ตลบหลังจับหัวหน้าป่าไม้ปล้นของกลาง ภาพชัดไอ้โม่งร่วมขน กลวิธีอย่างเซียน
เจ้าหน้าที่สวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ เผยนาทีถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ยืนคุมไม่ให้ไปไหน ยอมรับว่ารู้มาขนไม้ แต่ถูกควบคุมและไม่กล้าไปแจ้งตำรวจ
จากกรณีเมื่อ เช้าวันที่ 1พฤษภาคม นายวิสัน กุดแถลง หน้าสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ แจ้งความกับตำรวจ สภ.หนองสูงไต้ จ.มุกดาหาร ว่าเขาถูกคนร้ายบุกปล้นไม้ของกลาง ที่เก็บอยู่ด้านหลังหน่วย โดยอ้างอิงว่าเขาถูกจับไว้ที่อาคารหลังหนึ่ง ขณะที่ลูกน้องอีกหลายคนถูกจับไว้ในอาคารอีกหลัง จากนั้นก็อ้างว่ากลุ่มคนร้ายบังคับให้เขารับเงิน 2 แสน แลกกับไม้ที่ปล้นไม้ โดยเขามอบเงิน 2 แสนเป็นหลักฐานให้ตำรวจไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีพิรุธ อธิบดีกรมอุทยานฯ จึงสั่งย้ายนายวิสัน เข้ากรมฯ และสั่งชุดพญาเสือ และประสานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบจนข้อเท็จจริงปรากฏ
ผู้สื่อข่าวเดินทางมาขึ้นไปที่สวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ ซึ่งเป็นจุดที่มีการจัดฉากขโมยไม้พยุง ซึ่งอยู่ห่างจากถนนด้านหน้า ประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร
แต่ก่อนที่จะเดินทางขึ้นไปที่สวยพฤกษศาสตร์ เราได้เข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่า จ.ร้อยเอ็ด เนื่องจากสถานีนี้ถือเป็นจุดตรวจอีกจุดหนึ่ง ก่อนที่จะเข้าไปที่สวนพฤกษศาสตร์
โดยเจ้าหน้าที่นายหนึ่ง บอกกับเราว่า โดยปกติแล้ว ถ้าใครจะเดินทางขึ้นไปที่สวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ จะต้องผ่านสำนักงานดับไฟป่าก่อนเป็นอันดับแรก และทุกครั้งทางหน่วยงานจะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าเวรยามตลอด เพื่อตรวจรถเข้าออก โดยจะมีการจดบันทึกรถที่เข้าออกทุกครั้ง โดยเฉพาะรถบรรทุกหนัก
เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่า รายนี้ยังบอกอีกว่า วันเกิดเหตุ วันที่ 30 เมษายน ตนเองและเพื่อนๆที่เข้าเวรส่วนใหญ่จะออกปฏิบัติหน้าที่ดับไฟป่ากันหมด เนื่องจากช่วงนั้นเป็นหน้าแล้ง จะเกิดไฟป่าขึ้นหลายจุด ประกอบกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ออกดับไฟป่ากันหมด จึงไม่มีใครอยู่ที่สำนักงาน จึงไม่ได้สังเกตว่ามีรถเข้าออกไหมในวันดังกล่าว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางต่อมายังสำนักงานสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ ลึกเข้าไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร พบนายพาณิชย์ เจ้าหน้าที่สวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ พาเราไปดูจุดที่กลุ่มคนร้ายเข้ามาขนเอาไม้พะยูง จำนวน 2 ท่อน ซึ่งอยู่ด้านหลังอาคารสำนักงาน โดยจุดนี้มีกล้องวงจรปิดติดไว้ และสามารถจับภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ทั้งหมด
นายพาณิชย์ เจ้าหน้าที่สวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ เล่าว่า วันที่ 13 เมษายน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไม้พยุงของกลางมาได้ ก็ได้นำมาเก็บไว้ที่ด้านหลังสำนักงาน วางไว้ที่พื้นดินด้านบน ไม่นานนายวิสัน หน้าสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ ได้สั่งให้ลูกน้องนำรถไถ มาดันไม้ของกลางลงไปด้านล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่ลาดชัน เพื่อป้องกันคนร้ายมาเห็น เพราะเป็นไม้มีมูลค่า ตอนนั้นลูกน้องก็ทำตาม เพราะเห็นด้วยกลัวจะมีคนร้ายเข้ามาขโมย จนกระทั่งวันที่ 30 เมษายน ตนเองไม่ได้เข้าเวร แต่เห็นเพื่อนๆมาบอกว่ามีคนร้ายเข้ามาปล้นไม้ของกลาง โดยได้มีการควบคุมเจ้าหน้าที่ไว้
นายพาณิชย์ บอกว่า ตอนแรกยังเชื่อว่าเป็นการมาปล้นไม่ของกลางจริง และเชื่อว่าหัวหน้าก็ถูกกลุ่มคนร้ายบังคับ แต่พอมาดูภาพในกล้องวงจรที่บันทึกพฤติกรรมของหัวหน้าไว้หมด ตนเองรู้สึกเสียใจ เพราะนายวิสัน ถือว่าเป็นหัวหน้าที่รักลูกน้อง และทำงานเกี่ยวกับป่าไม้มานาน ควรจะรักหรือหวงแหนป่า แต่กลับเป็นคนทำร้ายป่าเอง
ขณะเดียวกันเราได้คุยกับเจ้าหน้าที่สวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ที่อยู่ในเหตุการณ์และถูกคนร้ายคุมตัวไว้ที่สำนักงาน เปิดเผยกับเราว่า ก่อนที่ในวันที่ 30 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 6 โมงกว่าจะมีกลุ่มคนร้ายเกือบ 20 คนขับรถยนต์ รถกระบะและรถบรรทุก เข้ามาที่สำนักงาน และมาพาตนเองไปที่อาคารเอนกประสงค์ โดยมีคนร้ายประมาณ 5-6 คน ยื่นควบคุมตนเองไว้ โดยไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายและไม่ได้พูดจาข่มขู่ แต่ไม่ให้ตนเองใช้โทรศัพท์ เพราะกลัวว่าตนเองจะโทรศัพท์มาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้นก็จะเห็นกลุ่มคนร้ายช่วยกันยกไม้พะยูงขึ้นมาจากข้างล่าง ตนเองก็สั่นไม่รู้จะทำยังไง เพราะกลัวกลุ่มคนร้ายทำร้าย ก็ได้แต่ยืนดูคนร้ายช่วยกันขนไม้ขึ้นรถ
ขณะนั้นตนเองก็สงสัยว่าคนร้ายขึ้นมาขโมยไม้พะยูงถึงที่สำนักงานแต่ทำไมหัวหน้าจึงไม่โทรศัพท์ลงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะโดยปกติแล้วหากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหัวหน้าจะต้องโทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
แต่หลังจากที่คนร้ายขนไม้เสร็จก็ได้พากันลงไปด้านล่างหลังจากนั้นคนร้ายก็ปล่อยตนเองไป และตนเองก็ไม่กล้าโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะกลัวว่าจะถูกไล่ออกเนื่องจากตอนนั้นยังไม่รู้ว่าหัวหน้ามีส่วนร่วมในขบวนการนี้ด้วย
ล่าสุดวันนี้ (7มิย.) ผู้สื่อข่าวช่อง8เดินทางมาสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองสูงใต้ จ.มุกดาหาร เกี่ยวกับความคืบหน้าของคดี ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการเร่งรัดทำสำนวนคดี ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากหนัก
แต่จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่า นายวิสัน หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ ได้รับการประกันตัวไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 2 มิถุนายน 66 ที่ผ่านมา และจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้
ส่วนกรณีรถบรรทุก 10 ล้อ ของบริษัทหนึ่ง ที่ได้ขึ้นไปขนไม้ที่สวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ ในวัดเกิดเหตุ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้น ทราบว่า ถูกว่าจ้างให้มาขนไม้ เบื้องต้นเจ้าของรถเช่าปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็น
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าของรถบรรทุก 10 ล้อ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ได้ แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อและที่อยู่ เปิดเผยกับเราว่า ขณะที่ตนเองและสามีวิ่งส่งงานลูกค้าในพื้นที่จังหวัดยโสธร จากนั้นก็มีไลน์เด้งเข้ามา จ้างให้ตนเองมาขนไม้สักถูกกฎหมายและไม่ใบอนุญาตถูกต้อง โดยให้ขึ้นไปขนไม้จากสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ ไปส่งที่อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย โดยว่าจ้างเป็นเงิน 9,000 บาท
ตนเองจึงตัดสินใจรับงานและเดินทางมาที่จังหวัดร้อยเอ็ดตามเวลานัดหมาย พอตนเองและสามีขับรถเข้าไปจอดที่ด้านหลังอาคาร ที่เก็บไม้ ก็เห็นกลุ่มคนร้ายท่าทางมีพิรุธ โดยได้มีการเอาผ้าปิดบังใบหน้า และไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ส่วนไม้ที่ให้ไปขนก็ไม่ใช่ไม้สัก แต่กลับเป็นไม้พยุง
ซึ่งตอนนั้นตนเองรู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นไม้ที่ผิดกฎหมาย แต่ทางกลุ่มคนร้ายก็ยืนยันว่าเป็นไม้ที่ถูกกฎหมายและได้นำเอาเอกสารฉบับหนึ่งมาให้ตนเองดู และตนเองก็เก็บไว้ แต่ยังไม่ทันได้ดูเอกสาร เพราะมืดและกลัวด้วย
ยอมรับว่ากลัวและไม่กล้าทำอะไร เนื่องจากไม่รู้ว่ากลุ่มคนร้ายมีอาวุธหรือไม่ ซึ่งตนเองและสามีได้แต่นั่งอยู่ในรถบรรทุก จนกระทั่งคนร้ายขนไม้ขึ้นรถบรรทุกเสร็จ ก็สั่งให้ตนเองนำไม้พร้อมเอกสาร 1 ฉบับไปส่งที่ปลายทาง จากนั้นตนเองก็เดินทางกลับทันที
ผู้สื่อข่าวได้รับคลิปจากกล้องวงจรปิดของร้านค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด จับภาพคนร้ายขับรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว มาจอดที่หน้าร้านค่า และพบคนกลุ่มนี้สวมผ้าปิดบังใบหน้าเดินไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ที่อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด มีการกดเงินออกรวม 4 แสน 7 หมื่นบาท
ต่อมาศาลจังหวัดมุกดาหารออกหมายจับ จำนวน 16 หมาย
โดยจับกุมตัวแล้ว 12 ราย หลบหนีหมายจับ 4 ราย