โจ๋ 16 พาพ่อเคลียร์ใจรุ่นน้อง 14 ปาดคอดับสยอง อ้างลูกถูกไล่ฟันเลยปกป้อง

ที่จังหวัดอุทัยธานี เมื่อเวลาประมาณ 23.50 น. ของวันที่ 7 มิ.ย. 2566 เกิดเหตุ ด.ช.ภัทรกร หรือเฟรม อายุ 14 ปี ถูกฟันเข้าที่คอ บาดแผลฉกรรจ์ ลึก 20 เซนติเมตร ตัดเส้นเลือดใหญ่ถึงหลอดลมขาด โดยมีนายธีระเดช อายุ 16 ปี เพื่อนของผู้ตาย โทรแจ้งตำรวจ สภ.ลานสัก และรออยู่ในที่เกิดเหตุ บริเวณถนนสายลานสัก - บ้านถนนสุด หมู่ 10 ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี

นายธีระเดช ให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ได้ถูกนายเก อายุ 16 ปี และพ่อของนายเก ขี่รถจักรยานยนต์ใช้มีดหัวตัด ความยาวประมาณ 14 นิ้ว ไล่ฟันตนเองและเพื่อนที่มาด้วยกัน จนทำให้ ด.ช.เฟรม ถูกฟันเข้าที่คอจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพศพพบบาดแผลฉกรรจ์บรเวณลำคอ ตัดเส้นเลือดใหญ่และหลอดลมขาด

จากการสอบสวนนายธีระเดช และนายชัยวัฒน์ เพื่อของเฟรมที่อยู่ในเกิดเหตุ เล่าว่า เมื่อวานตนเองได้มีเรื่องกับกลุ่มนายพัทธพงศ์ หรือเก และได้ชกต่อยต่อยกันในโรงเรียน หลังจากนั้นด.ช.เฟรม ได้เข้าไปห้าม และก็ได้เลิกรากันไป จนเรื่องมาทราบถึงครู หลังจากนั้นครูได้เรียกผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายมาเคลียร์ปัญหากันที่โรงเรียน

หลังจากนั้นผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายมาพบครูใหญ่ โดยผู้ปกครองฝ่ายของนายเกไม่มา โดยส่งให้นายกั๊กซึ่งเป็นอามาแทน หลังจากทีเคลียร์กันเรียบร้อยที่โรงเรียนก็จบ ไม่มีอะไร จึงแยกย้ายกันกลับบ้าน

แต่หลังจากกลับบ้านนายเก ได้ไปเล่าให้พ่อ คือ นายบุญชู ฟัง หลังจากที่นายบุญชูทราบเรื่องก็ไม่พอใจ หลังจากนั้นได้มีการแชตตามให้กลุ่มของน้อง ด.ช.เฟรม กับพวก ออกมาเจอกัน จนกระทั่ง ด.ช.เฟรมถูกฆ่าตาย

ต่อมาช่วงสาย ญาติได้นำตัวนายบุญชู และลูกชาย คือนายเก พร้อมกลุ่มเพื่อน เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.ลานสัก เพื่อรับทราบข้อกล่วหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น และพยายามฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา

นายเก ยอมรับว่า เรื่องทั้งหมดมาจากเด็กทะเลาะกัน แต่ตอนที่เกิดเรื่องตัวเองไปบอกพ่อ พ่อก็ไม่พอใจ ก็เลยนัดให้กลุ่มของ ด.ช.เฟรม ออกมาเจอ โดยนายเก อ้างว่า ฝ่ายของตนไม่ได้คิดจะทำร้ายเลย แต่ฝ่ายคู่กรณีมีอาวุธมีด แล้วจะไล่ฟันพวกตน โดยเพื่อนของตนที่ขี่รถมาข้างหลังถูกฟัน จากนั้นฝ่ายคู่กรณีได้ขี่รถไล่ตน ชี้หน้าตนกับพ่อ พ่อจึงตะโกนให้ของลับกลับไป แล้วคู่กรณีก็ขี่ไปหาเพื่อน จากนั้นพวกตนได้ขี่รถไล่ตามไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ฝ่ายคู่กรณีได้ลงจากรถแล้ววิ่งเข้ามา จึงมีการวิ่งไล่กัน แล้วตนก็วิ่งหนี

ต่อมา ตำรวจได้คุมตัวนายบุญชูไปชี้จุดทำแผนฯ โดยอ้างว่า ตนเห็นลูกขี่รถออกมาเพื่อมาดักฝ่ายคู่กรณี จึงรีบตามออกมาเพื่อตั้งใจที่จะมาห้ามปราม แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็พบว่าที่เกิดเหตุก็มีการไล่ฟันกันแล้ว ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุมืดมาก ตนจึงไม่เห็นว่าใครเป็นใคร ประกอบกับตนดื่มสุรามาจึงมีอาการมึนเมา และตนก็ไม่เห็นว่ามีใครล้มอยู่ตรงไหนบ้าง เห็นเพียงแต่ลูกของตนและฝ่ายผู้เสียชีวิตไล่ฟันกัน เมื่อมีจังหวะจึงแยกลูกของตนและพากลับไปยังที่พัก เมื่อถึงที่พักแล้วฝ่ายของผู้เสียชีวิตได้แชตบอกกับทางฝ่ายเพื่อนลูกของตนว่า ด.ช.เฟรม ถูกลูกของตนฟันเสียชีวิต ตนจึงดึงลูกมากอดแล้วบอกกับลูกว่าทำผิดไปแล้วก็คือผิด และพาลูกไปแอบอยู่ในไร่เพื่อตั้งหลักก่อน แล้วช่วงเช้าถึงได้พาเข้ามอบตัวกับตำรวจ

เมื่อทำการชี้จุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พาพ่อของผู้ก่อเหตุกลับไปยังสถานีตำรวจจากนั้นมีชาวบ้านเดินมาบอกกับทีมข่าวได้กู้ภัยว่าได้พบอีกหนึ่งเล่มตกอยู่ข้างทางตรงข้ามจุดเกิดเหตุไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ ทางทีมข่าวจึงเดินไปตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบว่าเป็นมีดสปาต้าสีดำยาวประมาณ 2 ฟุตจำนวนหนึ่งเล่มตกอยู่ข้างทางแล้วบริเวณตัวมีดยังมีรอยบิ่น ซึ่งไม่ทราบว่าเกิดจากการฟันสิ่งใดมา ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้กลับมานำไปตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่

ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดก่อนจะเกิดเหตุการณ์ บริเวณปากทางหน้าอุทยานแห่งชาติห้วยขาแข้ง โดยจะเห็นจยย. ฝ่ายนายเก กับเพื่อนๆ มากัน 2 คันด้วยกัน โดยมาจอดรอเพื่อนที่จะตามมา จนครบ 4 คันแล้วจึงขี่ออกไป เพื่อมุ่งหน้าไปจุดเกิดเหตุ

ด้านยายของเฟรม บอกว่า ก่อนหน้านี้มีการด่ากันต่อยกันที่โรงเรียน ซึ่งทางคุณครูก็ได้โทรมาหายายเพื่อให้ยายไปรับหลานกลับบ้าน เมื่อกลับบ้านมาก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรแล้ว แต่พอตกกลางคืนยายก็กางมุ้งนอนอยู่หน้าห้องของหลาน ซึ่งฟังเสียงภายในห้องก็ดูปกติ โดยภายในห้องเปิดพัดลมไว้ คิดว่าหลานนอนหลับไปแล้ว แต่มาพบว่าหลานปีนหน้าต่างนี้ออกไปหาเพื่อน และเมื่อเวลาประมาณ 5 ทุ่ม น้องสาวก็ได้มาเรียกและบอกว่าหลานถูกฟัน ไม่รู้ว่าเป็นแผลเยอะขนาดไหนให้รีบไปดู ตนจึงรีบออกไปดูที่เกิดเหตุแล้วพบว่าหลานคอพับไปแล้ว ที่ตัวและใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด ความรู้สึกแรกถึงกับช็อก เพราะเลี้ยงหลานมาตั้งแต่เล็ก ตอนคลอดต่อจากมือหมอก็คือยาย

ขณะที่แม่ของเฟรมได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองทราบเรื่องโดยน้าสาวโทรไปบอกว่า ลูกถูกฟันเสียชีวิต จึงรีบเก็บเสื้อผ้ากลับมาบ้านที่จังหวัดอุทัยธานี โดยตนเองทำงานอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ ไม่ได้เป็นผู้เลี้ยงดูลูกชายคนนี้ โดยมียายเป็นผู้เลี้ยงดู เมื่อทราบข่าวก็ใจแทบสลายเพราะมีลูกด้วยกันสองคน คนโตเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว แต่คนนี้คิดไว้ว่า จบ ม.3 จะพาเค้าไปอยู่ด้วย และส่วนตัวได้คุยกับแม่ของเพื่อนลูกที่ประสบเหตุด้วยกัน ได้เล่าให้ต้นฟังว่า ลูกของเค้าก็ถูกฟันเหมือนกัน แต่วิ่งหนีเข้าป่าจึงรอดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน ปู่ของนายเก เล่าว่า ก่อนหน้านี้หลานของตนก็มีปัญหาชกต่อยกับเพื่อน และหลานของตนอยากจะย้ายโรงเรียนหนี แต่ตนก็ได้ห้ามไว้เพราะว่าบ้านอยู่นี่จะย้ายไปไหน แล้วก็จะเคลียร์ให้ แต่ก็ยังไม่ได้เคลียร์ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทางกลุ่มผู้เสียชีวิตได้มีการท้าชกต่อยกับทางกลุ่มหลานของตน แต่เมื่อชกต่อยกันแล้วทางกลุ่มผู้เสียชีวิตได้แพ้ทางกลุ่มหลานตนจึงเกิดการรุม จากนั้นก็ไม่ถูกกันเรื่อยมา และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ช่วงกลางวันทางกลุ่มผู้เสียชีวิตได้มีการปิดห้องและรุมต่อยหลานของตน จนทางผู้อำนวยการต้องเป็นคนขึ้นไปแยก และให้ผู้ปกครองมารับกลับทั้งสองฝ่าย จากนั้นเมื่อกลับมาถึงบ้านหลานก็ได้อยู่กับกลุ่มเพื่อน และฝ่ายทางผู้เสียชีวิตก็ได้แชตมาขู่ฆ่าทางหลานของตนและกลุ่มเพื่อน จนรู้ถึงพ่อของหลานซึ่งเป็นลูกของตน ถึงได้ประสานให้ทางผู้ใหญ่บ้านนัดเคลียร์แต่ก็ไม่ได้มีการเคลียร์กันเกิดขึ้น กลุ่มหลานของตนและเพื่อนจึงนัดกันออกไปเคลียร์กันเองบริเวณหน้าวัด แต่กลุ่มของผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้ออกมาพบ จนถึงช่วงประมาณห้าทุ่มทางกลุ่มหลานของตนและเพื่อนก็ได้ออกไป ซึ่งช่วงนั้นตนเองนอนหลับไปแล้ว มาทราบอีกทีหลานก็ก่อเหตุไปแล้วซึ่งตนเองเสียใจมาก มันเป็นเรื่องของเด็กไม่น่าจะเกิดความรุนแรงขนาดนี้