุทรปราการ ช่วยเอาออกให้ แต่ก็ยังออกไม่หมด หลังเลิกกันไปก็ไม่เคยเจอกันเลย ได้แต่โทรศัพท์คุยกัน โดยอดีตสามีก็ยังเชื่อว่า คุณไสยยังอยู่ในตัวยังออกไม่หมด ไม่ให้ตนเองและลูกไปเจอตัว กลัวคุณไสยในตัวจะเข้าตนเองและลูก และ ยังเคยเล่าให้ฟังว่า เจอวิญญาณในห้องที่อาศัยอยู่หลอกหลอน โดยส่วนตัวเชื่อว่าถูกหลอกจริง เพราะอดีตสามีเล่าให้ลูกชายฟังทุกครั้งที่โทรหา จึงเชื่อว่าเป็นความจริง  สำหรับงานบำเพ็ญกุศลศพ นายยาม โยศรี จะตั้งสวดพระอภิธรรม เป็นเวลา 1 คืน ก่อนจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ในวันที่ 8 มิ.ย.66 ที่เมรุ วัดน้ำคอกใหม่