แท็กซี่หัวร้อนด่านักเที่ยวจีน ขุดอดีตสุดกร่าง ไหว้สวยขอโทษ จนส่งปรับ 3 พันจบ

จากคลิปที่เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น Part 6 โพสต์เรื่องแท็กซี่ส่วนบุคคลรับนักท่องเที่ยว หน้าวัดพระแก้วไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านสาทร โดยโชเฟอร์ไม่กดมิเตอร์เรียกค่าโดยสาร 700 บาทจากนักท่องเที่ยว เมื่อผู้โดยสารไม่ยอมจ่ายเพราะรู้ทันว่าโดนโกงค่าโดยสาร  และจ่ายค่าโดยสาร 200 บาท จึงเกิดการโต้เถียงกันระหว่างผู้โดยสารชาวเกาหลี และคนขับแท็กซี่ โดยเฉพาะคนขับแท็กซี่ใช้คำด่าหยาบคายหลายครั้ง ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเย็นวานนี้ (7 มิ.ย.)

ล่าสุด ทีมข่าวช่อง 8 ติดต่อสอบถามคุณพี (นามสมมติ) ผู้ถ่ายคลิป  เล่าพฤติกรรมแท็กซี่หัวร้อนตอนมาส่งนักท่องเที่ยวที่โรงแรมแล้วจอดรถคุยกับผู้โดยสารชาวจีนอยู่พักใหญ่ เมื่อพนักงานโรงแรมเข้าไปถามนักท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวเลยถามว่าค่าแท็กซี่ 700 บาทโอเคไหม พนักงานเลยถามว่านั่งมาจากไหนนักท่องเที่ยวเลยบอกพิกัดว่านั่งมาจากวัดพระแก้ว

ทางพนักงานเลยบอกว่า 700 มันแพง ผู้โดยสารเลยรู้ว่าโดนโกง ผู้โดยสารก็เลยถามโชเฟอร์แท็กซี่ทำไมต้องจ่าย 700 แท็กซี่ตวาดเสียงแข็ง “ผมเป็นแท็กซี่วิน” ก่อนงลดเหลือ 500 บาท นักท่องเที่ยวก็ข้องใจถามอีกรอบว่าทำไมต้องจ่าย 700 บาท สุดท้ายกลายเป็นเหตุทะเลาะเพราะทั้งผู้โดยสารและแท็กซี่ลงรถมาเถียงรุนแรงตามคลิป สุดท้ายที่ตกลงจ่าย 300 บาท แท็กซี่แสดงอาการไม่พอใจ จนพนักงานโรงแรมต้องเข้ามาขวางกลัวจะปะทะกัน เรื่องราวไม่จบแค่นั้นเพราะ โชเฟอร์เดินขึ้นรถกลับย้อนมาทวงค่าน้ำเปล่าที่นักท่องเที่ยวดื่มในรถ

ซึ่ง พี่มาเรียกเก็บเงินเพิ่มคุณพี่มองว่าน่าจะมาจากแท็กซี่ไม่ได้เงินตามต้องการ

คุณพีให้ข้อมูลว่าแท็กซี่คันนี้ไม่เปิดมิเตอร์ แถมไม่มีวางป้ายแท็กซี่มิเตอร์บนหลังคาด้วย แต่ไม่เคยเจอรถคันนี้มาจอดที่โรงแรม

ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่หน้าวัดพระแก้ว ฝั่งถนนมหาราช ได้พบรถแท็กซี่เขียวเหลืองคันที่ต้องสงสัยว่ามีการเหมามิเตอร์ 700 บาทรับนักท่องเที่ยวชาวจีนไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านสาทร ปรากฏว่าโชเฟอร์รถคันดังกล่าวเปิดกระจกรถมามองทางทีมข่าว แต่ไม่ยอมพูดคุยหรือชี้แจงกับทีมข่าวเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคลิป เจ้าตัวพยายามขับรถวนออกจากท่ามหาราช

ทีมข่าวพยายามติดตามเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่รถแท็กซี่คันดังกล่าวเร่งความเร็วขับออกไป ก่อนปาดเข้ามาจอดซ้ายแล้ว รอจังหวะขับปาดออกเลนขวาสุด เลาะเลียบทางวัดพระแก้ว และมีจังหวะที่รถเลี้ยวเข้าซอย คนขับแตะเบรกระยะกระชั้นชิด ทำให้รถทีมข่าวที่ขับตามมาต้องรีบเหยียบเบรกไว้ ก่อนที่แท็กซี่คันดังกล่าวจะเหยียบคันเร่งซิ่งรถออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ยอมลงมาพูดคุยและชี้แจงข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น

หลังจากที่คนขับแท็กซี่คนนี้ขับซิ่งหนีทีมข่าวไปโดย ไม่ชี้แจงใดใด ทีมข่าวช่องแปด สังเกตการณ์อยู่บริเวณวัดพระแก้วจนพบรถแท็กซี่คันหนึ่งขับเข้ามาในบริเวณนั้นทีมข่าวลองไปสอบถามข้อมูลนายธนาธิป โชเฟอร์แท็กซี่ ทราบว่าเขาอยู่ในกลุ่มเดียวกับแท็กซี่หัวร้อน เรียกชื่อเล่นว่า โอ หรือ ฉายาด็อกเตอร์ โดยพี่ท่านนี้ลองโทรหานายโอ ทราบว่านายโอ แท็กซี่หัวร้อนกำลังจะไปพบเจ้าหน้าทีกรมการขนส่งทางบก แต่เจ้าตัวไม่ยอมบอกว่าอ้างว่านักข่าวจะตามเหรอ เพื่อนท่านนี้บอกนายโอว่าให้มาขอโทษนักข่าวเพราะเหมือนมีจังหวะที่แท็กซี่หัวร้อน พยายามจะเบรกรถกะทันหัน ทำให้รถข่าวที่ขับตามต้องเบรกในระยะกระชั้นชิด ทำให้แท็กซี่หัวร้อนตวาดใน โทรศัพท์ว่าอะไรกันนักหนา มีเรื่องอะไร พร้อมบอกให้มาสัมภาษณ์ต

ด้านธนาธิป สมนึก เพื่อนแท็กซี่พูดถึงพฤติกรรมของนายโอว่าเคยเตือนไม่ให้ทำพฤติกรรมกร่าง กลุ่มแท็กซี่ที่ตนอยู่กลายเป็นต้องมาโดนหางว่าวไปด้วย ก่อนจะมีสายปริศนาพยายามชี้แจงว่า ที่อยู่ไม่ใช่กลุ่ม แค่รู้จักกันเฉยๆ อยากรู้อะไรให้นักข่าวมาถามเขานี่ ซึ่งโชเฟอร์คนที่คุยกับทีมข่าวพยายามบอกว่าผมโกหกไม่เป็น เรื่องจริงคือเรื่องจริง

นักข่าวถามว่าเขาอยู่กันเป็นกลุ่มเหรอ วนไปวนมา ผมไม่ใช่คนโกหก ดูดเสียงคำหยาบ ก่อนวางสายพูดด่าว่าโชเฟอร์ว่าเลอะเทอะ

วันนี้ (8 มิถุนายน 66) กรมการขนส่งทางบก โดยกองตรวจการขนส่งทางบก ได้เรียกผู้ขับรถคันดังกล่าวมาสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ปรากฏว่า ผู้ขับรถชื่อ นายทวีศักดิ์  โดยให้การยอมรับว่า ในวันเวลาเกิดเหตุดังกล่าว ตนเป็นผู้ขับรถ ซึ่งได้รับผู้โดยสารชาวต่างชาติ (ชาวเกาหลี) จากหน้าวัดโพธิ์ เพื่อไปส่งที่โรงแรมแชงกรีล่า และได้ตกลงเรียกเก็บค่าโดยสาร เป็นจำนวน 500 บาท แต่เมื่อถึงจุดหมายผู้โดยสารจ่ายค่าโดยสาร จำนวน 300 บาท ตนเกิดความโมโห ที่ไม่ได้รับเงินตามที่ตกลงกัน จึงต่อว่าผู้โดยสาร ตามที่ปรากฏในคลิปจริง

กรมการขนส่งทางบก พิจารณาแล้ว การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 จึงได้ลงโทษเปรียบเทียบปรับ เป็นจำนวนเงิน 3,500 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับรถ ดังนี้

1. ข้อหาเรียกเก็บค่าโดยสารเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ตามมาตร 66/5 เป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท
2. ข้อหาแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ และข้อหาแต่งกายไม่ถูกต้อง ตามมาตร 57 ฉ เป็นจำนวน 500 บาท
3. พักใช้ใบอนุญาตขับรถ เป็นจำนวน 30 วัน
4. ส่งเข้าอบรม เกี่ยวกับกฎระเบียบที่เกี่ยวกับการขับรถสาธารณะที่ดี และบันทึกประวัติการกระทำความผิดไว้ในระบบ ทั้งนี้หากพบการกระทำผิดซ้ำอีกจะได้ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะต่อไป

นอกจากนี้ยังมีภาพเหตุการณ์เมื่อเดือนตุลาคมปี 62 เป็นเหตุการณ์ที่แท็กซี่รายหนึ่งตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายท้าต่อยอยู่ตลอดเวลา แม่ว่าจะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้าห้ามก็ตาม

โดยผู้ถ่ายคลิปคือเจ้าของธุรกิจรับเหมาจ้างจัดงาน เปิดเผยว่า ตนขับรถ 6 ล้อ บรรทุกเต็นท์จัดงานจะไปจัดสถานที่ในสนามหลวง ซึ่งวันเกิดเหตุเป็นคนขับรถเอง ไม่ได้ให้ลูกน้องขับ โดยตนไม่ได้เบียดหรือปาดหน้า แต่แท็กซี่คันดังกล่าวเปลี่ยนเลนกะทันหัน ทำให้มาปาดหน้ารถ 6 ล้อ

จากนั้นแท็กซี่ลดกระจก จอดรถ และยกนิ้วกลาง ตนก็งงว่าไปขับรถปาดหน้าตอนไหน แต่สุดท้ายเมื่อตะโกนถามจึงทราบว่าแท็กซี่ไม่พอใจที่ขอแทรกไม่ได้เลยโมโห แท็กซี่ได้ไปตามพวกมา 8-10 คน พร้อมกับอาวุธ และเข้ามาต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย